วันพุธ, มกราคม 13, 2564

"ศึกราชสตรี" ในราชสำนักไทย กับกระแสตีกลับของรอยัลลิสต์



Royal World Thailand - รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย
17h ·

ประเด็นต่างๆทีเกี่ยวข้องกับในพระราชสำนักไทยยังเป็นที่พูดถึงมากมายอยู่เสมอ เริ่มต้นปีใหม่มาไม่นาน มีประเด็นที่อาจถูกอกถูกใจชาวด้อมสายปั่นไม่น้อย เมื่อได้เห็นการเผยแพร่พระบรมฉายาลักษณ์ และสารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพร้อมด้วย เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ตามสื่อออนไลน์และสื่อโทรทัศน์ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

แน่นอนว่าการทรงควงพระสนมเอกออกปฏิบัติพระราชกิจนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ จากที่ได้เห็นตามสื่ออย่างไม่เป็นทางการหลายต่อหลายครั้ง อันนำมาซึ่งการถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้งเรื่องราวและภาพลักษณ์ส่วนพระองค์ในสายตาสาธารณชนมาเป็นเวลานาน จากกลุ่มคนที่แสดงความเห็นเชิงลบต่อพระองค์มาตลอด หากแต่จะเป็นอย่างไร เมื่อเริ่มมีการแสดงความเห็นเชิงลบ จากกลุ่มคนที่เคารพรักและจงรักภักดีต่อพระองค์มาตลอดเช่นกัน

“กลุ่มคนที่รัก” จำนวนไม่น้อยได้เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กับสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกระทำอยู่มากขึ้น ตั้งแต่การเสด็จควงคู่เจ้าคุณพระไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่จังหวัดลำพูนเมื่อเดือนที่แล้ว เรื่อยมาจนกระทั่งบัดนี้ นอกจากจะมีการแสดงความเห็นต่อเจ้าคุณพระเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว กลับได้เห็นว่า ทรงได้รับผลกระทบเต็มๆเช่นกัน คนที่วิจารณ์นั้น หาใช่ใครอื่น ส่วนใหญ่ล้วนมาจากกลุ่มที่จงรักภักดีและเคารพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่เห็นว่าควรค่าแก่การเคารพในฐานะพระอัครมเหสี

นอกจากทัศนคติเชิงลบต่อเจ้าคุณพระแล้ว ยังมีการแสดงความคิดเห็นมากมายในสังคมออนไลน์จาก “กลุ่มคนที่รัก” อาทิ

“ถ้าไม่ฟังเสียงประชาชนที่ยังจงรักภักดี ก็ต้องปล่อยไปอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทำไมต้องเราไปเดือดร้อนด้วยในเมื่อไม่ฟังกันบ้าง”
“รู้สึกไม่ดีเลย ผิดหวังอย่างแรง ตอนแรกก็แค่ลังเล แต่ตอนนี้คงจะขอถอยห่างออกมาแบบถาวร ขอปกป้องตัวเองให้ดีก่อน ช่วงนี้ทั้งพิษเศรษฐกิจ พิษโควิด ต้องเอาตัวเองให้รอดเสียก่อน”
“รับไม่ได้ มีความจงรักภักดีเต็มล้าน แต่การนำอีกคนที่ไม่เหมาะทั้งปวง แต่งจริต สร้างภาพ ออกมาให้คนกราบไหว้ มันรับไม่ไหวจริงๆหมดแรงจะเชียร์”
“ย่ำแย่จริงๆค่ะ ดูไร้ค่า ไร้รสนิยม ไม่เหมาะสมจริงๆ”
“ถอดใจตั้งแต่เสื้อคู่งานแรกแล้วค่ะ”
“ถ้าจะเสื่อม ท่านทำตัวเองแท้ๆ”
“มองผ่านๆ ค่ะ ไม่อยากได้แต่ก็เป็นไปแล้ว เห็นแล้วก็ข้ามผ่านไป เมื่อไหร่ที่เห็นเสด็จคู่กับพระราชินีจึงจะสนใจค่ะ”
“เกือบหมดศรัทธาแระอีกนิดเดียว”
“หลังจากเห็นภาพเมื่อวาน เราถอยแล้วค่ะ ไม่เอาแล้วค่ะ”
และอื่นๆอีกเยอะแยะมากมายเหลือคณานับ ติดตาม​ต่อได้ที่ https://cutt.ly/djvb1sU

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งใด?

แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังเคารพรักไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จึงสมควรได้รับความเคารพในฐานะพระมหากษัตริย์ และพระประมุขของชาติ อย่างไรก็ตาม การที่เริ่มถูกวิจารณ์จากกลุ่มที่เคารพรักเสียเอง แสดงให้เห็นว่าความนิยมในด้านภาพลักษณ์ในสายตาสาธารณะกำลังลดลงอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งหลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทรงมีภาพลักษณ์ที่ไม่เป็นที่อภิรมย์ฤดีเป็นที่โจษจันมานานก่อนทรงราชย์ แน่นอนว่าคนภายนอกไม่มีทางรู้เรื่องตื้นลึกหนาบางว่าพระชนม์ชีพภายในที่ประทับจะเป็นไปเช่นไร กลุ่มคนทั้งสองฝ่ายจึงแสดงความเห็นกันอย่างออกรสเสมือนอยู่ในวงการหรือซีรีย์ชุดใหญ่ เราจึงได้เห็นการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผยมากขึ้นในยุคแห่งเทคโนโลยีนี้

โดยเฉพาะกลุ่มคนที่จงรักภักดีต่อสมเด็จพระบรมราชินี และพร้อมถวายกำลังใจให้ทุกเมื่อ หลายคนจึงอดมิได้ที่จะแอบค้อนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “รู้ดีว่าเธอนะมันหลายใจ รู้ดีเธอมีใคร รู้ดีว่าเธอไม่แคร์กันเท่าไหร่ ถูกเธอมองข้ามไป” (เพลง “ฉันมีค่าไหม” โดย นุ้ย-วิริยาภา จันทร์สุวงศ์ The Peach Band, เพลงประกอบละคร “เมียหลวง” 2552) จึงได้เห็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ระหว่าง “ทีมพระอัครมเหสี a.k.a. ดร.วิกานดา” และ “ทีมพระสนมเอก a.k.a. อรอินทร์” ที่ต่างฝ่ายต่างค่อนแคะและปลุกปั่นบลัฟกันไปมา

ขณะที่สมรภูมิเพลิงพระนางกำลังก่อตัวขึ้นนั้น อาจเป็นการดีที่ยังมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่ยังเห็นเป็นเรื่องดีว่าไม่มีใครรู้พระราชหฤทัยไปได้ดีกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอง จึงมองโลกในแง่ดีว่าอย่างน้อยก็มีคนช่วยแบ่งเบาพระราชภาระ และช่วยเฉลิมพระเกียรติให้ขจรขจายกว้างไกลไพศาล หากแต่ในใจลึกๆบางคนอาจรู้สึกตะขิดตะขวงในใจไม่น้อย เพราะภาพลักษณ์เจ้าคุณพระเองก็ไม่เป็นที่พิสมัยมาแต่แรกแล้วเช่นกัน ในเมื่อมาอยู่ในสถานะนี้แล้ว หลายคนจึงห่วงใย อยากให้ท่านเจ้าคุณอยู่ในทิศทางและที่ทางที่ถูกที่ควรกว่านี้ เนื่องจากถูกมองว่าข้ามหน้าข้ามตาพระอัครมเหสีพอสมควร แต่จะทำอย่างไรได้ หากว่าเป็นพระราชดำรัสสั่งเอง

อย่างไรเสีย เมื่อทุกอย่างมาถึงขนาดนี้แล้ว ยากที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ เมื่อทรงยกยอพระสนมเอกขึ้นขนาดนี้แล้ว จากที่ได้เห็นพระราชโมเมนต์น๊ะร๊อกอ่ะเอาใจแฟนด้อมสายปั่นทั้งหลาย แน่นอนว่า ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเจ้าคุณพระ ต่างทรงทราบและทราบถึงกระแสดราม่าอย่างดี หากแต่จะทรงตระหนักและตระหนักมากน้อยแค่ไหน หรือเลือกที่จะละทิ้งไว้เบื้องหลัง ในเมื่อเริ่มมีดราม่าจากฝั่งที่สนับสนุนพระองค์เช่นกัน จะทรงทำอย่างไร “เป็นแฟนกับฉัน กฎข้อแรกก็คือห้ามทิ้ง ข้อที่สองคือห้ามแต่งหญิง (ผิด)” จะทรงปรับให้เหมาะสมกว่าเดิมหรือไม่อย่างไร โปรดติดตามต่อไป
----ลิงค์ภาษาอังกฤษ

https://www.facebook.com/royalworldthailand/photos/a.918836328221421/3351397144965315/