เค้าขอโทษแล้วนะ ตะเอง ‘I-Tube 4.0’ พูดใหม่ตอนได้ปลื้มหลังจากอดีตสี่รัฐมนตรีที่ให้ไป
‘run’ (ดำเนินงาน) พรรคประชารัฐแบกเทียบมาเชิญเป็นอันดับ ๑
ในรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค
“ขอโทษที่เมื่อเช้าพูดจาไม่ดีไปหน่อย บางทีก็เผลอไผลไปบ้าง
ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก ไม่ได้หมายถึงทุกคน แต่คนไม่ดีมันมีอยู่ไง
เพียงแต่อารมณ์มันก็ขึ้นไปบ้างนะ” แน่ะปากไม่ดีโทษชีโทษสงฆ์ไหมล่ะ
อันนั้น วาสนา นาน่วม บรรยายว่า “นายกฯใช้โอกาส
ที่เจอหน้าสื่อ ที่เป็นตัวแทนขึ้นไปทำข่าว ทีม พรรคพลังประชารัฐ
มาเข้าพบเพื่อทาบทามให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ที่ห้องสีม่วงบนตึกไทยคู่ฟ้า”
แต่กว่าจะได้ขอโทษภายในวันเดียวกันก็เถอะ
เรื่องมันไปไกลมากแล้ว บนหน้าทวิตเตอร์ติดอันดับสูงสุดคนอ่านรับรู้คำบริพาษของนายกรัฐมนตรีไทยที่มาจากการยึดอำนาจรัฐบาลจากการเลือกตั้งชอบธรรม
เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เห็นวุฒิภาวะต่ำตมของหัวหน้า คสช.
กระนั้นก็ยังมีคำชมชื่นจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ปิดท้ายการเสนอรายการ ‘เฮียฉุน’ ชอบ ‘หัวร้อน’ ด่าออกสื่อตั้งค่าสาธารณะอยู่เป็นประจำ
ว่าถึงแม้ทั่นจะทำอย่างนั้นบ่อยครั้ง ทั่นก็ยังไม่วายหันกลับมาขอโทษพร้อมข้ออ้างทางพระ
“คนเราก็มีอารมณ์โกรธ” ไทยรัฐจึงได้บันทึกว่า “คนไทยจึงได้ยิน
คำขอโทษ ขอโทษ และขอโทษ ออกจากปากนายกรัฐมนตรีของเราจนคุ้นชิน”
เพราะว่าไอ้ที่แกหลุดออกมาไม่ได้แค่ครั้งสองครั้ง แต่รวมเบ็ดเสร็จทั้งสิ้น ๗
คราวแล้วเรา
ย้อนศรจากครั้งล่าสุดวันที่ ๑ กุมภา ปีนี้ ไปหาครั้งก่อน ๓๐
พฤศจิกา ปีที่แล้วตอนเป็นประธานประชุมยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ พูดถึงสื่อเซ้าซี้ถามเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง
“แม่งจะตายห่ากันให้หมดหรืออย่างไร ก็ไม่รู้กับไอ้เรื่องซังกะบ๊วยพวกนี้...”
ย้อนต่อไปตอนปลายๆ เดือนกรกฎา ๖๑ ตอนนั้นปรี๊ดขั้นสุดๆ
ไปที่สวนสัตว์อุบลฯ พอดี บ่นเรื่องโดนสื่อวิจารณ์มาก เลยเลิกอ่านหนังสือพิมพ์
(ประชด) แล้วก็โพล่งออกมา “ใครด่าจะชกปาก” ก็โอเคไม่ได้ชกจริงๆ
แม้จะมีคนด่าทั่วเมือง
แต่เมื่อตอนต้นปี ๕๙ ราวกลางเดือนมกรา ตอบคำถามสื่อเรื่องแก้ปัญหาราคายาง
“ท่านบอกให้ผมไปทำถนน...ท่านบอกประโยชน์น้อย ใช้งบประมาณเปลือง
แล้วจะให้กูทำยังไงวะ” นั่นไม่ใช่เป็นการออกมึงกูครั้งแรกของทั่นนะ
ถอยกลับไปอีก ๑ ปี เดือนมีนา ๕๘ ปลายเดือน วันที่ ๒๕
วันเดียวเล่นสองรายการ เห็นนักข่าวกระซิบกันว่า “แม่งอารมณ์บูดตั้งแต่เช้า” เวอร์ชั่นของไทยรัฐระบุว่า
“มีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงถึงขนาดบางช่วงเสียงสั่น และมีการโยนเอกสารใส่ผู้สื่อข่าว”
เกี่ยวกับคอลัมน์วิจารณ์ต่างๆ “อะไรกันนักหนา...เปิดอ่านดูไม่ได้สักหน้าหนึ่ง
เป็นบ้ากันไปหรืออย่างไร เก่งนักหนา มึงมาบริหารงานมา มาเป็น ส.ส.เลย”
ส่วนอีกเรื่องเนื่องจากเกิดเหตุบึ้มกลางเมืองหลายครั้ง แล้ว ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
เหน็บว่าสร้างสถานการณ์หรือเปล่า
เท่านั้นแหละ พอนักข่าวถามจริงไหม ทั่นหัวหน้าใส่อารมณ์ “ก็มันโง่ไง...ฉันจะมาทำเองทำไม
เพื่อที่ฉันอยากจะอยู่อย่างนั้นหรือ” แค่นั้นไม่พอ
โดนนักข่าวแซะว่าจะเรียกมาปรับทัศนคติมั้ยทั่น “ไม่สนใจเรียกมาแล้วหลายครั้ง...พอไม่ปล่อยก็หาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนก็แค่นี้ เฮงซวยพวกนี้”
และเมื่อมกราคม ๒๕๕๘ ตอนปลายๆ เดือน พี่แกฉุนสื่ออีกแหละที่มีรูปชี้นิ้วปลิวว่อนเว็บ
เลยโขกซะ “ไอ้ห่า ถ่ายออกมาดีๆ ดันไปถ่ายผมชี้นิ้วอย่างนั้นอย่างนี้นี่แหละที่เขาบอกว่าจิตใจมันต่ำ
ด่าที ไม่กลัวหรอกจะด่าแบบนี้ จะทำไม”
มันเขาละ ปากพาไปของทั่นผู้นัมพ์เป็นบุคคลิกภาพซ้ำซากที่เดี๋ยวนี้ชาวประชาเห็นเป็นเรื่องโปกฮา
อย่าได้ซีเรียสกับมันเป็นอันขาด อาจมีเล่ห์กลซ่อนเร้นได้ ดังที่ Oak Panthongtae @oak_ptt ชี้แนะ
“จะท้าทายอย่างไรเราอย่าได้หลงกลออกไปไล่เขา
เราทนกับคำพูดแบบนี้กันมาเกือบ ๕ ปีแล้ว เหลือเวลาอีกเพียง ๕๑ วัน ทดสอบความอดทนกันอีกนิด
ท่องเอาไว้ ‘ยังไงก็ต้องเลือกตั้ง’ อย่าให้เขาเอาประเด็นความวุ่นวายมาอ้างได้อีก
๒๔ มี.ค.
บอกลาเผด็จการ เดินหน้าปชต. #ไปต่อไม่รอแล้วนะลุง”