วันพุธ, มกราคม 06, 2564

ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญเปิดปฏิบัติการตามล่าหาโรค “Disease X” "X" หมายถึง “สิ่งที่ไม่คาดคิด”



Thailand State
Yesterday at 12:18 AM ·

ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญเปิดปฏิบัติการตามล่าหาโรค “Disease X” หลังจากในช่วงปลายปี 2020 พวกเขาได้พบหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งมีอาการคล้ายโรค “อีโบล่า” จึงถูกนำไปตรวจทดสอบและได้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจคือ “เธอไม่ได้ป่วยเป็นโรคอีโบล่า” ทุกคนจึงตั้งคำถามเหมือนกันว่า หากเธอป่วยเป็นโรค “Disease X” ล่ะ ?
.
“Disease X” เป็นโรคในทางทฤษฎีที่นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกลัวว่าอาจนำไปสู่การระบาดที่ร้ายแรงทั่วโลก หากเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม ซึ่ง WHO ได้ระบุไว้ว่า "X" ย่อมาจาก “สิ่งที่ไม่คาดคิด”
.
"Disease X" ซึ่งเป็นโรคที่รู้จักกันเป็นครั้งแรก สามารถแพร่กระจายไปทั่วโลกได้เร็วพอๆกับ Covid-19 แต่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 50% - 90% ของโรค Ebola (อัตราการเสียชีวิตของโรคอีโบล่าอยู่ที่ประมาณ 39.5 %)
.
นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ มันเป็นความกลัวทางวิทยาศาสตร์โดยอาศัยข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ “เราทุกคนต้องหวาดผวา” ดร. ดาดิน บอนโกเล แพทย์ของผู้ป่วยกล่าว “ไม่ใช่อีโบลา ไม่ใช่โควิด เราต้องกลัวโรคใหม่แล้วตอนนี้"
.
“มนุษยชาติต้องเผชิญกับไวรัสชนิดใหม่และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากป่าฝนเขตร้อนของแอฟริกา” ตามที่ศาสตราจารย์ Jean-Jacques Muyembe Tamfum หนึ่งในผู้ค้นพบไวรัสอีโบลาในปี 1976 และเป็นแนวหน้าของการตามล่าหาเชื้อโรคใหม่ๆกล่าว
.
“ตอนนี้เราอยู่ในโลกที่เชื้อโรคชนิดใหม่จะออกมา” เขากล่าวกับ CNN “และนั่นคือสิ่งที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ"
.
ในฐานะนักวิจัยรุ่นใหม่ Muyembe ได้เก็บตัวอย่างเลือดครั้งแรกจากเหยื่อของโรคลึกลับที่ทำให้เกิดอาการตกเลือดและคร่าชีวิตผู้ป่วยประมาณ 88% และ 80% ของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในโรงพยาบาลเมื่อพบโรคนี้
.
ขวดเลือดถูกส่งไปยังเบลเยียมและสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่อมานักวิทยาศาสตร์พบไวรัสรูปตัวหนอน พวกเขาเรียกมันว่า “อีโบลา"
.
ตอนนี้เราต้องพึ่งพานักวิทยาศาสตร์ชาวแอฟริกันในคองโกและที่อื่นๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นทหารรักษาการณ์เพื่อเตือนภัยในอนาคต
.
นับตั้งแต่มีการติดเชื้อไข้เหลืองจากสัตว์สู่คนเป็นครั้งแรกในปี 1901 นักวิทยาศาสตร์พบไวรัสอีกอย่างน้อย 200 ชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆในมนุษย์ จากการวิจัยของ Mark Woolhouse ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาโรคติดเชื้อที่มหาวิทยาลัย Edinburgh พบว่ามีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในอัตรา 3-4 ต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสัตว์
.
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจำนวนไวรัสที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการทำลายระบบนิเวศ ตัดไม้ทำลายป่าและการค้าสัตว์ป่า
.
เมื่อแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมันหายไป สัตว์เช่น หนู ค้างคาว และแมลงจะอยู่รอดเมื่อสัตว์ขนาดใหญ่ถูกกำจัดออกไป ซึ่งพวกมันสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้และมักจะกลายเป็นพาหะนำโรคใหม่ๆมาสู่มนุษย์
.
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กำลังเร่งตามหาต้นตอของโรคดังกล่าวในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะบริเวณป่าดิบชื้น เพื่อให้สามารถศึกษาและหาทางเตรียมตัวหรือป้องกันได้ทัน ก่อนเกิดการระบาดขึ้นในอนาคต
.
ความกลัวในการเผชิญหน้ากับไวรัสตัวใหม่ที่อันตรายถึงตายยังคงมีอย่างมากในพื้นที่ เพราะหลังจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยที่แสดงอาการคล้ายอีโบลา ตัวอย่างของเธอได้รับการทดสอบในสถาบันวิจัยชีวการแพทย์แห่งชาติคองโก (INRB) “ซึ่งพวกเขาได้ทำการทดสอบเพิ่มเติมสำหรับโรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายกัน ผลปรากฏว่าเป็นลบทั้งหมด” นั่นจึงทำให้ความเจ็บปวดที่ส่งผลกระทบต่อเธอนั้น “ยังคงเป็นปริศนา”
.
นักวิทยาศาสตร์ได้แนะนำทิ้งท้ายว่า หนึ่งในแนวทางสำคัญเพื่อปกป้องมนุษยชาติคือการปกป้องป่า เพราะธรรมชาติมีอาวุธร้ายแรงเก็บเอาไว้เสมอ
.
เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like เพจและตั้งค่า See First เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
.
Source : https://edition.cnn.com/.../drc-forest-new.../index.html...
.
#ThailandState #ThailandStateUpdate