วันอังคาร, พฤษภาคม 10, 2565

รู้มั้ย โครงการ 'โคกหนองนา' นอกจากจะยึดหลัก ‘พอเพียง’ แล้วยังต้องใช้หลัก ‘เพียร (ให้) พอ’ อย่าง ‘พระมหาชนก’ อีกด้วย

เรื่องประหลาดในไตแลนเดีย ฟังแล้วต้องร้องฮ้า เยาวชนทำโพลชิมลองบนท้องถนน และในศูนย์การค้า ก่อนหน้านั้นทำเรื่องรถติดเพราะขบวนเสด็จ คะแนนท่วมท้นหน้าเบ้บอกว่า เดือดร้อนฝ่าย จงรักจึงทำบ้าง ผลท่วมท้นเหมือนกัน

โพลของกลุ่ม ไทยรักษา ซึ่งไปยืนถือป้ายให้เลือกติดสติ๊กเกอร์ที่เมเจอร์รัชโยธิน มีแต่บอกว่า “อยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับประชาชนชาวไทยตลอดไป” ก็เลยมีกลุ่มนักกิจกรรมอิสระไปยืนทำโพลแบบเดียวกัน ที่เก่า คนละวัน ๙ พฤษภา

พอเริ่มมีสติ๊กเกอร์ติดเฉพาะข้างที่บอกว่า “ไม่รัก ไม่อยากให้อยู่” ก็มีคนของห้างเมเจอร์ฯ ไปห้ามว่าทำไม่ได้เป็นสถานที่ส่วนบุคคลต้องขออนุญาตก่อน แล้วไล่ให้ออกไป มีตำรวจจาก สน.พหลโยธินทั้งในและนอกเครื่องแบบชี้หน้าว่ากิจกรรมนี้ หมิ่นเหม่

หมิ่นเหม่ยังไง อ๋อ มันทำท่าจะทำให้โพลของไทยรักษาเป็น เฟคละสิ จึงต้องจัดการยับยั้ง ห้ามรายนี้แต่ไม่ห้ามรายโน้น ก็ยังดีที่รายไม่ถูกห้ามไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ถึงขนาดสิ้นเปลืองงบประมาณจากเงินรายได้เก็บภาษีอากรราษฎรกว่า ๔ พันล้านบาท

กรมพัฒนาชุมชนได้รับงบประมาณ ๔,๗๘๗.๙๑๖ ล้านบาท ทำโครงการ โคกหนองนาโมเดล อันเป็นวิถีการเกษตร ทฤษฎีใหม่ที่แตกต่างจากปกติ ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ อีกทั้งยังดำเนินรอยตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของ ร.๙ ด้วย

ครั้นเมื่อเริ่มโครงการในปีแรก ๒๕๖๔ ปรากฏว่าเผชิญปัญหาเยอะแยะ ขุดบ่อแล้วน้ำไม่ขัง เลี้ยงปลาไม่ได้ หรือว่าขุดเท่าไหร่ไม่เป็นบ่อตามสเป็คเสียที เพราะพื้นที่ต่างกัน บ้างดินทราย บ้างฝนชุกแซะโคลนไหล บ้างพื้นที่แคบกว่ากำหนด กลายเป็นคลองไส้ไก่เต็มไปหมด

จนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ แห่งที่ประสบผลดีตามวาดหวังก็มีอยู่ แต่ดูเหมือนที่ยังแก้ปัญหาโน่นนี่ไม่ตกก็เยอะ ทั้งๆ ที่เบิกใช้งบประมาณกันไปแล้ว “๘๔% หรือกว่า ๔,๐๖๗ ล้านบาท” ทั้งนี้ตามรายงานพิเศษตอนที่ ๓ ของ บีบีซีไทย ซึ่งไปสัมภาษณ์ชาวนาในโครงการ

ตัวอย่างเกษตรกรรายหนึ่งชาวดอนหันพัฒนา เชียงยืน ฯสารคาม บอกว่า “เลี้ยงปลาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแล้วน้ำมันก็เซาะดินลงไป (ในบ่อ) หมดแล้ว เลยว่าอยากจะเลี้ยงกบ เพราะว่าไม่ได้ใช้น้ำเยอะ” อยากได้พล้าสติกมาคลุมดิน

เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนกลับบอกให้เธอเดินหน้าปรับปรุงบ่อน้ำ และยังแนะนำด้วยว่าให้ทำแบบคนจน...” ไม่ต้องจ้างแรงงาน ไม่ต้องใช้เครื่องจักร พอวิศวกรอาสาไปตรวจดูสภาพพื้นที่บอกว่า “จะต้องใช้เวลาราว ๓ ปีในการปรับปรุงบ่อ จึงจะกักเก็บน้ำได้”

สรุปว่านอกจากจะใช้หลัก พอเพียงแล้วยังต้องใช้หลัก เพียร (ให้) พอ อย่าง พระมหาชนก อีกด้วย วิศวกรอาสาคนหนึ่งเล่าว่าเคยเจอปัญหาแบบเดียวกันจากอำเภออื่นมาแล้ว ต้อง “ใช้เวลาแก้ปัญหาอยู่ ๘ เดือน ก็เริ่มเก็บน้ำได้”

“ที่เราทำกันมาทั้งหมด มันทำให้คนไทยตื่นรู้นะว่า สิ่งที่ในหลวงสอน สอนให้มีความเพียร ไม่มีโครงการไหนหรอกครับ ทำมาแล้วจะเป็นไปตามตำราแล้วก็ทำได้สมบูรณ์แบบ” เขาแจงให้บีบีซีไทยทราบ แต่สำหรับเกษตรกรรายนั้น “ความเพียรอย่างเดียวไม่พอ

...ต้องหาขี้วัวมาให้เพียงพอด้วย” การย่ำขี้วัวที่พื้นบ่อเป็นภูมิปัญญาโบราณ ซึ่งจะทำให้น้ำไม่ซึมหายไปหมดอย่างที่เป็นปัญหา เพียงแต่ว่าขี้วัวที่ใช้ย่ำในพื้นบ่อขุดของเกษตรกรรายนี้น้อยไปหน่อย เลยไม่ได้ผล จึงต้องใช้ความเพียรอย่างเพียงพอ หาขี้วัวมาเพิ่มให้พอเพียง

(https://www.bbc.com/thai/thailand-61368729_OPvs และ https://www.facebook.com/RatsadonNews/posts/388978293195893)