วันเสาร์, ตุลาคม 05, 2562

ผู้พิพากษา 'คณากร' รอดชีวิต "ความหวังยังมี...ท่านจะ ‘ชนะ’ ร่วมกันกับประชาชน"


เรามาถึงวันนี้กันแล้วนะ วันที่ผู้พิพากษาใช้ปืนจ่อยิงหน้าอกตนเองหลังแถลงคำพิพากษาแย้งกับที่ อธิบดีสั่งมา

วันนี้เช่นกันที่ผู้เป็นนายกฯ จากการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร เดินถ่างขากางแขนลงจากทำเนียบ ไปให้โปรเฟชเซ่อโฆษกรัฐบาลสัมภาษณ์ทำพีอาร์โฆษณาตัวเอง

(ดูโพสต์ วาสนา นาน่วม 

วันนี้นี่แหละที่มีชาวนาฆ่าตัวตายแล้วหลายราย เนื่องเพราะทนความกดดันจากทุกข์ทรมานในความแร้นแค้นสิ้นไร้ไม้ตอกไม่ไหว เป็นวันที่ความล้มเหลวของชาติทั้งในทางเศรษฐกิจและกระบวนการยุติธรรมปรากฏชัดเด่นตำตา

ยังเป็นนิมิตรดีที่ผู้พิพากษาซึ่งถูกอำนาจรัฐแทรกแซงการตัดสินคดียังไม่ถึงกับเสียชีวิต ให้ความหวังว่า “วันหนึ่ง...ท่านจะ ชนะ ร่วมกันกับประชาชน” ดัง ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ปาวารณา

เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม เมื่อนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา “ได้ใช้อาวุธปืนขนาด ๙ มม.ประจำตัว จ่อยิงหน้าอกด้านซ้ายจำนวน ๑ นัด” เนื่องเพราะได้วินิจฉัยคดีตามหน้าที่รับผิดชอบแล้ว

กลับ “ได้รับเอกสารลับ เปลี่ยนแปลงคำพิพากษา” ทั้งที่ “คดีนี้ไม่ใช่คดีความมั่นคง ไม่ใช่คดีก่อการร้าย โจทก์ก็ไม่ได้ฟ้องจำเลยทั้งห้าว่ากระทำความผิดฐานก่อการร้าย หรือความผิดต่อความมั่นคง แต่พยานหลักฐานทั้งหมดกลับเกิดจาก

หรือเกิดมีขึ้นในขณะที่จำเลยทั้งห้าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ซักถามเป็นเวลานาน ในฐานะผู้ต้องสงสัยตามกฎหมายพิเศษคือกฎอัยการศึก” จึงพิพากษา “ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งห้า เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลย” ได้

ครั้นได้รับคำสั่งจากอธิบดีผู้พิพากษาให้กลับลำคำพิพากษาซึ่งเขาไม่อาจทำได้ เพราะ “ในสายตาของผมนะ มันจะต้องได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนพอสมควร เราลงโทษคนไปคนหนึ่งไม่ใช่ว่าแค่คนนั้นถูกลงโทษ ครอบครัวของเขาก็จะต้องเหมือนกับถูกลงโทษไปด้วย

เพราะฉะนั้นถ้าไม่มั่นใจจริงๆ เราก็อย่าไปลงโทษเขา” ผู้พิพากษาคณากรชี้ด้วยว่าไม่ได้ปักใจจำเลยทั้งห้าไม่ได้กระทำผิด “แต่กระบวนการยุติธรรมนี่มันต้องทำให้ โปร่งใสให้มันหนักแน่น ให้มันลงโทษคนได้...โดยไม่มีใครมาบอกว่า “เราไปลงโทษคนผิด”

จึงได้แถลงคำพิพากษาตามที่ได้พิจารณาไว้เบื้องต้น ไม่ยอมกลับคำตามสั่งของอธิบดี แล้วอธิบายเจตนาที่ทำเช่นนั้น ว่าจักต้อง “คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน...” แล้วเพิ่มเติมด้วยว่า
 
“คำแถลงของผมอาจจะมีน้ำหนักเบาบางเหมือนขนนก แต่หัวใจผู้พิพากษาหนักแน่นปานขุนเขา จึงมอบหัวใจชั่งบนตราชู ยืนยันคำแถลง” จากนั้นจึงควักปืนยิงตัวเอง ด้วยปณิธาน “ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างไร้เกียรติ”


“ที่จริงหลังเหตุการณ์ท่านผู้พิพากษายิงตัวเองไม่ถึงชั่วโมงหลังจากนั้น ก็มีตำรวจ สภ.เมืองยะลา ยิงตัวตายอีกคนหนึ่ง” ถือแถน @pran2844 ทวี้ตรำพึง “ไม่รู้มันเกิดอะไรกับบ้านเมืองยุคนี้ ขื่อแปมันพังจนเกินเยียวยา”

การกระทำของผู้พิพากษาคณากรจึงได้รับการเชิดชูจากประชาชนที่เชื่อในหลักนิติธรรม “เชื่อมาตลอดว่าผู้พิพากษาที่ยึดมั่นในหลักการ และกล้าแหกระบบแบบท่านต้องมีอยู่ แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน

ขอบคุณท่านคณากร เพียรชนะ ที่ทำให้เรารู้ว่าความเชื่อของพวกเราเป็นจริงและความหวังยังมี”