วันพฤหัสบดี, กันยายน 23, 2564

ในช่วงที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยยังไม่ข้ามพ้นกับกระแสความนิยมลดลงด้วยมูลเหตุและปัจจัยต่างๆ ใครคือ"เดอะแบก"ที่คอยช่วยพยุงกระแสและภาพลักษณ์สถายันฯ ?


Royal World Thailand - รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย
September 18 at 10:12 PM ·

ในช่วงที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยยังไม่ข้ามพ้นกับกระแสความนิยมลดลงด้วยมูลเหตุและปัจจัยต่างๆ ซึ่งไม่มีทางข้ามพ้นง่ายๆ จากการที่ลดทอนพระเกียรติยศของราชสำนักโดยรวมที่สั่งสมมาแต่เนิ่นแต่นาน ดังที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วจากกระแสสังคมต่างๆที่ผลตอบรับที่เริ่มไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เนื่องจากข่าวฉาวมากมายของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในช่วงเวลาก่อนหน้า สั่งสมมาทำให้ความนิยมและศรัทธาเริ่มตกต่ำลง
แม้กระทั่งบางส่วนในกลุ่มที่นิยมสถาบันด้วยกันเอง จำนวนไม่น้อยที่มิได้ชื่นชอบนัก และหวนคำนึงถึงถวิลหาพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนหน้ารัวๆ และแน่นอนว่าส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์และความนิยมโดยรวมของสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย เรียกได้ว่า ใบไม้ร่วงใบเดียว พาร่วงทั้งต้น
อย่างไรก็ตาม ในอีกแง่มุมนั้น การที่ภาพลักษณ์และความนิยมที่กำลังถูกลดทอนลง และถึงแม้ยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ยังเคารพรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง แต่กระนั้น ยังมีพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นๆที่ถูกมองว่า ทรงเป็นตัวช่วยพยุงกระแสและภาพลักษณ์ ประกอบกับยังทรงมีความนิยมในหมู่ประชาชนอีกมาก แม้กระทั่งในกลุ่มไม่นิยมสถาบันฯเองหากปราศจากอคติ ซึ่งภาษาที่เยาว์รุ่นเหล่า Gen Z นิยามด้วยคำว่า "เดอะแบก"
พระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดบ้างที่ทรงรับบท "เดอะแบก" ให้พระราชสำนักไทย?
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “เดอะแบกคลาสสิก”
แน่นอนว่าต้องไม่มีใครไม่นึกถึง ผู้ที่ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญา "พระแม่แห่งแผ่นดิน" ถึงแม้ปัจจุบันทรงชราภาพมากตามพระชนมพรรษาที่ร่วงโรยตามวัย และไม่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจใดๆอีกแล้วหลังจากทรงพระประชวร แต่ประชาชนจำนวนมากที่ยังถวายความเคารพอย่างสูงสุด มิใช่แค่ในฐานะสมเด็จพระบรมราชชนนี หากแต่สมเด็จพระพันปีหลวง ยังทรงเป็นเสมือนตัวแทนของพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อน ที่ยังเป็นที่ระลึกคำนึงถึงอยู่เสมอมา
แม้สมเด็จพระพันปีหลวงเอง ทรงเป็นที่พูดถึงในเรื่องราวส่วนพระองค์ในแง่ลบอยู่บ้าง แต่ก็มิอาจลบล้างความนิยมได้มาก จึงยังทรงเป็นที่เคารพและสนใจในหมู่ประชาชนโดยส่วนใหญ่​ โดยเฉพาะการเฝ้ารอชมพระฉายาลักษณ์ชุดใหม่ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาทุกปี นอกเหนือจากพระราชกิจที่ทรงเคยประกอบมากมายมานั้น ยังทรงเป็น "ภาพจำ" ของความนิยมและยุคเฟื่องฟูหรือยุคคลาสสิกของราชสำนักไทย
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี "เดอะแบกที่แท้ทรู"
ประชาชนทราบกันดีอยู่แล้วรวมทั้งใครที่ได้รับชมข่าวในพระราชสำนักทางโทรทัศน์มาเนิ่นนาน จะเห็นกรมสมเด็จฯ ทรงออกประกอบพระราชกิจแทบทุกวัน ทั้งในและนอกพื้นที่ ทรงแบกโครงการพระราชดำริช่วยแบ่งเบาสมเด็จพระบรมชนกนาถมาตลอดหลายสิบปี เห็นได้ชัดว่าทรงประกอบพระราชกิจออกสื่อมากที่สุด และมากกว่าสมเด็จพระบรมเชษฐาธิบดี นับตั้งแต่ภัทรมหาราชาสมัย
จึงยากที่จะอดคิดเปรียบเทียบไม่ได้ในหมู่ประชาชน และมิอาจปฏิเสธได้ว่ากรมสมเด็จฯทรงได้รับความนิยมมากกว่าทูลกระหม่อมฯ แม้กระทั่งในกลุ่มไม่นิยมเองยังเห็นว่ากระแสด้านลบแทบทำอะไรไม่ได้ ทูลกระหม่อมฯเอง กลับทรงยินดียิ่งที่อย่างน้อยยังมีสมเด็จพระโสทรกนิษฐภคินีพระองค์นี้ คอยช่วยพยุงศรัทธาและภาพลักษณ์ที่ดี ทรงเป็น "น้องน้อยที่คอยช่วยพี่ชายเสมอ" จึงทรงเป็นอีกพระองค์ที่ทรงเป็น "ภาพจำ" ที่ดีของราชสำนักมาแต่ก่อนกาล
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี “เดอะแบกโมเดิร์น”
แม้ทรงลาออกจาฐานันดรศักดิ์ หากแต่ยังทรงอยู่ในหมู่พระบรมวงศ์ชั้นสูงดังเดิม ด้วยพระชนม์ชีพสุดสวิงริงโก้มาแต่ทรงพระเยาว์รุ่น เรียกได้ว่าทรงเป็น "เดอะแบก" ให้ราชสำนักแบบที่ไม่เหมือนใครและแบบที่ไม่เคยมีผู้ใดทำมาก่อน ด้วยความคัลเลอร์ฟูลเริดสะแมนแตน ทรงเป็นภาพจำในพระแฟชั่นทันสมัย (จนแทบล้นในแบบหาทำบ้างไม่หาทำบ้าง)
ด้วยพระกรณียกิจที่ทรงเข้าถึงวัยรุ่นเป็นหลัก และทรงอินเทรนด์แทบทุกอย่างในกระแสสังคม ทั้งซีรี่ส์เกาหลี ทรงชิปคู่จิ้นซีรี่ส์วาย และทรงมีส่วนร่วมในเกือบทุกกระแสสังคม ประสบการณ์ที่สั่งสมมาและเรื่องราวอันขมขื่นมาแต่อดีตเป็นเสมือนใบเบิกทางสู่แสงสว่างและเติมเต็มความเป็นพระองค์เองนับแต่นั้นมา จึงทรงเป็นที่สุดแห่งสีสันของราชสำนักไทย ทีบูนัมเบอร์หว่าฮ๊านอย่างมิมีใครเสมอเหมือน
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ “เดอะแบกรุ่นลูก”
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่นี้ ถือว่าเป็นตัวแทนของ "รุ่นลูก" ที่นอกจากทรงประกอบพระกรณียกิจมากมาย ยังทรงพยุงหรือคานกระแสลบของสมเด็จพระบรมชนกนาถ และพระวิมาดา ถึงแม้อาจจะได้บ้างไม่ได้บ้าง อีกทั้งทรงได้รับผลกระทบจากกระแสลบมาบ้าง เช่นเดียวกับพระกนิษฐาและพระอนุชา แต่ปฏิเสธมิได้ว่า ทูลกระหม่อมภาฯ ทรงมีพระเรตติ้งดีที่สุดในบ้าน ซึ่งยังมีคนไม่น้อยที่ชื่นชอบประทับใจมาแต่ทรงพระเยาว์
ในฐานะพระบรมวงศ์พระองค์หนึ่ง และแน่นอนในฐานะลูก ย่อมต้องช่วยพระราชบิดาให้ได้มากที่สุด และสำหรับทูลกระหม่อมภาฯเอง ยังคงรักษามาตรฐานส่วนพระองค์อยู่ในกรอบเสมอต้นเสมอปลาย นับว่ายังไม่มีอะไรมากที่น่ากังวลสำหรับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้
และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี “เดอะแบกน้อง(ยัง)ใหม่”
ถึงแม้จะทรงมาใหม่ แต่ใช่ว่าจะแบกไม่ได้ แม้สมเด็จฯทรงมีพระกระแสลบพอกับๆพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะสมเด็จพระบรมราชินี และการเป็นคู่พระบารมี สมควรจะได้รับพระราชภาระของการเป็นเดอะแบกมากที่สุด และควรมากกว่ากรมสมเด็จพระเทพรัตนฯเสียด้วยซ้ำ ทั้งทรงสนับสนุนเพื่อความมั่นคงแห่งพระเกียรติยศของพระบรมราชสวามี ในฐานะสมเด็จพระอัครมเหสี และการปฏิบัติพระองค์ให้ได้เป็นที่ยอมรับจากประชาชน เรียกได้ว่าทรงดับเบิ้ลแบกเพื่อพระองค์เองด้วย
นับตั้งแต่ทรงก้าวเข้าสู่วงการ ตลอดเวลา 4-5 ปีมานี้ ทรงเริ่มบทบาทในการตามเสด็จทูลกระหม่อมฯไปทรงปฏิบัติพระราชกิจในพื้นที่ต่างๆจนเริ่มชินตา อีกทั้งการออกพระราชกิจโซโล่เดี่ยวอยู่บ้างประปราย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สมเด็จฯยังทรงเป็นที่จดจำแบบพระองค์เองค่อนข้างน้อย และยังสามารถเป็นที่จดจำแบบไหนได้อีกในสายตาประชาชน นอกจากการเป็นเงาของพระบรมราชสวามี แน่นอนว่ามีหลายสิ่งที่ต้องได้ปฏิบัติด้วยพระองค์เองอีกมาก หวังว่าหากสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น จะได้เห็นสมเด็จฯ แสดงความเป็นสมเด็จฯขึ้นมาจริงๆ ทรงเติมเต็มคำตอบที่ว่า “พระราชินี” คืออะไร? จะทรงยืนหยัดด้วยพระองค์เองมากขึ้น มากกว่าดำรงอยู่ในพระปรมาภิไธยอย่างเดียวอย่างไร?
สำหรับพระบรมวงศ์พระองค์อื่นๆ ทรงมีบทบาทในเส้นทางของพระองค์เอง ทรงมีจุดยืนของพระองค์เองในฐานะส่วนหนึ่งของราชสำนัก หรืออาจยังทรงแบกไม่เท่ากับพระบรมวงศ์ที่กล่าวข้างต้น อย่างเช่นสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ที่เลือกทรงงานเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ทรงเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพระองค์เองและประชาชนได้ ดังที่ทรงปฏิบัติมาตลอดหลายสิบปี รวมไปถึงพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ที่หลายคนอาจนึกเสียดายที่มิอาจได้เห็นการเสด็จออกปฏิบัติพระกรณียกิจได้อีก จากทศวรรษที่ผ่านมาได้เห็นเสด็จทรงงานออกสื่อทุกวัน อีกทั้งพระองค์หญิงอีก 2 พระองค์ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ที่ทรงทรงมีจุดยืนในพระชนม์ชีพ ในฐานะ “สมาชิกครอบครัว” และไม่มีบทบาทอะไรกับการเป็นเดอะแบกเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ย้อนกลับมามองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอง ผู้ที่สมควรแบกมากที่สุดมากกว่าให้ใครมาแบกถวาย ทรงเป็นเสาหลักของครอบครัวและเสาหลักของชาติ แต่ยังมิได้เห็นบทบาทที่ออกมาด้วยพระองค์เองมากนัก ซึ่งประชาชนมีภาพจำแต่การมีบุคคลอื่นออกปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศใช้มาเป็นข้ออ้างมิได้แล้ว เพราะการมีพลวัตในการทรงงานก็ย่อมมี เช่นการติดตามผลการดำเนินงาน หรือการพระราชทานกำลังใจทางออนไลน์ ดังที่สมเด็จโสทรกนิษฐภคินีทรงปฏิบัติมา เหตุใดถึงไม่ทำ? แม้กระทั่งกลุ่มที่สนับสนุนสถาบันฯเองอาจเริ่มหน่ายกับการที่เห็นแนวทางการปฏิบัติของทั้งทูลกระหม่อมฯ และสมเด็จฯที่ซ้ำซากจำเจ
หลังจากสถานการณ์ในประเทศดีขึ้น และเวลาต่อจากนี้ โอกาสของการใช้พระราชพลวัตในการทรงงานยังมีอีกมาก อยู่ที่ทั้งสองพระองค์​ จะทรงใช้หรือไม่อย่างไร เราจะได้เห็นบทบาทของคู่พระวชิรบารมีในแบบไหนใดอื่นอีกหรือไม่ จะทรงเติมเต็มความเป็น “คิง และควีน” ให้ดีขึ้นอย่างไร ให้ประชาชนได้เห็นว่าทรงเป็นที่พึ่งได้ ทำให้ประชาชนเห็นว่า ในที่สุดเราก็มีที่หยัดยืน สลัดทิ้งโลกขมขื่นที่ล้าหลัง มาร่วมยาตราทัพเสรีมีพลัง จุดไฟหวังสร้างโลกใหม่ให้โสภี – ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

บทความแปลอังกฤษอยู่ที่ลิงค์นี้
https://www.facebook.com/royalworldthailand/posts/4063049873800035
.....
Somsak Jeamteerasakul
September 19 at 12:39 AM ·

ที่วชิราลงกรณ์ไม่เป็น "เดอะแบก" (The Bearer) ก็เพราะขี้เกียจทำ มีคนให้ใช้ทำแทนได้ ตัวเองอยู่สบายๆไม่ดีกว่าหรือ?
"ทั้งนี้ทั้งนั้น ย้อนกลับมามองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอง ผู้ที่สมควรแบกมากที่สุดมากกว่าให้ใครมาแบกถวาย ทรงเป็นเสาหลักของครอบครัวและเสาหลักของชาติ แต่ยังมิได้เห็นบทบาทที่ออกมาด้วยพระองค์เองมากนัก ซึ่งประชาชนมีภาพจำแต่การมีบุคคลอื่นออกปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศใช้มาเป็นข้ออ้างมิได้แล้ว เพราะการมีพลวัตในการทรงงานก็ย่อมมี เช่นการติดตามผลการดำเนินงาน หรือการพระราชทานกำลังใจทางออนไลน์ ดังที่สมเด็จโสทรกนิษฐภคินีทรงปฏิบัติมา เหตุใดถึงไม่ทำ? แม้กระทั่งกลุ่มที่สนับสนุนสถาบันฯเองอาจเริ่มหน่ายกับการที่เห็นแนวทางการปฏิบัติของทั้งทูลกระหม่อมฯ และสมเด็จฯที่ซ้ำซากจำเจ"
https://www.facebook.com/royalworldthailand/posts/4063049873800035