วันศุกร์, ตุลาคม 25, 2562

ชื่อสมชาย แต่ไม่สมชาย




สมชาย ที่ไม่สมชาย

ผ่านเข้าวันที่สามแล้ว
แต่ไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธใด ๆ จากนายสมชาย แสวงการ

กรณี อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ท้าดีเบต
จากเรื่องที่นายสมชายใช้ที่ประชุม ส.ว. เมื่อ 20 ต.ค. 62
นินทาว่าร้าย อ.ปิยบุตร และพรรคอนาคตใหม่
ที่โหวตคัดค้าน พรก.โอนกำลังพล

ก็ทำนองเดิม รูปแบบเดิม ๆ นั่นแหละครับ
ว่าไม่จงรักภักดี ไม่มีทัศนคติที่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรง เสียมารยาทและขี้ขลาดอย่างยิ่ง
อาศัยที่ประชุม ส.ว. พูดพาดพิงให้ร้ายคนอื่นที่ไม่ได้ร่วมประชุมด้วย

มีที่ไหนในโลก ส.ว.ใช้ที่ประชุม พูดให้ร้าย ส.ส.

เรื่อง พรก.โอนกำลังพล นี่
บอกตามตรงครับ ผมเห็นด้วยกับ อ.ปิยบุตร และอนาคตใหม่
ยิ่งมีบางคน หลายคน อ้างว่าเป็นราชประสงค์ ยิ่งตรงประเด็น
ตรงประเด็นที่ว่า ไม่เห็นด้วยที่จะโหวตผ่าน พรก.นี้

เนื่องจาก หากเป็นราชประสงค์ ยิ่งต้องทำให้ถูกต้อง ไร้คำครหา
ยิ่งต้องทำให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมายทุกกระเบียดนิ้ว

ไม่ยากเลยครับ
แค่รัฐบาลพูดคุยกับฝ่ายนิติบัญญัติ ประสานวุฒิสภา
เสนอเป็นพระราชบัญญัติ แทนที่จะเป็นพระราชกำหนด
ส.ส.โหวตผ่านให้ 3 วาระรวด รอช่วงเวลาหนึ่งไม่นานเกินไป
เรื่องก็เข้าสู่ ส.ว. ก็โหวตเห็นชอบ แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ เท่านั้นเอง

อาจช้ากว่า พรก. แต่ไม่ช้าเกิดการณ์ ไร้คำครหา

การที่รัฐบาลทำเป็น พรก. เพื่อให้รวดเร็ว
ก็เกิดปัญหาว่า ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 172 หรือไม่
ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เขาเห็นว่าขัด เขาก็ไม่โหวตให้
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลทำ รัฐบาลรับผิดชอบ

เป็นเรื่องระหว่าง ฝ่ายนิติบัญญัติ กับ ฝ่ายบริหาร

อีกอย่าง พระราชประสงค์นั้น
ทุกคนย่อมรู้ดี ว่าไม่มีราชประสงค์ให้ผิดกฎหมาย ให้ขัดรัฐธรรมนูญ
ผู้สนองราชประสงค์ ต้องเข้าใจ และต้องสนองให้สมบูรณ์ที่สุด
เป็นการปกป้องความระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นต่อราชประสงค์นั้น ๆ

ผมจึงเห็นว่า สิ่งที่อนาคตใหม่ทำ คือการปกป้อง
ส่วนที่รัฐบาลทำ และคนเชียร์รัฐบาล ด่าอนาคตใหม่
ผมเห็นว่าไม่ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรทำ ไม่ได้ปกป้องอย่างจริงใจ

แค่ฉวยโอกาสเท่านั้นเอง

อ.ปิยบุตร และ ส.ส.อนาคตใหม่
ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของประชาชน กล้าลงเลือกตั้ง
ส่วนนายสมชาย ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2549 จนถึงวันนี้
ได้เป็น สนช. สลับ ส.ว.ลากตั้งมาโดยตลอด 13 ปีไม่เคยเว้น
ถือได้ว่าเป็นตัวแทนเผด็จการ 100%

สมชาย นี่ หุ้นส่วนทางธุรกิจสื่อกับสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ครับ
เบื้องหลังคนพวกนี้ คือการจงรักภักดีเพื่อ่ผลประโยชน์ส่วนตน
อ้างเรื่องสถาบันเพื่อทำลายคนอื่นอยู่ตลอด

โดน อ.ปิยบุตรท้าทายผ่านทางสาธารณะแบบนี้
นายสมชายทำเป็นเงียบ ไม่สนใจ ไม่ให้ราคา

แน่ล่ะครับ เพราะคนพวกนี้เก่งแต่พูดฝ่ายเดียว
13 ปีในตำแหน่งรับใช้เผด็จการเคยซะที่ไหน
ที่จะขึ้นเวทีที่เป็นกลาง เวทีที่เป็นเนื้อหาเพื่อบ้านเมือง
นอกจากให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อพวกเดียวกัน เวทีพวกเดียวกัน

หากนายสมชายมั่นใจว่าตัวเองถูก อ.ปิยบุตรผิด
การดีเบตจะเป็นสิ่งที่ทำให้ อ.ปิยบุตรและอนาคตใหม่หมดที่ยืน
แต่นายสมชายกลับไม่กล้ารับคำท้า

นี่แหละครับ
สมชาย ที่ไม่สมชาย


ตระกองขวัญ

https://www.facebook.com/trakongkhwan/photos/a.434601733307533/2133441510090205/?type=3&theater