อุบาทว์การของวาทกรรม ‘หนักแผ่นดิน’ ที่กำลังปั่นป่วนสังคมขณะนี้ ดูเหมือนจะเป็น ๖ ตุลา ‘Revival’ คืนชีพ เห็นได้จากคนที่จุดกับคนที่โหมกระพือ ยังขาดก็แต่บทบาทคนลงมือ
จะหือแรงได้เหมือนครั้งก่อนหรือไม่
คนที่จุดไฟคราวนี้ชื่อแรกอักษร จ. ชื่อสกุล Yugala อำมาตย์ดั้งเดิม ศักดินา ’ญาสิทธิราช คนกระพือคือขุนศึกสมัยไล่ยิงเข่นฆ่า
‘เสื้อแดง’ เดี๋ยวนี้ใหญ่คับแผ่นดินภายใต้ม่านฟ้าฝ่าละอองฯ
คนลงมือยังอึ้งอั้นกันไว้ภายใน ‘พรรคการเมือง’ หน่วยฟอกขาวประชาธิปไตยให้กับนักรัฐประหาร ชื่อย่อคลับคล้าย ‘รสช.’
ทั้งสามประสานเกี่ยวพันกันล้ำลึก
พร้อมที่จะจุดติดได้เหมือนเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๒๕๑๙ ที่ตำรวจชายแดน กระทิงแดง นวพล
ลูกเสือชาวบ้าน อาวุธพร้อมมือทั้งปืนผา มีด ไม้ ระดมถล่มที่ชุมนุมของนักศึกษาใน
ม.ธรรมศาสตร์ ตายไปนับได้เกือบ ๘๐ ราย นับไม่ได้และหนีหายเข้าป่าอีกบานเบอะ
ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์รัฐศาสตร์ มธ. ฟื้นความหลังไว้บนทวิตเตอร์ถึงเพลง
‘หนักแผ่นดิน’ ที่ถูกจุดและโหมโดยหม่อมเจ้าจุลเจิมกับ
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่า “เป็นเพลงที่ขบวนการฝ่ายขวาใช้ปลุกระดมความเกลียดชังต่อนักศึกษา
และประชาชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมทางสังคมหลัง ๑๔ ต.ค.
การปลุกระดมทำผ่านวิทยุของหน่วยความมั่นคง
กองทัพและสื่อฝ่ายขวา จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมสังหารหมู่นักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ในวันที่
๖ ต.ค. ๒๕๑๙” นักวิชาการผู้นี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า “เพลง
#หนักแผ่นดิน
เข้าข่ายเป็น hate speech”
วาทกรรมสร้างความชิงชัง ทำให้ผู้คนต่างความคิดใช้ความรุนแรงฆ่าแกงกัน
ณ เวลานี้ ภายในสโมสรกองทัพบกโหมเปิดเพลงกระตุ้นความชิงชังนี้อยู่ทุกวัน
๓ เวลา โดยพันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกชี้แจงว่า “ผู้บัญชาการทหารบกสั่งการให้กรมกิจการพลเรือนทหารบก
เปิดเพลงที่มีเนื้อหาปลุกใจกำลังพล ในวิทยุเครือข่ายกองทัพบกทั่วประเทศ”
เพื่อ “เน้นปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ รักแผ่นดิน
มีความจงรักภักดี” ทั้งนี้จะเปิดสลับกับเพลงปลุกใจอื่นๆ เช่น เราสู้หนัก
รักกันไว้เถิด เกิดเป็นไทย สยามานุสติ และสามัคคีสี่เหล่า เป็นต้น แต่ ‘หนักแผ่นดิน’ จะเป็นตัวชูโรง
จึงเป็นที่กังขาว่านี่เป็นการปลุกระดมทหารด้วยยุทธวิธีก่อกวนให้น้ำขุ่นก่อนจะมีการเลือกตั้งหรือไม่
ในเมื่อคนจุดนั้นแสดงตนในที่สาธารณะว่าไม่ต้องการเลือกตั้ง แม้ระยะหลังๆ
มักจะทำเนียนมุสาปะหน้าไว้ก่อนว่า “มิได้จะพูดถึงเรื่องการเมืองแต่อย่างใด”
คนโหมก็ทำเนียน ‘อิเหนาเป็นเอง’
เช่นกัน เที่ยวกร่างเตือนฝ่ายการเมืองตรงข้ามของพรรค คสช. ‘อย่าล้ำเส้น’ เพียงเพื่อจะเป็นเสียเอง ในเมื่อถูกนักข่าวตั้งคำถามว่า
มีพรรคการเมืองกำหนดนโยบายตัดงบประมาณกองทัพลง ๑๐
เปอร์เซ็นต์เพื่อนำไปช่วยสร้างรายได้แก่คนรุ่นใหม่ในประเทศ
เท่านั้น ผบ.ทบ.ก็เอาเชียว ถีบกลับให้ไปฟังเพลง #หนักแผ่นดิน
พอถามรัฐมนตรีกลาโหม พี่ใหญ่รองหัวหน้า คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอาบ้าง “ให้ไปฟังเพลงที่ ผบ.ทบ. บอกให้ฟัง”
จึงได้มีใครต่อใครออกมาโต้กลับกันเป็นทิวแถว
นุ่มๆ แต่หนัก ก็ว่าที่นายกฯ เสนอโดยพรรคเพื่อไทย หญิงหน่อยบรรจงตอบว่า ทีกับคนเสนอตัวเป็นนายกฯ
ที่มาจากคณะรัฐประหาร ผบ.ทบ. “ที่มีท่าทีอ่อนน้อมอย่างยิ่ง”
แต่กับฝ่ายที่มาทางสายประชาชนกลับแข็งกร้าว
“ทั้งที่โดยสถานะผบ.ทบ. ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง” อีกทั้ง “งบประมาณที่ขอแบ่งมา
๑๐% นี้เป็นจำนวน เพียง ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท จากงบประมาณกระทรวงกลาโหม ทั้งหมด กว่า ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท”
และยืนยันว่างบประมาณที่ ‘ขอแบ่ง’ จากทหารนี้ “จะไม่กระทบต่อการดูแลรายได้
และสวัสดิการของกำลังพล” ขณะที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ทะลวงเข้าไปถึงประเด็นที่ว่า “การที่กองทัพแสดงท่าทีอย่างนี้
ยิ่งมีเหตุผลจำเป็นมาก ว่าจะต้องมีการปฏิรูปกองทัพ
...สร้างระบบเสนาธิการร่วมให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ”
น.ส.พรรณิการ์ วานิช ให้สัมภาษณ์จัดหนักพอดูว่า “ไม่มีใครหนักแผ่นดิน ทุกคนหนักเท่ากันบนแผ่นดินนี้
ทำงานจ่ายภาษีเหมือนๆ กัน แต่ที่เรารู้แน่ๆ คือ
งบประมาณกองทัพหนักและเป็นภาระแผ่นดินมากเกินความจำเป็น”
คุณช่อ อนาคตใหม่ย้ำด้วยว่าถ้าอยากฟังเพลงที่ทันสมัย ควรฟัง ‘ประเทศกูมี’
หลายๆ รอบจะดีกว่า “เพลงประเทศกูมียอดวิวกว่า ๕๖ ล้านวิว
เทียบกันแล้วย่อมเห็นได้ว่าประชาชนต้องการฟังอะไร และมีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร
ทุกคนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศ”
ส่วนคำตอบโต้ต่อเลขาฯ คสช. ของหัวหน้าพรรคเสรีนำไทยไปไกลกว่า บอกให้ “ผบ.ทบ.ไปฟังเสียเองก็หมดเรื่อง”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส สาวไส้กลับไปยาวถึงช่วงอายุขัยบุพการีของ ‘เด็กเมื่อวานซืน’ ว่า “พ่อเค้ายึดอำนาจมา
แถมก่อนตายยังถูกฟ้องแย่งสมบัติ เกือบ ๓ พันกว่าล้าน เอาเงินมาจากไหนหรือ ยึดอำนาจมันรวยนัก”
มหากาพย์ของ ‘บิ๊กจ๊อด’ พล.อ.สุนทร
คงสมพงษ์ หัวหน้ารัฐประหาร 'รสช.' ยึดอำนาจรัฐบาล ชาติชาย ชุณหะวัน (๒) เมื่อปี ๒๕๓๔
เป็นอย่างไร พอดี ‘ไทยรัฐออนไลน์’
ขุดขึ้นมาตีแผ่ไว้ทันใจให้อ่านอย่างซึมซับกัน ที่นี่ http://www.thairath.co.th/content/1499115
(แหล่งข้อมูลอื่นๆ จาก https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2224111, https://www.voicetv.co.th/read/hJV5KLMt5, https://voicetv.co.th/read/Uv08lfR1x, https://www.facebook.com/241115389300595/posts/2067649283313854?sfns=mo&_rdc=2&_rdr และ https://www.matichon.co.th/politics/news_1368822)
ไม่เพียงเท่านั้น การ “ไล่ไปฟังเพลง #หนักแผ่นดิน
ทำให้เรารู้จัก ผบ.ทบ. และกองทัพมากขึ้น” Weeranan Kanhar ตั้งข้อสังเกตุไว้ถึงเรื่อง “ทรัพย์สิน
ฐานะทางสังคมแต่ละคนในครอบครัวของ ผบ.ทบ.” ที่อย่างน้อยๆ ตอนนี้มีโผล่ออกมาแล้ว
จากบทความมติชนสุดสัปดาห์
ฉบับ ๙-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เนื้อหาบ่งถึง ‘ดร.อ้อ’
ผู้เป็นแรงใจ ‘บิ๊กแดง’ ~Voteจ้า @iamasiam เสริมว่า “หนักแผ่นดินคือมายา ‘หนักกระเป๋า’ สิของจริง” ชนิดที่ ‘Boeing @b969’ เอาไปทวี้ตซุบซิบ
“แกๆ เมียผบ.ทบ.เป็นกรรมการอิสระบริษัทไทยเบฟฯ ด้วยหละ”
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปจะมีเบื้องลึกของเก่าคดี
‘ค้ามนุษย์’ ที่ ‘วิคตอเรีย
ซีเคร็ท’ ซึ่งจบไปอย่างรวดเร็วนานแล้ว หลุดออกมาใหม่ด้วยไหม
แว่วๆ ว่าข้อมูลมีอยู่แล้วไม่น้อยในตอนนี้