เรามาถึงวันนี้กันแล้วนะ วันที่ผู้พิพากษาใช้ปืนจ่อยิงหน้าอกตนเองหลังแถลงคำพิพากษาแย้งกับที่
‘อธิบดีสั่งมา’
วันนี้เช่นกันที่ผู้เป็นนายกฯ
จากการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร เดินถ่างขากางแขนลงจากทำเนียบ ไปให้โปรเฟชเซ่อโฆษกรัฐบาลสัมภาษณ์ทำพีอาร์โฆษณาตัวเอง
(ดูโพสต์ วาสนา นาน่วม
วันนี้นี่แหละที่มีชาวนาฆ่าตัวตายแล้วหลายราย
เนื่องเพราะทนความกดดันจากทุกข์ทรมานในความแร้นแค้นสิ้นไร้ไม้ตอกไม่ไหว
เป็นวันที่ความล้มเหลวของชาติทั้งในทางเศรษฐกิจและกระบวนการยุติธรรมปรากฏชัดเด่นตำตา
ยังเป็นนิมิตรดีที่ผู้พิพากษาซึ่งถูกอำนาจรัฐแทรกแซงการตัดสินคดียังไม่ถึงกับเสียชีวิต
ให้ความหวังว่า “วันหนึ่ง...ท่านจะ ‘ชนะ’ ร่วมกันกับประชาชน” ดัง ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ปาวารณา
เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม เมื่อนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา
“ได้ใช้อาวุธปืนขนาด ๙ มม.ประจำตัว จ่อยิงหน้าอกด้านซ้ายจำนวน ๑ นัด”
เนื่องเพราะได้วินิจฉัยคดีตามหน้าที่รับผิดชอบแล้ว
กลับ “ได้รับเอกสารลับ
เปลี่ยนแปลงคำพิพากษา” ทั้งที่ “คดีนี้ไม่ใช่คดีความมั่นคง ไม่ใช่คดีก่อการร้าย
โจทก์ก็ไม่ได้ฟ้องจำเลยทั้งห้าว่ากระทำความผิดฐานก่อการร้าย
หรือความผิดต่อความมั่นคง แต่พยานหลักฐานทั้งหมดกลับเกิดจาก
หรือเกิดมีขึ้นในขณะที่จำเลยทั้งห้าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ซักถามเป็นเวลานาน
ในฐานะผู้ต้องสงสัยตามกฎหมายพิเศษคือกฎอัยการศึก” จึงพิพากษา “ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งห้า
เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลย” ได้
ครั้นได้รับคำสั่งจากอธิบดีผู้พิพากษาให้กลับลำคำพิพากษาซึ่งเขาไม่อาจทำได้
เพราะ “ในสายตาของผมนะ มันจะต้องได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนพอสมควร เราลงโทษคนไปคนหนึ่งไม่ใช่ว่าแค่คนนั้นถูกลงโทษ
ครอบครัวของเขาก็จะต้องเหมือนกับถูกลงโทษไปด้วย
เพราะฉะนั้นถ้าไม่มั่นใจจริงๆ
เราก็อย่าไปลงโทษเขา” ผู้พิพากษาคณากรชี้ด้วยว่าไม่ได้ปักใจจำเลยทั้งห้าไม่ได้กระทำผิด
“แต่กระบวนการยุติธรรมนี่มันต้องทำให้ ‘โปร่งใส’
ให้มันหนักแน่น ให้มันลงโทษคนได้...โดยไม่มีใครมาบอกว่า “เราไปลงโทษคนผิด”
จึงได้แถลงคำพิพากษาตามที่ได้พิจารณาไว้เบื้องต้น
ไม่ยอมกลับคำตามสั่งของอธิบดี แล้วอธิบายเจตนาที่ทำเช่นนั้น ว่าจักต้อง “คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา
คืนความยุติธรรมให้ประชาชน...” แล้วเพิ่มเติมด้วยว่า
“คำแถลงของผมอาจจะมีน้ำหนักเบาบางเหมือนขนนก
แต่หัวใจผู้พิพากษาหนักแน่นปานขุนเขา จึงมอบหัวใจชั่งบนตราชู ยืนยันคำแถลง”
จากนั้นจึงควักปืนยิงตัวเอง ด้วยปณิธาน “ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างไร้เกียรติ”
(https://www.sanook.com/news/7915642/?utm_echo=echobox&utm_medium=Social&utm_source=Twitter#Echobox=1570191811, https://www.voicetv.co.th/read/0C1Iz4N-q
และ https://twitter.com/Macimum1/status/1180136791786975235)
“ที่จริงหลังเหตุการณ์ท่านผู้พิพากษายิงตัวเองไม่ถึงชั่วโมงหลังจากนั้น
ก็มีตำรวจ สภ.เมืองยะลา ยิงตัวตายอีกคนหนึ่ง” ถือแถน @pran2844
ทวี้ตรำพึง “ไม่รู้มันเกิดอะไรกับบ้านเมืองยุคนี้
ขื่อแปมันพังจนเกินเยียวยา”
การกระทำของผู้พิพากษาคณากรจึงได้รับการเชิดชูจากประชาชนที่เชื่อในหลักนิติธรรม
“เชื่อมาตลอดว่าผู้พิพากษาที่ยึดมั่นในหลักการ และกล้าแหกระบบแบบท่านต้องมีอยู่
แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน
ขอบคุณท่านคณากร เพียรชนะ
ที่ทำให้เรารู้ว่าความเชื่อของพวกเราเป็นจริงและความหวังยังมี”