https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/4283936921659554
Somsak Jeamteerasakul
14h ·
"กษัตริย์ไม่ทรงยุ่งการเมือง เพราะมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ" นี่เป็นข้ออ้างที่ใช้กันมานาน แต่ปรากฎว่า ในสมัยวชิราลงกรณ์ แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริง
ทุกวันนี้ กษัตริย์ลงนามแต่งตั้ง โยกย้าย ลงโทษ นายทหารตำรวจพลเรือน "ข้าราชการในพระองค์" ได้โดยไม่ต้องมีผู้ลงนามรับรอง, สามารถแต่งตั้งโยกย้ายพระรูปใดก็ได้โดยไม่ต้องมีคนรับรอง, สามารถเอาเงินจาก สนง.ทรัพย์สินฯ (ที่เคยอ้างว่า "เป็นของแผ่นดิน") ไปทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องมีคนรับรองรู้เห็น ฯลฯ
ความจริงการ "ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ" นี้ เป็นหลักหมายสำคัญอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ที่ยอมรับกันทั่วโลกและไทยพยายามสร้างไว้ตั้งแต่ 2475 แม้จะมีการพยายามลดทอนความหมายเรื่อยมา
รัชกาลที่ 9 นั้นพยายาม "ลักไก่" ด้วยการไม่ยอมส่งปาฐกถาที่มีต่อผู้คนให้รัฐบาลตรวจก่อน (ดังตัวอย่างที่โพสต์ให้ดูนี้ เป็นปาฐกถาต่อนิสิตจุฬาฯปี 2503) จนกระทั่งในภายหลังได้มีโอวาสประจำในวันที่ 4 ธันวาคม โดยแสดงสด และการพูดครั้งสำคัญๆอื่นๆ
แต่ก็ยังมีการพยายาม "รักษารูปแบบ" ให้รัฐบาล "เซ็นรับรอง" การตัดสินใจของพระองค์ (การรับสนองพระบรมราชโองการจึงมีความหมายกลับหัวกลับหาง แทนที่จะเป็นการตัดสินใจของ "ผู้เซ็นรับสนอง" ก็เป็นเพียงมีลายเซ็นเพื่อรับผิดชอบแทนเท่านั้น)
มาถึงสมัยวชิราลงกรณ์ "การรับสนอง" ถูกยกเลิกไปอย่างสำคัญ แต่เงินเดือนที่ใช้ในการแต่งตั้งต่างๆ ยังเป็นงบประมาณแผ่นดินเช่นเดิม
ตัวอย่าง คำสั่งต่างๆที่ไม่มีการเซ็นรับรอง 112 ฉบับ
https://prachatai.com/journal/2021/09/95103
ประเทศไทยไม่ใช่ปกครองด้วยประชาธิปไตย
.....
ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ กษัตริย์ในฐานะประมุขของรัฐ ไม่ทรงใช้อำนาจโดยแท้ในทางการเมือง การบริหาร การลงพระปรมาภิไธยในพระบรมราชโองการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจโดยแท้ในเรื่องนั้น ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการเสมอ และเป็นผู้รับผิดชอบ
.
ในขณะที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะรัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้มีอำนาจปกครองแผ่นดิน ทรงใช้พระราชอำนาจโดยแท้ตราพระราชบัญญัติ ประกาศกฎหมายต่างๆ บริหารบ้านเมืองด้วยพระองค์เอง
.
ชม สนามกฎหมาย ตอนที่ 14 การลงพระปรมาภิไธยและการลงนามรับสนองฯ : กรณีโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ https://www.youtube.com/watch?v=7WgNymyiyVA
ที่มา FB Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล