วันเสาร์, กรกฎาคม 06, 2562

ดีใจหลาย กับพี่น้อง ศาลฎีกา ยกฟ้อง เสื้อแดงเผา ศาลากลางมุกดาหาร ...แล้ว ใคร เผา...





https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2683812


5 กรกฎาคม 2562
ข่าวสดออนไลน์

ปิดฉากวาทกรรม! ศาลฎีกา “ยกฟ้อง” คดีคนเสื้อแดง “เผาศาลากลาง มุกดาหาร” หลังจากได้ต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริง มาเป็นเวลายาวนานร่วม 9 ปี

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. แฟนเพจ ยูดีดีนิวส์ – UDD news ซึ่งเป็นเพจที่รายงานความเคลื่อนไหวต่างๆ ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เปิดเผยว่า ศาลฎีกาจังหวัดมุกดาหาร ได้อ่านคำพิพากษา “ยกฟ้อง” จำเลยคดีเพลิงไหม้ศาลากลางจังหวัดมุกดาหารเมื่อปี 2553 ทั้ง 7 คน

หลังจากได้ต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริงมาเป็นเวลายาวนานร่วม 9 ปี ซึ่งศาลได้พิจารณาจากพยานทั้งโจทย์และจำเลยทั้งหมดแล้ว จึงได้พิพากษายกฟ้องทั้ง 7 คนไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของจำเลยทั้ง 7 คนและครอบครัว รวมทั้งทีมทนายความที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

เมื่อย้อนเหตุการณ์ไปในช่วงสายของวันที่ 19 พ.ค. 53 มีการเผายางหน้าศาลากลางจังหวัด ผู้ชุมนุมขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเจรจาขอตั้งเวทีชุมนุมกดดันรัฐบาลให้ยุติสลายการชุมนุมในกรุงเทพฯ แต่ไม่ประสบผล ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ ปีนรั้วเข้าไปในศาลากลางและลำเลียงยางเข้าไปวางตรงทางเข้า มีการพยายามโยนไฟเข้ากองยาง แต่ก็มีการห้ามปรามและช่วยกันดับไฟ จนกระทั่งมีวัยรุ่นกลิ้งยางเข้าไปใกล้อาคารหลังเก่า จากนั้นก็เกิดไฟลุกแล้วลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมและดับไฟ


อย่างไรก็ตาม มีการจับกุมผู้ชุมนุมในที่เกิดเหตุ 16 ราย ในจำนวนนี้มี 1 รายเป็นเยาวชน โดยผู้ชุมนุมหลายรายระบุว่าเจ้าหน้าที่ใช้กระบองทุบตีทำร้ายร่างกายระหว่างจับกุม โดยศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เม.ย. – พ.ค. 53 (ศปช.) กล่าวถึงเหตุจับกุมในวันนั้นว่า





“ทั้งหมดถูกควบคุมตัวรวมกันไว้ในรถผู้ต้องขังของตำรวจ บริเวณกลางลานซีเมนต์หน้าอาคารศาลากลางหลังเก่าซึ่งถูกไฟไหม้ไปแล้ว เป็นเวลา 2 คืน โดยไม่มีการปฐมพยายาลผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นถูกนำไปขังที่เรือนจำมุกดาหารด้วยข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์และบุกรุกสถานที่ราชการ ในจำนวนคนที่ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บและถูกจับกุมในช่วงสลายการชุมนุมทั้ง 16 คนนี้ ในที่สุดอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 คน และศาลพิพากษายกฟ้องถึง 10 คน”

อย่างไรก็ตาม มีการตามจับกุมเพิ่มเติมอีกภายหลังจนจำเลยในคดีนี้มีถึง 29 คน รวมยกฟ้อง 16 คน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 13 คน ๆ ละ 20 ปี ส่วนคดีเยาวชนนั้นขึ้นศาลเยาวชน พิพากษาให้มีความผิดฐานบุกรุกและให้คุมประพฤติ ในระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ นายประคอง ทองน้อย 1 ใน 13 จำเลยได้เสียชีวิตลง





ต่อมา 30 ก.ย. 58 ศาลอุทธรณ์มุกดาหารได้พิพากษาลดโทษเหลือ 1 ใน 4 คงเหลือโทษจำคุก 15 ปี และเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 60 นายดวง คนยืน ก็ได้เสียชีวิตอีกหนึ่งคนหลังจากถูกเรือนจำส่งมารักษาตัวเนื่องจากเป็นมะเร็งที่ถุงน้ำดีและตับระยะสุดท้าย โดยนางแก้ว คนยืน ผู้เป็นภรรยาได้กล่าวว่าทางเรือนจำจังหวัดมุกดาหารได้ส่งตัวนายดวงมาที่โรงพยาบาลจังหวัดมุกดาหารก่อนนายดวงเสียชีวิตนานสองเดือนเศษ

“มาถึงวันนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายกฟ้อง นับเป็นเวลายาวนานนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อ 19 พ.ค. 53 และในที่สุดก็ได้พิสูจน์ความจริงว่า “คนเสื้อแดงไม่ได้เผาศาลากลางจังหวัด” – “นปช.ไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์” แต่ยังมีคนบางกลุ่ม, สื่อบางค่าย ยังใช้วาทะกรรม “เผาบ้านเผาเมือง” เพื่อสร้างความเกลียดชังกันในสังคมไทยและหวังผลทางการเมืองต่อไปโดยไม่ได้สนใจเลยความวาทะกรรมดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง” แฟนเพจดังกล่าว ได้สรุปปิดท้าย

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะ เลขาธิการกลุ่ม นปช. ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีนี้ว่า ขอแสดงความยินดี

7 จำเลยคดีเพลิงไหม้ศาลากลาง จ.มุกดาหาร เมื่อปี 2553 ต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริงมาหลายปี ช่วยเหลือดูแลกันมาตามกำลัง วันนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง

ดีใจหลาย พี่น้องเอ๊ย ….