มีแต่คนไม่เข้าใจ ทำไมต้องรอมาฉีดล้านโด๊สในวันที่ ๒๔ กันยา ตลอดเดือนที่ผ่านมามีวัคซีนมากขนาดนี้ ทยอยฉีดเสียก่อน จำนวนคนติด-คนตาย น่าจะลดไปน้อยกว่าหมื่นห้า-๑๒๕ ก็ได้ แบบนี้เรียกเป็นการบริหารบ้านเมืองแบบเอาหน้า ประจบนาย ละสิ
‘ตู่’ ทำเป็นปลื้ม ประชากรแห่ไปฉีดวัคซีนกันล้านกว่า บอกว่าช่วยชาติ ไม่ใช่หรอก พวกเขาพยายามช่วยตัวเองในเมื่อวัคซีนหายาก ก็ต้องคอยจ้องเวลามีโปรยทาน อย่างที่ รพ.กันตัง “คนทะลัก แห่แย่งบัตรคิวฉีดวัคซีนวันมหิดล ถึงขั้นต้องแจ้ง ตร. มาช่วยจัดระเบียบ”
อะไรกันนี่ รมว.สาธารณสุขยังมีหน้าบอก กันยานี้ “จะมีวัคซีนเข้ามาประมาณ ๑๕ ล้านโด๊สเซส และในเดือน ต.ค. น่าจะเข้ามาได้ถึง ๒๐ ล้านโด๊สเซส เมื่อเรามีวัคซีนมากพอ ก็ยังต้องพยายามฉีดให้ได้ถึงวันละ ๑ ล้านโด๊สเซส เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการให้บริการ”
เมื่อเดือนก่อน เดือนโน้น เห็นคุยกันนักกันหนาว่าจะมีวัคซีนเข้าจากโน่นจากนี่ ๖๐ ล้านบ้าง ๑๐๐ ล้านบ้าง วัคซีนทิพย์ทั้งนั้น แล้วยังวัคซีนบริจาคที่คนให้เขารอติดต่อกลับไป อนุทิน ชาญวีรกูล ยังจะอ้าง “ไม่มีใครดึงเรื่องให้ช้าอย่างที่เป็นข่าว”
วันก่อนพูดอีกอย่าง ว่าทางสหรัฐไม่เคยแจ้งความประสงค์จะบริจาคไฟ้เซอร์เพิ่ม คงหมายความว่าเขาไม่มีหนังสือเป็นทางการ ก็ทางสถานทูตเขาออกแถลงข่าวแล้ว ชาวบ้านไซเบอร์เอาหลักฐานมายันกันเห็นๆ เป็นหน้าที่ผู้รับประสานกลับไปถึงจะได้เรื่อง
มาตอนนี้ว่า “เราเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องการจัดหาวัคซีน” รู้ขั้นตอนต่างๆ ดี เคยรับบริจาคมามากแล้ว อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน ผู้ให้ต้องส่ง ‘Diplomatic Note’ เอกสารแสดงความจำนงในการบริจาคมา ผ่าน กต.แล้วต่อถึง ’สาสุข ใช้เวลา ๓ อาทิตย์เสร็จ
พูดเหมือนมุสา ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงอะ ลักษณะเหมือนเชิดหน้ายะโสนี่มีมาตั้งแต่ตอนที่ไฟ้เซอร์เสนอขายปีที่แล้ว และโคแว็กทาบทาม ตอนนั้นจะรอวัคซีนผลิตในประเทศจึงบอกปัดเขาไปหมด ตอนนี้ผลิตไม่ได้ตามราคาคุย ก็เลยต้องยัดเยียดวัคซีนตระกูล ‘ซิโน’
ว่าไปทำไรมี บ้านเมืองตกอับขนาดนี้ก็เพราะพวกนักปล้นสะดมอำนาจครองเมืองกันมา ๖-๗ ปี เต็มไปด้วยการกดขี่กลั่นแกล้งทำร้ายผู้เห็นต่าง ทั้งจากพวกอาชีพพกอาวุธและอาชีพถือตราชั่ง ชาวบ้านเกลียดชังคั่งแค้นทั้งตำรวจและเหล่าปรสิต
ความรุนแรงรายวันที่สามเหลี่ยมดินแดงจึงเกิด ไม่ใช่บรรดาเยาวชนหัวร้อนที่หาญสู้กับหน่วยควบคุมฝูงชนซึ่งถือปืนยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตา “ตกเป็นเหยื่อ คำยุยงของผู้ไม่หวังดีให้กระทำผิดกฎหมาย” ดังที่โฆษกรัฐบาลปั้นน้ำเป็นตัว
มิใช่เพราะพวกเขา ‘เปราะบาง’ และถูกใช้ให้ก่อเหตุรุนแรง ดังที่ ธนกร วังบุญคงชนะ ตระบัดลิ้นกล่าวหาว่ามี ‘ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง’ เจตนาร้ายสั่งให้ทำแต่อย่างใด ความจริงได้รับการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้แล้ว จากการถ่ายทอดความรู้สึกของพวกเขาโดยสื่ออิสระ
‘สื่ออิสระ’ ที่ตำรวจพยายามดิสเครดิต ได้สะท้อนความรู้สึกและจิตสำนึกของเยาวชนทะลุแก๊ส-ทะลุฟ้า พบว่าแรงผลักดันมาจากภาวะกดดันในชีวิตความเป็นอยู่อันเสื่อมโทรม ผลของความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารเศรษฐกิจและสาธารณสุขของรัฐบาล
ครั้นเมื่อถูกหน่วยคุมฝูงชนเริ่มใช้ความรุนแรงก่อนแทบทุกครั้งที่สลายการชุมนุม ทำให้พวกเขาฮึดสู้ไม่ลดละ การตอบโต้โดยเผาป้อมตำรวจและซุ้มหลายแห่ง ย่อมบ่งบอกแล้วว่าอะไรเป็นต้นตอแห่งความเกลียดชัง
(https://www.matichon.co.th/politics/news_2957466, https://www.voicetv.co.th/read/UUTcfsTdj และ https://twitter.com/Thairath_News/status/1441348622826622987)