รัฐบาลยอมปรับสูตรไขว้ฉีดวัคซีนโควิด เริ่มตุลาไม่มีซิโนแว็ค หลังจากการสั่งซื้อล็อตล่าสุดหมดลง สูตรใหม่ถ้าไม่เป็นแอสตร้าเซเนก้า ๒ เข็ม หรือไฟ้เซอร์ ๒ เข็ม ก็ให้ไขว้แอสตร้าฯ เข็มแรก ตามด้วยไฟ้เซอร์เข็มสอง เหตุอ้างไม่ใช่ซิโนแว็คไม่ดี แต่
“ยังไม่มีแผนที่จะซื้อเพิ่ม” นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคแถลง “เว้นแต่ว่าจะมีข้อมูลการพัฒนาว่าสามารถฉีดในเด็กได้” เพราะต้องใช้วัคซีนจากเชื้อตาย จะปลอดภัยในเด็กมากกว่า “วัคซีน mRNA ก็ฉีดได้” จีนเองก็กำลังพยายามทดลองอยู่
ดูแล้วปัญหารัฐบาลโดนด่าที่ซื้อวัคซีนห่วยน่าจะคลี่คลาย ถ้าสถานทูตจีนไม่เผือกออกแถลงการณ์ด่าคนไทย “ด้อยค่า” วัคซีนจีน ลำเลิกบุญคุณว่า “เป็นมิตรไมตรีจิตอันจริงใจ ที่รัฐบาล (และประชาชน) จีนมีต่อรัฐบาล (และประชาชน) ไทย” (น่าจะตัดคำว่าประชาชนออกนะ)
“บางคนและบางองค์การของประเทศไทยได้ด้อยค่าและใส่ร้ายวัคซีนจีนโดยไม่มีเหตุผล” ถ้อยแถลงว่าหลังจากสาธยายสรรพคุณจากผลทดสอบของชิลีบ้าง (๘๖%) อินโดนีเซียบ้าง (๙๒-๙๕%) แต่ไม่ได้พูดถึงผลทดสอบในประเทศตะวันตกที่พบว่าประสิทธิภาพลดในสามเดือน
อย่างไรก็ดี แถลงของสถานทูตจีนในไทยฉบับนี้ ออกจะเกินมารยาททางการทูตอันควรไปเล็กน้อย จะเรียกว่าเป็นการติงอย่างมหามิตร หรือกำเริบเสิบสาน คิดว่า ‘ไท้กั้ว’ เป็นบริวารต้องสั่งสอน ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลไทย ‘kowtow’ ก้มหัวให้เขาแค่ไหน
ทว่าเสียงแสดงความไม่พอใจในท่าที ‘เฮีย’ ของจีนครั้งนี้บนโซเชียลมีเดียชักจะอึงมี่ อย่างเบาะๆ จาก Flowers@TrueDemocracy14 ว่า “สถานทูตจีนทำไมไม่ออกมาประกาศว่าประเทศมาเลเซียกับสิงคโปร์” บ้าง “ทั้งสองแห่งนั่น เททิ้งเลยเพราะคุณภาพต่ำ”
พูดอย่างนักวิชาการ เช่น chamnan chanruang @chamnanxyz แค่ว่า “เงินที่เอาไปซื้อซิโนแวคนั้นภาษีเราไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเราจะวิจารณ์ไม่ได้ และไทยไปเป็นเมืองขึ้นของจีนตั้งแต่เมื่อไหร่” นั่นน่ะสิ แม้จีนจะมีการแจกแถมวัคซีนบ้างครั้งสองครั้ง
แต่ส่วนใหญ่ไทยซื้อในราคาแพงกว่าวัคซีนฝรั่งนะ และจนกระทั่งวันนี้ ซิโนแว็คนี่แหละที่ไทยซื้อเอามาใช้มากกว่าเพื่อน ฉะนั้นการที่ @kahonoii ออกตัวแรง “จีนไทยพี่น้องกัน แต่พี่น้องส้นตีนอะไร ทำเขื่อนกักน้ำไว้ใช้เองจนลุ่มน้ำประเทศอื่นพังฉิบหาย”
จัดว่าฟังได้เนื่องเพราะมันเป็นความจริงเช่นนั้น หากย้อนไปดูปัญหาแม่โขงน้ำแล้งลงกว่าปกติมาหลายปีแล้ว ดังที่โพสต์ของ ‘ชนชั้นกลาง@annoyingpragun’ ถูกนำมาทวี้ตใหม่ ว่า “เขื่อนเสี่ยวหวาน (xiao wan) เป็นต้นเหตุของความแล้งในอาเซียน”
เห็น Deep Blue Sea@WassanaNanuam เพิ่งโพสต์อวยกองทัพเรือไทยไม่ธรรมดา “ไม่ได้อยู่แค่ในทะเล ไม่ใช่ปฏิบัติการแต่ในน้ำเค็ม แต่มีน้ำที่ไหนมีทหารเรือที่นั่น แม้แต่น้ำจืด แม่น้ำ ลำคลอง” เธออ้างถึง “หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง”
น่าคิดว่าถ้าจีนสามารถทำตามอำเภอใจกับลำน้ำโขง ปิดเปิดเขื่อน ๑๑ แห่งเพื่อประโยชน์สูงสุดของตน จนวันหนึ่งน้ำโขงตื้นเขิน กองเรือแล่นไม่ได้สะดวกละก็ ทร.คงต้องย้ายไปลงอ่าวไทย ใช้เรือดำน้ำจีนไล่เก็บหอยจับปูกันแทนละมัง
บีบีซีไทยทำรายงานเรื่องการสร้างเขื่อนของจีนตลอดแนวแม่น้ำโขง ๑๑ แห่ง ไว้เมื่อกลางเมษา ๒๕๖๓ ว่ามีลักษณะเป็น ‘เขื่อนขั้นบันได’ หรือ Lancang cascade ส่วนใหญ่อยู่ในตอนบนของแม่น้ำโขง ในเขตแดนจีนและลาว
เพียรพร ดีเทศน์ แห่งองค์การแม่น้ำนานาชาติ ชี้ว่า “เขื่อนบนแม่น้ำโขงในจีนสามารถควบคุมระดับน้ำ ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำ ในแม่น้ำโขงท้ายน้ำ บริเวณพรมแดนไทย- ลาว ผันผวนขึ้นลงไปตามการใช้งานของเขื่อนผลิตไฟฟ้าในจีน”
อีกข้อสังเกตุจาก อนุลัก กิตติคุน แห่งสำนักเลขาฯ กรรมาธิการแม่น้ำโขง “เดี๋ยวนี้แม่น้ำโขงอาจจะไม่มีฤดูน้ำหลากหรือฤดูแล้งแล้ว มันอาจจะมีปัจจัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ฤดูฝนฤดูแล้งปั่นป่วน”
แม้นว่าโครงการระเบิดเกาะแก่งต่างๆ ในลำน้ำโขง เพื่อขยายร่องน้ำให้เรือขนาด ๕๐๐ ตันของจีนแล่นลงมาจากยูนนานสู่พม่า ผ่านไทยไปลาว ได้คล่องสะดวก หากแต่จะทำลายระบบนิเวศน์แทบทุกอย่างบนลำน้ำโขง ลงมาถึงตอนล่างในไทย
จะก่อให้เกิดการ ‘disrupts’ ชีวิตความเป็นอยู่ตามธรรมชาติ รวมทั้งการประมงและเกษตรกรรมตลอดแนวลำน้ำ มีเสียงคัดค้านมากมายจนทำให้รัฐบาล คสช.ต้องเจรจากับจีน จนยินยอมระงับโครงการไป โดยไม่มีหลักประกันจะไม่รื้อฟื้นขึ้นใหม่เมื่อไร
ด้วยท่าทีของสถานทูตจีน ดั่งรัฐบาลจีนเป็นพี่เอื้อยของรัฐบาลไทยเช่นนี้ นานไปไม่วันใดวันหนึ่งซึ่ง ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกพ้องยังครองอำนาจอยู่ ต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งสมัยละก็ เราอาจได้เห็นการจ่ายเงินเดือนข้าราชการผ่าน ‘เซเว่น’ จนได้
(https://www.bbc.com/thai/thailand-52291256 และ https://www.sanook.com/news/8438218/)