ธนาธร 'อนาคตใหม่' พุ่งปรี๊ดตอนนี้ เพราะลิ่วล้อ คสช. ระดมซัดนี่เอง

กระแสอนาคตใหม่ท่าจะแรงจริง จนทำให้นักการเมืองลิ่วล้อ คสช. ระดมซัด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กันใหญ่ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ลูกไล่ สุเทพ เทือกสุบรรณ นั่นคนหนึ่งละ ถึงขนาดถอดวิญญานวิญญูชนทิ้งชักโครก หันมาชกใต้เข็มขัด ฟัดธนาธรด้วยเรื่อง ‘กำพืด’

สองวันมาแล้วที่เอนกโพสต์ข้อความจ้วงจาบธนาธรไว้อย่างสาดเสีย เขากล่าวหาหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ “เอาแต่พาประชาชนให้โกรธประเทศนี้” และ “ค่อนขอดความเป็นไทย...จนเป็นฮ้อบบี้”

เอนกหยามหมิ่นธนาธรร้ายแรงมากเรื่องกำพืดว่าบรรพบุรุษอพยพมาจากเมืองจีน ถ้าไปขึ้นฝั่งอินโด มาเลย์หรือขแมร์ ป่านนี้โดนฆ่าทิ้งไปแล้ว หรือไม่ก็กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง เอนกออกลายลำเลิกบุณคุณแบบพวกขี้ข้าอำมาตย์ทั้งหลาย

ว่าถ้าไม่ใช่เพราะบุญบารมีพระมหากษัตริย์ไทยโบราณ “ทรงโปรดปรานคนต่างชาติต่างภาษาให้เข้ามารวมอยู่ในพระบรมโพธิสมพารเดียวกัน” แล้วละก็ “คุณจะมีชีวิต ฐานะ และบทบาท สูงเด่นอย่างทุกวันนี้ได้หรือ”

เอนกตัดทิ้งหมดเรื่องสติปัญญา ความสามารถ และความจริงใจต่อประชาชน ที่เอนกนอกจากไม่มีแล้วยังดูเหมือนบางสิ่งที่เคยมี บ้างเลอะเลือน บ้างเลื่อนหายไปหมด อย่างเช่น สำนึกการเป็น ‘ซินตึ๊ง’ ชนิดที่เขาเองอ้างว่าถูก ‘ทักษิณ’ ตราหน้าไว้

(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_170970)

 

‘ว่าไป’ การแสดงบทรับใช้เผด็จการทหารด้วยการห้อยโหนพระบรมโพธิสมภารของเอนก ดูจะไร้ราคา หาค่าไม่เจอละมัง ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่จึงได้ไม่แยแส ถึงอย่างไรการโจมตีในลักษณะ ‘character assassination’ ครั้งนี้ มันไปโดนพวกพ้องร่วมคอกเข้าด้วย

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นอาของธนาธร ถึงจะอยู่คนขั้วการเมืองกับหลานชาย ในฐานะแกนนำสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นฐานรองรับการครองบ้านครองเมืองอย่างต่อเนื่องของ คสช. แบบเดียวกับพรรค รปช. ย่อมถูกเอนกเหยียดหยามชาติตระกูลเช่นเดียวกัน

‘ทำไรมี’ การกระทำของเอนกไม่ต่างอะไรกับปฏิบัติการ ‘ไอโอ’ ทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองของ คสช. เพราะพวกนี้รู้ตัวว่าถ้าจะยืนซดกันหมัดต่อหมัดแล้วไม่มีทางสู้ได้ จึงต้องใช้วิธีแตะตัดขา ซุ่มทำร้าย และหมาลอบกัด

พูดถึงกันมากขณะนี้เป็นกร๊าฟฟิคโจมตีธนาธรที่จั่วหัวว่า “อ่านสักนิด หากคิดจะเลือกธนาธร” เต็มไปด้วยข้อความให้ร้าย เช่น ธนาธรเป็นนายทุนนิตยสารที่ถูกปิด ปิยบุตร (แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค) เป็นนักวิชาการล้มเจ้า และธนาธรเคยร่วมชุมนุมเสื้อแดง

ข้อหลังนั่นน่าจะเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจของเขามากกว่า สองข้อต้นก็มุสาทั้งเพ ทั้งนิตยสารฟ้าเดียวกัน และ อจ.ปิยบุตร ต่างยังคงยืนหยัดเพื่อหลักการประชาธิปไตยอย่างทรนง ส่วนประเด็นย่อยๆ อย่าง “ไม่ต้องหมอบกราบพระเจ้า” “เศรษฐกิจพอเพียงเป็นวาทกรรม” “รัฐไทยไม่ควรอุปถัมภ์ศาสนาพุธ” และ “ไหว้ครูเป็นพิธีกรรมล้าหลัง” ล้วนมีความจริงคัดง้างได้ทั้งสิ้น

โดยเฉพาะเรื่อง “ยกเลิกการกราบไหว้ผู้อาวุโส และกิจกรรมที่แสดงความเป็นไทยทั้งหมด” หมอชัยวุฒิ สุวรรณโณ ผู้สนับสนุนแข็งขันของพรรคอนาคตใหม่คนหนึ่ง แย้งว่า “ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินว่าเค้าให้สัมภาษณ์ไว้ที่ใหนนะ”

แม้กระทั่งแผ่นป้ายหาเสียงของผู้สมัครหนุ่มๆ พรรค พปชร. อย่างน้อยสามคนเวลานี้ รวมทั้งลูกชาย ‘ไม้หล่นใต้ต้น’ ของเอนกเอง เก็บเอาประเด็น ‘วาทะเด็ด’ ของธนาธรเรื่อง ‘ยิ้มสยาม’ มาโหนเล่นโจมตี ดังเช่น “ทัศนคติพิการ” บ้าง “ยิ้มไม่ออกเพราะลอกฝรั่ง” บ้าง หรือ “นัดยิ้มกับผมสิ” งี้

 

เพราะการหาเสียงอย่างยกตนข่มท่านเหล่านั้น จึงเป็นธรรมดาที่มีคนอดรนทนไม่ไหว ออกมาแสดงตนเป็นตัวช่วยต่อสู้ บก.ลายจุด หรือสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรคเกียน (ตกตัว ‘ร’ กล้ำเพราะ กกต.ห้าม) โพสต์ข้อความถึงวีรกรรมของธนาธรตอนน้ำท่วมใหญ่ปี ๕๔

เรื่องนี้ มติชน เอาไปลงเป็นข่าวโดยพาดหัวกำกวมเสียจนผู้คนฮือฮา จนหนังสือพิมพ์ขายดีไปอีกอย่าง สมบัติเขียนเล่าว่าตอนนั้นเขาตั้งศูนย์อาสาสมัครมีสมาชิกเข้าร่วมเป็นหมื่น ส่วนมากมาช่วยออกแรงกันได้เพียงวันเดียว

(https://www.matichon.co.th/politics/news_1366224PH9G0)

แต่เมื่อต้องการแรงงานต่อเนื่องเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์หาไม่ได้ พบกับธนาธรเดินมาเสนอตัวว่า “อะไรคือสิ่งที่ผมช่วยพี่หนูหริ่งได้ดีที่สุด” จึงได้ขอความช่วยเหลือให้นำคนงานจากไทยซัมมิตไปช่วยสักแค่ ๒๐ คน กับลำไม้ไผ่สำหรับทำแพ และห้องน้ำชั่วคราวติดตั้งตามชุมชน

สมดังหมาย “เราทำงานร่วมกันอยู่เดือนกว่า พร้อมอาสาสมัครเป็นพนักงานของไทยซัมมิทกว่า ๒๐ คนที่มาทำงานทุกวันไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ ไม้ไผ่ประมาณ ๕ รถหกล้อ และห้องน้ำบนถัง ๒๐๐ ลิตร ที่สามารถลอยน้ำได้หลายสิบหลัง”

 

เป็นคุณงามของธนาธรที่คนส่วนมากไม่เคยรู้มาก่อน แต่ก็มีหลายรายที่เคยร่วมประสบการณ์ได้เห็นโพสต์ของหนูหริ่งแล้วเข้าไปเสริมและเชิดชูกัน ตัวอย่าง Niwat Naweesakorn “ผมเป็นคนนึงที่ไปร่วมทำแพอยู่ที่ในพื้นที่สนามกีฬา นั่งทำแพ ผูกไม้ไผ่ยัดขวดพลาสติค...

มีหน้าที่ไปเอาขวดพลาสติคที่ดอนเมือง นั่งรถพ่วงไปเอาเท่มาก ประมาน ๑๕ คนได้ รถปล่อยลงตรงเจ๊เล้ง แล้วก็ค่อยๆ ลอยคอเดินกันไป คุณธนาธรก็เดินอยู่ในนั้นด้วย...ตอนกลับเราต้องลากขวดพลาสติคที่ห่อรวมไว้ด้วยตะข่ายสีฟ้า

เดินฝ่าน้ำสูงเท่าอก คุณธนาธรก็ลงมาลากไอ้กองขวดนี้กับพวกเราด้วยในน้ำนั่นแหละ จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ไอ้นี่มันใครวะ” นั่นละหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ตอนนี้