เสียงเรียกร้องตอนนี้ดังกว่าลำโพงบวชนาควัดสิงห์เสียแล้ว
คอการเมืองอยากฟังเฮียตู๊บดีเบท อย่างนี้ต้องถามว่า “ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา”
พวกลิ่วล้อที่เลียขาเลียแข้งกันอยู่ก็ไม่แน่ใจทั้งนั้น
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เกี่ยงให้ไปถาม กกต. ก่อน ถ้า
กกต.บอกว่าได้ก็ยังไม่ยืนยันว่าพรรคจะยอมไหม พูดแบบไม่ต้องถาม ‘บุรุษที่ใช่’ ซักคำ อ้างว่าทางพรรค “ต้องดูข้อจำกัดเรื่องเวลาทำงานของนายกฯ
ด้วย”
ที่จริงสิ่งที่ พปชร.ต้องการให้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาช่วยก็แค่ “ได้ร่วมทำกิจกรรมหาเสียง
พบปะประชาชนร่วมกับพรรค จะทำให้คะแนนนิยมของพลังประชารัฐจะดีขึ้นอีกมาก” ส่วนเรื่องดีบ่งดีเบทอะไรนั่นคงหวั่นๆ
อยู่เหมือนกัน
ดูจากที่ชาวบ้านย่านไซเบอร์เขาเม้าท์ แล้วท่าไม่ไหว
“_มาดีเบทไม่ได้หรอก
กะแค่โดนนักข่าวถามจี้จุดหรือโดนโซเชียลแซะ _ยังเหวี่ยงด่ากราด
ลองมาเจอเจ๊จอมขวัญหรือ อจ.วีระ ตบซักสองคำถาม มีหวังล้มโพเดี้ยม
วอล์คเอาท์กลางรายการ”
ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @FrostMistic (ไม่รู้ชื่อจริงว่าไร แต่ใช้สัญญลักษณ์ลูกเชอรี่กะแบ็คสแล้สช์ตามด้วยเลข 7
ที่กำลังฮิต) ลงท้าย “คนอะไรนอกจากไม่มีความรู้แล้วยังไม่มีวุฒิภาวะอีก
ขรรม”
ทางด้านทั่นรองฝ่าย ‘หัวหมอ’ วิษณุ เครืองาม พอถูกถามว่าเจ้านายคุณน่ะจะไปดีเบทไหม
พวกพรรคการเมืองเขากวักมือเรียกกันขวักไขว่ ก็ยังว่าต้องฟัง กกต. ก่อน เพื่อป้องกันไว้ในแง่กฎหมายดิ้นได้
“ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถดีเบทได้ แต่ต้องระมัดระวังในการใช้คำพูด
หากพูดไม่เป็นก็จะเกิดอันตราย”
นั่นไง ทำเอาพวกนักข่าวฮาตรึม พูดไม่เป็นท่า
โดนพิธีกรย้อนยอกแล้วดันยกโพเดี้ยมทุ่มใส่จอมขวัญละก็ ตายห่ แต่ข้อที่วิษณุห่วงอยู่ที่ว่า
“เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ทั้งผู้สมัครและสมาชิกของพรรค” จึงไม่สามารถพูดถึงนโยบายของ
พปชร.ได้
“ต้องเป็นคำพูดที่เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของตัวเอง
สิ่งที่เคยทำในอดีต ทำอยู่ปัจจุบัน และหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไรต่อไป”
ไม่รู้เหมือนกันถ้าเฮียเค้าพูดแขวะ พูดขวิดรัฐบาลก่อนแบบที่ชอบทำบ่อยๆ ปูอย่างโน้น
ปูอย่างนี้น่ะ เข้าข่ายวิสัยทัศน์ด้วยไหม
นั่นยังพอทำเนา แล้วไอ้ที่เวลาพูดแล้วตกมัน
ดันขึ้นกูมึง วะเว้ย ผสมไปด้วยล่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้พวกลิ่วล้อเอาอย่างกันใหญ่
สองวันก่อน เฮียเลขาฯ พปชร. สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไปหาเสียงที่ปากน้ำ
ออกอาการของขึ้น ว่า “พรรคการเมืองอื่นด่ากันทั้งวัน ตื่นเข้าขึ้นมาก็ด่ากันแล้ว”
พรรคของเขาจะพาคนไทยก้าวข้ามไปให้พ้นพวกปากหอยปากปู
“วันนี้มีการโจมตีพรรค พปชร.ทุกวัน ซึ่งเราก็ยิ้มๆ ทุกวัน แต่ต่อไปนี้กูไม่ยิ้มอีกแล้ว
กูจะสู้กับมึง” แน่ะ หมาเยี่ยวซ้ำรอยพวกเดียวกัน
เสียแต่ว่าทำท่าแกร่งกร้าวอย่างนั้น บุคคลิกไม่ยักให้
อย่างไรก็ตาม ทั่นรองนายกฯ ได้โอกาสตีกันในกรณีที่มีคนไปยื่นคำร้องให้
กกต.ยุบพรรคพลังประชารัฐ เพราะเสนอชื่อประยุทธ์เป็นนายกฯ ผิดมาตรา ๙๘(๑๕)
ฐานที่เป็น ‘เจ้าหน้าที่รัฐ’ ห้ามเล่นการเมืองนั้น วิษณุว่าไม่เข้าข่าย “คสช.
เป็นแค่องค์กรชั่วคราวที่ถูกตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ”
เขาอ้างว่าเนื่องจาก ปปช.เคยมีมติออกมาแล้ว
“ว่า คสช.ไม่ต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.
เนื่องจากเป็นองค์กรที่ตั้งมาชั่วคราวตามรัฐธรรมนูญ เท่านั้น”
จึงถือว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ใครจะโวยว่า เฮ้ย กินเงินเดือนจากงบประมาณรัฐอยู่ทุกวี่วัน
ทั่นไม่สน
ถึงอย่างนั้นประธาน กกต. แจงว่าได้รับหนังสือสอบถามเรื่องหัวหน้า
คสช.จะสามารถทำอะไรร่วมกับพรรคได้บ้าง “ประยุทธ์จะสามารถร่วมเวทีดีเบตได้หรือไม่
ต้องรอมติจากที่ประชุม กกต.ก่อน เช่นเดียวกับกรณีไปร่วมหาเสียง”
ซึ่งวันนี้ (๒๖ ก.พ.) เป็นวันแรกของเวทีดีเบทที่ กกต.จัด “ให้พรรคการเมืองจับคู่ดีเบทนโยบาย” ไปจนกระทั่งถึงถึง ๔ มี.ค. ก่อนหน้านี้อิทธิพร บุญประคอง ให้ความเห็นเกี่ยวกับการดีเบทที่ กกต.จัด ไว้ว่า
ผู้ที่จะเข้าโต้วาทีก็มี หัวหน้าพรรคการเมือง สมาชิกพรรค และผู้ที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกฯ