ไม่ต้องพูดถึงว่า คสช.กับพวกลิ่วล้อ
(สลิ่ม) เที่ยวกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองไว้อย่างไรแล้วทำอย่างนั้น
ความชั่วร้ายเหลวแหลกของกลุ่มนักรัฐประหารและผู้สนับสนุน ปรากฏชัดไม่เว้นแต่ละวันขณะนี้
สองเรื่องใหญ่อยู่ที่
การบังคับใช้กฎหมายและผลประโยชน์แอบแฝง อย่างหลังนี่จะเรียกว่าคอรัปชั่น หรือ ‘บังหลวง’ ย่อมไม่ผิด
การบังคับใช้กฎหมายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตุลาการ
ที่มีขั้นตอนมากมาย แต่เห็นได้ง่ายเมื่อเริ่มจากตำรวจ อัยการ ไปสิ้นสุดที่ศาล
ในยุค คสช.๑ และก่อนหน้าแล้วแต่กรณี มีขั้นตอนของทหารเข้ามาแทรก เช่นเชิญไปคุย
ชวนไปปรับทัศนคติ และอุ้มไปเข้าห้องขังก่อนจะยัดข้อหา ๑๑๒ บ้าง ๑๑๖ บ้าง
บางครั้งบางคราผู้ถูกกล่าวหาตกตึกตายบ้าง
มีคนจับเอาไปส่งเรือนจำกล้อนผม แล้วมีอาการโลหิตเป็นพิษบ้าง ไข้ขึ้นสูงมากบ้าง มีอยู่รายหนึ่งผูกคอตายในคุกที่ไม่มีลูกกรงหรือตะขออะไรให้ผูกได้
ผู้ตายน่าจะกำลังแขนของตนเองดึงผ้าที่ผูกคอจนสิ้นลม
เหล่านั้นอาจจะเป็นกระบวนการตุลาการชนิด ‘วิเศษ’ ดังที่มีรองนายกฯ ของคณะรัฐประหารคนหนึ่งเคยบอกว่าเป็นปาฏิหาริย์ของกฎหมาย
แต่ยังมีการบังคับใช้กฎหมายของผู้ครอบครองประเทศนามว่า คสช. ชนิด ‘ไม่เที่ยงธรรม’ อยู่อีกหลายอย่าง
เรื่อง ‘จ่านิว’ ถูกชายสี่คนที่สวมหมวกกันน็อคพลางใบหน้าทำร้ายสาหัส
ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการจับกุมคนร้ายได้ ขณะตำรวจแถลงว่ารู้ตัวคนโพสต์เบาะแสเตรียมเอาผิด
พรบ.คอมพิวเตอร์
คนโดนตีเปิดเผยว่าก่อนกลับบ้านตนได้ร้องขอตำรวจจัดเจ้าหน้าที่คุ้มครองพยานให้ด้วย
ตำรวจกลับยื่นข้อแม้ว่าถ้าจะให้ตำรวจคอยคุ้มครองต้องยุติการเคลื่อนไหวทางการเมือง
อุจาดไหมนี่ ตำรวจไทยกลายเป็นมาเฟียปกป้องคณะยึดอำนาจไปแล้วหรือ
ลองไปดูในชั้นศาลคดีการเมืองต่างๆ ตัดสินเข้าข้างฝ่ายที่ยึดอำนาจตลอด รองนายกฯ
ฝ่ายกฎหมายคนเดียวกันอ้างว่าเนื้อหาคดีต่างกันทั้งที่ฟ้องความผิดจากการกระทำแบบเดียวกัน
การตัดสินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาที่ลงโทษรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดนครสวรรค์คนหนึ่ง
หลังจากลดโทษกึ่งหนึ่งเพราะให้การสารภาพ เหลือแค่จำคุก ๒ เดือน ปรับ ๘ พันบาท
แล้วยังให้รอลงอาญา ๑ ปี ผู้คนยังอุทานด้วยความทึ่ง
ในเมื่อคดีนี้ผู้ถูกตัดสินไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน
เงินฝากธนาคารออมสิน ๓๙๓.๒๗ บาท ตอนพ้นตำแหน่งมีเหลืออยู่ ๑๐๐.๒๔ บาท
ตอนโดนคดีหนึ่งปีให้หลังเงินในบัญชีมี ๖๒.๕๔ บาท ความผิดมาตรา ๓๒, ๓๓ และ ๑๑๙ พรป.
ปปช.
ส่วนนาฬิกาสะสมของรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง
ยี่สิบกว่าเรือนหรูๆ ทั้งนั้น มูลค่าเป็นพันเป็นหมื่นล้าน เจ้าตัวบอกคำเดียว “ยืมเพื่อนมา
คืนหมดแล้ว” เพื่อนก็ตายไปแล้วไม่รู้ว่าคืนเมื่อไร ตอนนี้ของอยู่ไหน
ไม่มีใครรู้ใครชี้อะไรทั้งสิ้น ศาลก็ตัดสินยกฟ้อง
กับอีกคดีการเมืองแท้ๆ
ฝ่ายค้านยื่นเพราะตนโดนตัดสิทธิ ส.ส.ข้อหามีหุ้นสื่อในครอบครองตอนลงสมัครรับเลือกตั้ง
แต่มี ส.ส.แถม ได้เป็นผู้แทนฯ เพราะการปัดเศษตอนเลือกตั้งซ่อม
คนไปออกเสียงมากกว่าเดิม ถึงพรรคฝ่ายค้านจะชนะแต่คะแนนล้น
ผู้กำกับการเลือกตั้งเลยปัดไปให้พรรคคู่แข่งได้ ส.ส.เพิ่มซะงั้น
ส.ส.หญิงคนนี้ เป็นสาวดังตระกูลคนดี
มีบทบาทสูงตอนกวักมือเรียกทหารเข้ามายึดอำนาจ ตอนดดนฟ้องเรื่องมีหุ้นสื่อเหมือนกัน
แต่หลุดได้ง่ายๆ ด้วยการแจ้งเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในใบบริคณฑ์สนธิ ๑
เดือนก่อนที่จะได้รับการปัดเศษให้เป็น ส.ส.
เนื้อหาเต็มอยู่ที่นี่ https://www.isranews.org/isranews-scoop/78169-report_78169.html แต่มีคนสรุปให้ไว้ว่า “๓๐
เม.ย.๖๒ บอจ.๕ ระบุยังถือหุ้น บ.ที่มีวัตถุประสงค์ทำสื่อ ซึ่งนางโอนหุ้น ๔ ม.ค.๖๒
(เพิ่งแจ้งเมื่อ ๑ ก.ค.๖๒) แต่กรณีนี้มีประเด็นคือหลังสภายื่น ศาล รธน.ก็มีการแจ้งเปลี่ยน
บอจ.๕ ใหม่ อ้างข้อมูลเก่าลงผิด” อย่างนี้ก็มี
เรื่องคอรัปชั่น (เชิงนโยบาย) ล่ะ
เอาตัวอย่างสดๆ กำลังบ่มเพาะนี่ละ “พรรคอนาคตใหม่ชี้รัฐบาล
คสช.ฉวยจังหวะรอยต่อรัฐบาลใหม่ทิ้งทวน ๖ โครงการใหญ่ ส่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่”
ส.ส.สองคนช่วยกันแจง
ศิริกัญญา ตันสกุล พูดถึงเรื่องการนำสายไฟ
สายเคเบิ้ลลงดิน ที่บริษัททรู คอร์ปฯ ได้สัมปทานแต่ผู้เดียว มูลค่า ๒ หมื่นล้านบาท
ข้อกังวลคือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง
ไหนจะโครงการคืนเงินทีวีดิจิทัลทั้งสิ้น ๕ หมื่นล้าน
แก๊งประชารัฐของ คสช.อ้างว่าจะได้คืนจากการ
‘แจก’ ใบประกอบการเครือข่าย
5G ไม่ต้องประมูล เอาไลเซ่นส์ เอาเงินมา แรกว่าราคา ๒ หมื่น
๕ พันล้าน ซึ่งต่ำกว่าราคา 4G มากแล้ว ตอนนี้ลดเหลือ ๑ หมื่น
๗ พัน คนกันเองทั้งนั้น ‘เจ้าสัวประชารัฐ’
ยังมีสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีสนามบินที่ ‘คิงพาวเวอร์’ กินเรียบไปแล้ว กำลังจะฟาด ‘ร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมือง’ เพิ่มอีก “หลายครั้งเราไม่สามารถเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นมากดดันรัฐบาลได้
จนกว่าเราจะรู้สึกว่าเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้ว” ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรคอนาคตใหม่
ว่า
ส่วน สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ
ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกคน พูดถึงเรื่องสัมปทานทางด่วน ที่บริษัททางด่วนกรุงเทพได้รับเพื่อชดเชยค่าปรับจากคดีความที่ถูกตัดสินว่าแพ้
โดยมีการเหมารวมเอามูลค่าความเสียหายจากข้อพิพาทอื่นๆ
ที่ศาลยังไม่ได้ตัดสินเข้ามาด้วย
ทำให้มูลค่าสัมปทานรายนี้เหยียด ๔ แสน ๒
หมื่นล้านบาท แล้วยังโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินที่กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์คว้าปลามันไป
ส่วนมันน่ะรถไฟ แต่ส่วนเนรื้อปลาอยู่ที่อสังหาริมทรัพย์รายรอบสถานี
“กลายเป็นโครงการพัฒนาที่ดิน
โดยรัฐต้องออกเงินช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน ๑๑๗,๒๒๗ ล้านบาท”
สุรเชษฐ์ เตือนให้เร่งตั้งกรรมาธิการวิสามัญสภาผู้แทนฯ ทำการตรวจสอบ
เขายังเอ่ยถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง (ขนาดปานกลาง) ของจีน เส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช
ด้วยว่า
มูลค่ากว่า ๑ แสน ๘ หมื่นล้าน “ขัดกับตรรกะของการพัฒนาเป็นอย่างมาก”
เพราะหลายโครงการที่วัตถุประสงค์อย่างเดียวกันไปกระจุกอยู่ตรงนั้น
ไหนจะรถไฟรางคู่และมอเตอร์เวย์ แล้วอัดรถไฟเร็วสูงเข้าไปอีก
“คาดว่าโครงการนี้จะขาดทุนยิ่งกว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงด้วยซ้ำ
ที่สำคัญมีการไปประเคนโครงการนี้ให้จีนโดยไม่มีการประมูล เป็นการล็อคสเป็คไปแล้ว” สุรเชษฐ์ว่าเสียใจเบรคไม่ทันแล้ว
ในเมื่อทั่นผู้นัมพ์เทิดทูน ‘จีนโมเดล’ เสียเหลือหลาย
ประชากรผู้รักความก้าวหน้า
น่าจะเอาอย่างฮ่องกงนะ พับผ่าสิ