สถาบันจุฬาภรณ์นี่น่ายกให้เป็นกระทรวงโควิดไปเสียเลย ดีไหม ท่าทางจะเก่งกาจกว่า อย.อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งที่องค์การอาหารและยายังไม่อยากให้ฉีดวัคซีน ชิโนฟาร์ม ในเด็กอายุ ๓-๑๗ ปี “เนื่องจากข้อมูลความปลอดภัยไม่เพียงพอ” จุฬาภรณ์ฯ เชื่อที่ไหน
ผู้นำเข้าชิโนฟาร์ม ขอขยายกลุ่มอายุการฉีดจากเดิม ๑๘ ปีขึ้นไป เป็นตั้งแต่ ๓ ขวบขึ้นไปแทน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย.เผยว่า “คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ อย.และผู้ทรงคุณวุฒิหลายหน่วยงานได้ร่วมกันพิจารณา
ด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔ มีมติยังไม่อนุญาต เนื่องจากข้อมูลความปลอดภันในการใช้วัคซีนยังไม่เพียงพอ” แต่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ยังคงยืนกรานนัดฉีดเมื่อ ๑๗ กันยาจนได้
แถมอวดรู้ดีกว่าว่า “สิ่งที่นักวิชาการทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ไม่ได้คำนึงถึงกัน คือเรื่องของสังคม เด็กต้องไปโรงเรียน ต้องไปเจอเพื่อน จะดูประเด็นเรื่องผลของวัคซีนแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้” บอกด้วยว่าทดลองเสร็จแล้ว อย.ควรรับรองและเอาอย่าง
“โครงการศึกษาความปลอดภัย ภายหลังการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์ม” ของจุฬาภรณ์ฯ “ได้ระดมฉีดให้นักเรียนในกรุงเทพไปแล้ว (กว่า ๒ พันคน) โดยอ้างว่าได้รับการอนุญาตจากกรรมการจริยธรรมในการวิจัย” ถือแถน @pran2844 ใส่แรง
“นั่นคือ ใช้เด็กไทยเป็นสัตว์ทดลองวัคซีนกลุ่มใหญ่” ก็จริงของเขาน่ะ นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยฯ บอกเอง “คือศึกษาดูอาการข้างเคียง” ว่าฉีดแล้วยังแพร่เชื้อกันต่อไปไหม ลุกลามไปถึงครอบครัวและคนรอบข้างเท่าไหร่ เรียกว่าใช้ชุมชนเป็นตัวอย่างทดลองเลยเชียว
แม้โครงการจะรับอาสาสมัคร เด็กอายุ ๑๐-๑๘ ปี เข้าร่วม โดยให้มีผู้ปกครองลงนาม “แสดงเจตนาให้ความยินยอม...ปฏิบัติและรับทราบเงื่อนไข ของการเข้ารับการฉีดวัคซีน และโครงการวิจัยดังกล่าว ทุกประการ” คนเซ็นอาจรู้เท่าไม่ถึงการก็ได้ จนมีคนทวี้ตเตือน
Get out! @_sourcloud77 บอก “ก่อนที่พ่อแม่เด็กจะเซ็น ขอให้คิดสักนิด สุขภาพ/ชีวิตลูกตัวเอง อยู่ที่ปลายปากกานี้” แต่แท้จริงยิ่งกว่านั้น ไม่ควรจะเอาเด็ก ๓ หมื่นคน โดยการประกาศรับสมัครจากคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างจำเพาะ
จู่ๆ จะหมายแข่ง (ลึกๆ อาจอยากแซงหน้า) กรณีผู้ผลิตวัคซีนไฟ้เซอร์ในสหรัฐเพิ่งประกาศเมื่อวานซืนนี้ ว่าวัคซีนของตนพร้อมที่จะใช้ฉีดกับเด็กอายุระหว่าง ๕-๑๑ ปีได้แล้ว จึงยื่นขออนุมัติต่อ ‘เอฟดีเอ’ องค์การอาหารและยาสหรัฐ
“ทางไฟเซอร์คาดว่าจะสามารถเริ่มต้นการให้วัคซีนกับเด็กกลุ่มนี้ได้ในช่วงปลายเดือนหน้า ส่วนเด็กที่อายุน้อยกว่า ๕ ปีนั้นยังคงต้องรอผลการทดสอบเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่ากว่าจะได้ผลสรุปนั้นก็ไม่น่าจะทันในสิ้นปีนี้” ข่าว MThai @mthai มาให้รับรู้กันทันใจ
อีกทั้งสถานการณ์ระบาดของโควิดระลอกนี้ ยังไม่เรียกได้ว่าน่าไว้วางใจ จำนวนผู้ตายจากการป่วย ไม่ได้สร่างซาลงแต่อย่างใด เอาแค่ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงวันนี้ คนตายไม่ต่ำกว่าร้อย เมื่อวาน (๒๐ ก.ย.) แค่ ๑๐๖ วันอื่นๆ ๑๒๐-๑๘๐ กว่า
วันนี้ก็ตายเพิ่ม ๑๔๓ ราย เพียงว่าจำนวนติดเชื้อใหม่ลดไปเหลือ ๑๐,๙๑๙ ขณะวันอื่นๆ หมื่นสองถึงหมื่นสี่ก็ไม่น้อย ถึงอย่างนั้นมีคนทัก (Love you J @ksang007) ว่าเฮ้ย ฮวบไม่จริง เพราะจำนวนที่ตรวจจากเครื่อง ATK ซึ่งกรมควบคุมโรคไม่ยอมนับเข้าระบบ อีก ๖,๕๙๓
แสดงว่าผู้ติดเชื้อจริง (จากการตรวจ) กว่า ๑๗,๐๐๐ รายนั่นนะ แล้วผู้ติดเชื้อโดยไม่ได้ตรวจ ไม่มีโอกาสตรวจ หรือเข้าไม่ถึงเครื่องมือตรวจ แต่มีการป่วยแล้วรักษากันเอง กินฟ้าทลายโจร กินกระชายไปตามเรื่อง ก็ค่อยยังชั่วไม่ถึงตายอีกล่ะ
เท่าไหร่ “ไม่รู้ ไม่ชี้” ทำเป็นลุงป้อมไปได้
(https://twitter.com/mthai/status/1440164315022061572 และ https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2950059)