ไวรัสสายพันธุ์ใหม่แต่การจัดแก้ปัญหาเข้าลู้บเดิม วนๆ ไป แรกก็จะล็อคดาวน์ (เปลี่ยนคำไปเรียกว่า ‘ควบคุมสูงสุด’) พื้นที่เสี่ยงสูง ใส่สีให้ สีแดง สีส้ม สีเขียว ลัลล้า ปิดตลาดไม่ปิดห้าง เปิดสะดวกซื้อ ไม่เปิดร้านอาหาร ก็บ่นกันหูดับสิ
มาวันนี้เปลี่ยนแระ ร้านอาหารเปิดได้ให้คนเข้าไปนั่งกินข้างใน ลุกค้าพอใจดีกว่าสะดวกซื้อหน่อยที่มักจะนั่งกินกันหน้าร้าน แต่ก็ให้เปิดได้แค่ถึงสามทุ่ม รีบกินรีบกลับอย่ามัวดื่มอ้อยอิ่ง ทว่า ‘I hear Tube’ ของบ่าวพูดไปดุไป “จะให้ปิดหมดทั้งประเทศได้ไง
ประชาชนต้องช่วยกันหน่อยสิ” ล็อคดาวน์ตัวเอง อยู่กับบ้านสัก ๑๔-๑๕ วัน แหม วิธีพูดกวน ‘บาจา’ (ภาษาอังกฤษ ‘Bata’) ชาวบ้านรำคาญมากกว่ากลัวโควิด จริงอยู่ที่ ‘หมอเลี้ยบ’ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ชี้ไว้ โควิดใหม่นี่พลานุภาพน้อยกว่าตัวก่อน
แต่ว่าสายพันธุ์นี้แพร่เก่งกว่า แพร่ง่าย แพร่ไวกว่าตัวที่แล้ว จะเห็นอัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มทุกวัน ถึงไม่หวือหวาก็ไปคล่องไม่หยุดละ ดัง joe black@joe_black317 ทวี้ตเมื่อวาน “ด่วน! วันนี้ติดเชื้อ #โควิด เพิ่ม ๗๔๕ คน” ไม่น้อยหรอกนะนั่น
แน่ละการแพทย์ไทย “มีความก้าวหน้ามากขึ้น และมีความพร้อมทางด้านสาธารณสุข” อย่างหมอเลี้ยบว่า “แนะรัฐบาลล็อกดาวน์เฉพาะจุดอย่างเข้มงวด รวมทั้งจัดการปัญหาแรงงานต่างชาติ และบ่อนการพนัน” ก็ดันเป็นปัญหาที่รัฐบาลกระอักกระอ่วน
กลัวหยิกเล็บเจ็บเนื้อ กันเองทั้งนั้น ดัง #WakeUpThailand แคะ “เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ผ่านมา ต้นทางของซูเปอร์สเปรดเดอร์ ล้วนแล้วแต่มาจากธุรกิจสีเทาแทบทั้งสิ้น แต่รัฐบาลกลับไม่เอาจริงเอาจังในการจัดการเลย” ที่ระยองไง ‘เฮียป้อม’ ยังไม่รู้สิ
วันก่อน ชาวบ้านเขาต้องลงมือจัดการกันเอง “ฉลองปีใหม่ 2564 คนระยองไม่ทนแล้ว เจ้าของไม่เก็บ เจ้าหน้าที่ไม่เก็บ แค่หยุดบริการเฉยๆ คนระยองเลยช่วยเก็บไปโยนทิ้งให้เสียเอง #ระยองต้องไม่มีบ่อน” โพสต์เล่าพร้อมภาพ
ซ้ำ ไอ้ “วิธีการแสดงความรับผิดชอบของราชการไทย ด้วยการโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิม เป็นวิธีการที่ถูกต้องและเพียงพอหรือไม่” อจ.เดชรัตน์ สุขกำเนิด ปรารภเมื่อเห็นข่าว ‘เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก’ ได้กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมแล้ว
เจ้ากรมคนนี้คือ พล.ต.ราชิต อรุณรังษี ตัวการจัดมวยที่เวทีลุมพิณี ขณะเริ่มมีมาตรการล็อคดาวน์ตอนไวรัสเข้าไทยรอบแรก จนรายการคืนนั้นเป็น ซูเปอร์สเปรดเดอร์ เกิดการระบาดขนานใหญ่ ข่าวว่าถูกสอบสวนและ ‘เด้ง’ เมื่อมิถุนา ๖๓
แท้จริงแค่ ‘ดอง’ นี่จากถ้อยแถลงของ วาสนา นาน่วม นะว่า “เผย ‘บิ๊กแดง’ ให้กลับที่เดิมนานแล้ว” เพียง ลงโทษโดยการ “ไม่ได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งในสองโผโยกย้าย เมษาถึงตุลาที่ผ่านมา” แป็กตำแหน่งเดิม ๖ เดือนแลกกับวิกฤตชาตินี่ละ
แล้วคอยดูกันดีๆ ตอนจะฉีดวัคซีน คือตอนนี้มันเงียบวังเวงพอสมควร ว่าไทยจะได้รับวัคซีนเมื่อไหร่ สิงคโปร์ ลาว เขาฉีดกันไปแล้ว นายกฯ คนเก่งพูดไว้เมื่อไม่นานว่าวัคซีนนี่เป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับไปจัดการเองบริษัทสยามไบโอไซน์นี่เป็นของสำนักทรัพย์สินกษัตริย์ ที่รับผิดชอบแต่ผู้เดียวจัดการนำวัคซีนยี่ห้อ ‘แอสตร้าเซเนก้า’ จากอังกฤษมาฉีดให้คนไทย วัคซีนแอสตร้าฯ เพิ่งผ่านการรับรองเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รัฐบาลไทยเซ็นสัญญาไว้ตั้งแต่ปลายพฤศจิกายน ๖๓
จองซื้อวัคซีนจำนวน ๒๖ ล้านโดสเซส ในวงเงิน ๖,๐๔๙,๗๒๓,๑๗๗ บาท ข่าวตอนนั้นว่า “คนไทยเฮ ของขวัญจาก ร.๙” จะได้ฉีดวัคซีนกันกลางปีนี้ เพราะงานนี้สยามไบโอไซน์เป็นผู้ดำเนินการ และบริษัทนี้พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลฯ ทรงก่อตั้ง
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัคซีนชุดนี้ก็คือ ๒๖ ล้านโดสเซส ฉีดได้ ๑๓ ล้านคน ล็อตแรกจะมาแค่ไม่กี่ล้านโดสเซส จากนั้นให้รอถึงปลายปี และเหตุที่มาช้าเพราะหลังทดสอบเสร็จ (ได้ผลดี ๗๐ กว่าเปอร์เซ็นต์) เกิดพบเหตุไม่สมบูรณ์ในการทดลอง
แม้นว่าวัคซีนของแอสตร้าฯ จะไม่ได้ผลทดสอบสูงอย่างของอเมริกัน (‘ไฟ้ฟ์เซอร์’ กับ ‘โมเดอร์น่า’) ที่ได้กันกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ ‘ชั่งมัน’ ในเมื่อเกณฑ์ผ่าน รับรองใช้งานได้แค่เกิน ๕๐ ถึงกว่า ๖๐ แต่ข้อดีของแอสตร้าฯ เก็บได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุณหภูมิต่ำสุดๆ อย่างของอเมริกัน
ตานี้เกิดมี ‘ข้อมูลใหม่’ (ยังกะสมัย ร.๙) ว่าสยามไบโอไซน์กำลังขมีขมันผลิตวัคซีนขึ้นเองเพื่อใช้ในไทย ประมาณว่าจะได้ ๗๐ ล้านโดสเซส “ตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้คนไทยโดยรัฐ ฟรีไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของประชากร” ข่าวดีที่ ‘ไทยรัฐ’ เพิ่งประโคม
ว่าแอสตร้าฯ “อยู่ระหว่างถ่ายทอดกระบวนการผลิตให้กับบริษัทสยามไบโอไซน์” ดร.ทรงพล ดีจงกิจ “ปัจจุบันอยู่ในขั้นการทดสอบการผลิตเพื่อให้ได้วัคซีนที่มีคุณภาพดี” เป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการผลิตนะ ไม่ใช่เริ่มผลิต
‘ไม่เป็นไรลืมเสียเถิด’ ฉะนั้นวัคซีนตัวจริงจะมาได้ตอนปลายปีโน่นแหละ และก็ยังมีข่าวดีเพิ่ม รัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนจากจีนด้วยละ ๒ ล้านโดสเซสจาก ‘ซิโนแวค’ (น่าจะ ‘ซิโนฟาร์ม’ ซึ่งผ่านการรับรองสรรพคุณแล้ว กว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์) เริ่มเข้ามาปลายกุมภา
สรุปว่าทนๆ กันเอาหน่อย ปลายกุมภาของจีนมาสองแสนโดสเซส มีนามาอีก ๘ แสน แล้วเมษาปิดท้าย ๑ ล้านโดสเซส จากนั้นค่อยรอไปปลายปีของอังกฤษค่อยมา ส่วนการผลิตเองโดยสยามไบโอฯ ยังแค่ได้ ‘สรรเสริญพระบารมี’ ก็ปลื้มหลายแระ
(https://www.thairath.co.th/news/local/2005712AInNc, https://www.bbc.com/thai/55097716, https://www.facebook.com/decharut.sukkumnoed/posts/3602326496525942 และ https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_5660785)