เมื่อสองวันก่อน Atukkit Sawangsuk โพสต์ถึง exit poll เลือกตั้งเยอรมนี ไว้ไม่ผิด (หรือที่จริงต้องบอกว่า ‘ถูกหมด’) คือพรรคกรีนมาแรงมาก ได้ที่สาม คะแนน ๑๔.๘% “น่าจะร่วมรัฐบาลแหงๆ” ส่วนประโยคสุดท้าย ทำไมล่ะ เดี๋ยวคุยกัน
เอานี่ก่อน พรรคกรีนได้รับยกย่องเป็น ‘kingmaker’ ร่วมกับพรรคประชาธิปไตยเสรี หรือ ‘FDP’ ซึ่งมาเป็นอันดับสี่ คะแนน ๑๑.๕% เนื่องจากไม่มีพรรคใดได้คะแนนเกินครึ่ง หรือ ๓๖๘ เสียงในสภา ‘บุนเดิ้สแถก’ จากทั้งหมด ๗๓๕ ที่นั่ง
พรรครัฐบาลเดิมของนางอังเก-ลา แมร์แกล พันธมิตรคริสเตียน ‘CDU/CSU’ ตกไปเป็นที่สอง ๒๔.๑% ขณะที่ พรรคสังคมประชาธิปไตย ‘SPD’ ฝ่ายค้านเดิม ซึ่งได้ที่นั่งมากกว่าเพื่อน ๒๕.๗% จะต้องหาพรรคอื่นมาร่วมเป็นรัฐบาลผสมจึงจะตั้งรัฐบาลได้
ถ้าพรรคโซเชียลเดโมแครทไม่สามารถหาพรรคไหนมาร่วมมือร่วมใจ หรือได้เสียงไม่พอ ปล่อยให้พรรคอันดับสองดูดเอาพรรคอื่นๆ ไปหมด (พูดอย่างมิติไทย อิอิ) ละก็ พรรคเสียงข้างมากก็จะกลายไปเป็นฝ่ายค้านไปไม่ยาก เมื่อที่หนึ่งกับที่สองห่างกันแค่ ๑.๖%
พรรคกรีนกับพรรค ‘ฟรีเด็มฯ’ ก็เลยฉวยโอกาสอย่างว่องไว (แต่ไม่เหมือนตอนประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยเลือกคณะรัฐประหารนะ) เปิดฉากรุกก่อน ตั้งตัวเป็นผู้สถาปนากษัตริย์ เอ้าใครจะมาร่วมกับเราบ้าง แน่ละพรรคที่สนใจย่อมเป็นสายเดียวกัน
บทวิเคราะห์ของ ‘ยูโรนิวส์’ บอกว่าคนเยอรมันเดี๋ยวนี้ไม่ชอบพรรคใหญ่ ที่ชักจะทำตัวเป็น ‘ลูกพี่’ มากไป แต่ฟรีเด็มฯ ก็ต้องการนโยบายหลายอย่างเหมือนยุคอังเก-ลาซึ่งอยู่ยาว เศรษฐกิจเสรีนิยม ตลาดเสรี ลดภาษี และประหยัดการใช้จ่าย
พรรคอันดับสี่จึงยินดีที่จะร่วมกับพรรคอันดับสองรัฐบาลเก่า โดยถ้าไม่มีพรรคกรีน (อันดับสอง) ได้ก็ดี เพราะแนวทางต่างกันคนละขั้ว ฟรีเด็มฯ โปรธุรกิจ ขณะที่กรีนปกป้องสภาพแวดล้อมเป็นสรณะ ไปกันได้สบายๆ กับพรรคโวเชียลเด็มฯ
สูตรตั้งรัฐบาลตอนนี้จึงมีหลากหลาย ตามแถบสีพรรค คือ ‘ไฟจราจร’ แดง-เขียว-เหลือง (SPD+Green+FDP) ‘ธงจาไมก้า’ ดำ-เขียว-เหลือง (CDU/CSU+Green+FDP) ‘ธงคีเนีย’ แดง-ดำ-เขียว (SPD+CDU/CSU+Green) หรือไม่เช่นนั้นก็ ‘ธงเยอรมนี’ แดง-ดำ-เหลือง (SPD+CDU/CSU+FDP)
ส่วนที่คิดกันว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่แน่เพราะการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ที่สองพรรคใหญ่จะ ‘ฮั้ว’ รวมหัวกันตั้งรัฐบาล ‘อลังการ’ Grand Coalition สีแดงกับดำ เหมือนดังข่าวลือในบ้านเรา ว่าจะเกิดขึ้นได้ถ้าเลือกตั้งมาเร็ว และตู่หลุดขั้ว
อ่า เจอมนีกับไตแลนเดียไกลกันซะที่ไหน บินไปบินมาสุวรรณภูมีกับมูนิคอาทิตย์ละสองเที่ยวยังเคยมาแล้ว อธึกกิตบอกได้ไง “เห็นทีจะกลับเยอรมันยากอยู่นะ” เออถ้าว่าไม่อยากกลับ ห่วงสมบัติพ่อก็พอทำเนา ยิ่งตอนนี้น้ำหลากกลัวเขื่อนพัง ใช่มั้ง
ที่จริงเมื่อ ‘9/11’ นี่เอง หนังสือพิมพ์ในยุโรปเพิ่งตีพิมพ์เรื่องราวของ Thai Konig กับเจอมนีอยู่หลัดๆ ว่า ‘รามาเอ็กซ์’ ทรงติดค้างค่าภาษีโรงเรือนแขวงตุ๊ตซิ่งอยู่ตั้ง ๓ พันล้านยูโรส์ สำหรับบ้านหลังที่สอง คฤหาสน์พักร้อนในแขวงตุ๊ตซิ่ง บาวาเรียส่วนเหนือ
นั่นมาจากข้อมูลของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Frankfurter Allgemeine Zeitung ว่าไตโคนิกเคยทรงประทับอยู่ที่คฤหาสน์นั้นเป็นนิจสิน ถึงตอนนี้มิได้เสด็จไปที่นั่นปีกว่าแล้วมั้ง แต่ปัจจุบันพระโอรส (ที่ทรงยอมรับ) ก็ยังเสด็จโรงเรียนสำหรับบุคคลพิเศษที่นั่นขณะนี้
ฉะนี้วิลล่าขนาด ๕,๖๐๐ ตารางเมตร (ที่อยู่อาศัย ๑,๔๐๐ ตรม.) ต้องเสียภาษี ๓๐% ของมูลค่าประเมิน ๑ หมื่นล้านยูโรส์ เท่ากับ ๓ พันล้านยูโรส์นั่นละ นางลูซี่ วอร์ลิคโคว่า เหรัญญิกของเมืองนั้นออกมาบ่นว่าปล่อยไปได้ไง ขณะที่การเงินของแขวงติดลบอยู่สองแสนเจ็ดถึงสี่แสนยูโรส์
แล้วยังมีเรื่องภาษีมรดกอีก สื่อท้องที่บอกทรงซื้อวิลล่าเมื่อปี ๒๕๕๔ ตอนนั้นยังทรงเป็นพระราชโอฯ ยังไม่ได้เป็น ‘Head of State’ ก็น่าจะต้องเสียภาษีมรดกด้วย เพราะทรงผ่องถ่ายโอนทรัพย์สินของพระราชบิดา รวมทั้งทรัพย์สินที่ก้ำกึ่งของหลวงเป็นส่วนพระองค์แล้ว
เรื่องการทรงทำธุรกรรมในเจอมนีขณะยังไม่ได้เป็นพระประมุขนี่น่ะ มีการถกเถียงกันในสภาบุนเดิ้สแถกกันหลายหน เพราะพรรคเล็กฝ่ายค้าน เช่นพรรคกรีนและพรรค ‘ซ้าย’ จิกไม่ยั้ง ลงท้ายรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลอังเก-ลา ยอมรับว่ายังทำอะไรไม่ได้
เนื่องเพราะนโยบายของรัฐบาลอังเก-ลา บอกว่าเรื่องนี้จุกจิกไป ขอ ‘hand off’ ไว้ก่อน ถึงอย่างไร (‘เจอมัน’บางคนบอกว่า) ถ้าไตโคนิกจะไปใช้ชีวิตอย่างหะรูหะราที่บาวาเรีย คนท้องที่ก็จะได้รับเศษเสี้ยวเล็กๆ น้อยๆ จากการจับจ่ายไม่ยั้งมืออยู่ดี
ถึงอย่างนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศคนเก่า (ไฮโก ม้าส) บอกว่าจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของไตโคนิกไม่กระพริบ ส่วนนายกเทศมนตรีตุ๊ตซิ่งก็ยืนยันไม่ทิ้งเรื่องภาษีโรงเรือนเด็ดขาด ล่าสุดสื่อญี่ปุ่นปูดเรื่องแนวคิดต่อไปนี้จะเช็ควีซ่าโคนิกละเอียด
พรรคกรีนและซ้าย ซึ่งได้รับข้อมูลเต็มเปี่ยม เรื่องความสงสัยของขบวนการเยาวชนปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไทย ว่ามีมือพิฆาตภายใต้ไตโคนิกไปเที่ยวสอยผู้ลี้ภัย ม.๑๑๒ ในลาวและเขมร เห็นมีศพลอยอืดน้ำโขงเป็นหลักฐาน
พรรค ‘ซ้าย’ นั้นคราวนี้ได้ที่นั่งในสภาน้อยกว่าเก่า ก็ใช่ว่าจะก่อหวอดในสภาในเรื่องที่ตนมีข้อมูลเต็มเปาไม่ได้ (จะเปรียบกับ ‘เต้’ มงคลกิตติ์ พรรคไทยศรีวิไลย์ คงไหว) แถมพรรคกรีนก็คุ้นเรื่องนี้อยู่มาก ยิ่งถ้าได้เป็นรัฐบาลด้วย สนุกใหญ่
การอภิปรายเรื่องนี้ในบุนเดิ้สแถกต่อไปถ้าจะมี อาจไปลงเอยที่การใช้หลักการ ‘seizure’ (ภาษาสเปญหมายถึง ‘embargo’) หรือยุทธวิธีปิดกั้นน่านน้ำ ‘ห้ามเข้า’ นี่ละถึงได้คิดไว้แต่ต้นว่าโพสต์ของอธึกกิต ‘ถูกหมด’
(https://www.nau.ch/people/welt/thai-konig-maha-vajiralongkorn-droht-die-pfandung-65962555, https://asia.nikkei.com/Politics/Turbulent-Thailand/Germany-floats-asking-Thai-king-to-appoint-regent-for-next-visa, https://www.euronews.com/2021/09/27/german-election-greens-and-free-democratic-party-to-be-key-players-in-coalition-talks และ https://www.dw.com/en/german-election-2021-live-updates/a-59312264)