ที่ ‘หมวดเจี๊ยบ’
ว่าไว้น่ะใช่เลย ‘ไอทู้บ’ ชวนลูกน้องไปเดินจตุจักร
มันคือการหาเสียงชัดๆ “เลิกทำเป็นสั่งสอนเด็กได้แล้วว่าโตไปไม่โกง
เพราะอาจโดนเด็กย้อนว่า นี่ก็แก่จนจะเข้าโลงแล้วยังไม่เลิกโกงอีกเหรอ”
เรื่องตลาดนัดนี่ ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยพูดตรงดี “รัฐบาลอยู่เฉย ๆ มาเกือบ ๕ ปี ก็ไม่เคยคิดจะลงมือทำอะไร
แต่พอรู้ตัวว่าอีก ๒-๓ เดือนจะมีการเลือกตั้ง ก็รีบเร่งรัดออกมติ
ค.ร.ม. สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรีบโอนความรับผิดชอบในการบริหารตลาดนัดจตุจักรไปให้กรุงเทพมหานคร”
ถือเป็นการโกงเพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขณะที่ผู้บริหารระดับสูง
กทม.หลายคนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ
ที่มีรัฐมนตรีสี่คนร่วมจัดตั้งและบริหาร “นัดพ่อค้าแม่ค้ามาทำสัญญาเช่าแผงขายของ
ในราคาต่ำกว่าเดิมเดือนละ ๑,๐๐๐ กว่าบาท
โดยให้พ่อค้าแม่ค้าเซ็นต์สัญญาเช่าต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์”
เสร็จแล้ว “พล.อ.ประยุทธ์ ก็พูดออกไมโครโฟนอย่างชัดเจน ทำนองว่าพ่อค้าแม่ค้าคงจะดีใจที่ค่าใช้จ่ายถูกลง
แถมยังสัญญากับพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดนัดจตุจักรว่า
จะทำให้มีลูกค้ามาเดินที่ตลาดวันละ ๓
แสนคน...พูดหาเสียงแบบนี้เข้าข่ายการสัญญาว่าจะให้ประโยชน์”
ทางด้านหมายเลขหนึ่งรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเดียวกับหมวดเจี๊ยบคราวนี้ไม่เบา
ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.เมื่อวันก่อน แจงนโยบายล้วนๆ ขายผลงานจุดเด่นที่ทำได้ตั้งแต่ยุคไทยรักไทยเป็นต้นมา
“รัฐบาลต้องหาเงินเป็น ไม่ใช่ขึ้นภาษีอย่างเดียว...ราคาสินค้าต้องดีขึ้นทุกตัวภายใน
๖ เดือน อย่างน้อย ๓๐%...เงินที่จะเข้ามาสู่พี่น้องจะต้องแตะที่ ๓ ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน”
ตัวเลขเพียบแล้วยังไม่หมด
ปล่อยหมัดเด็ดถูกใจพวกต้านรัฐทหาร “จะตัดงบกลาโหม ๑๐% มาสร้างคนรุ่นใหม่
สร้างกองทุนคนเปลี่ยนงานเพื่อสร้างทักษะโลกใหม่ ไม่ทำให้คนตกงาน”
แล้วยังพูดถึง ‘กติกาเอาเปรียบ’ ของ คสช. ที่ตั้ง สว.
๒๕๐ คน
ซึ่ง “จะร่วมเลือกนายกฯ
และรัฐบาลได้ ทั้งยังออกแบบให้มีอายุ ๕ ปี เท่ากับเขาจะเลือกนายกฯ ได้ ๒ สมัย ๘ ปี” ด้วย
นั่นไม่ใช่วิธีนำความสุขมาให้ประชาชน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ว่า “กุญแจดอกเดียวที่จะพาพี่น้องออกจากความทุกข์นี้ได้คือ...ต้องไปเลือก พท.ให้ถล่มทลาย”
เข้าเป้าตาวัวเผง
ถ้ามีคนตาสว่างกันอย่างครูโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา แจง “หลายคนตกใจเพราะเพิ่งรู้ว่า
ส.ว.250 คนที่คสช.แต่งตั้งจะมีสิทธิโหวตเลือกนายกด้วย (ถึงสองสมัยเพราะแต่งตั้ง ๕ ปี)
...เท่ากับ ๑/๓ ของรัฐสภามีอยู่ในกระเป๋าคุณประยุทธ์แล้ว”
ตาสว่างยังไม่พอ ต้องคิดได้และตัดสินใจแล้วอย่างที่ สุวิทย์
คุณกิตติ อดีตนักการเมืองพรรคกิจสังคม ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน
ทวี้ตว่าถามชาวบ้านแล้วส่วนใหญ่รู้แล้ว “จะไม่เลือกใคร ส่วนจะเลือกใครนั้น
ตอนนี้อยู่ในใจแล้ว”
อดีตรองนายกฯ ยังแย้มความเห็นส่วนตัว ถ้าใครถามก็จะบอกว่า “ชอบทุกพรรครักทุกคน
เงินเอาเหล้ากิน แต่ให้รอผลในวันลงคะแนน”
ฟังคล้ายคำคมของพวกแฟนคลับพรรคใหญ่พรรคหนึ่งที่ว่า “รับเงินห มา กาเพื่อ...”
พรรคแม่ยาย
ส่วนกรณีที่แม่ยายโดนพรรคเก่าเหน็บ ‘ลอกนโยบาย’
ดูแลเด็ก ได้โฆษกพรรคออกมาโต้ทันเกม
ว่าผ่านมาจะยี่สิบปีชนะเลือกตั้งตลอด “ในขณะที่นายอภิสิทธิ์นำพรรคแพ้การเลือกตั้งมาตลอดเช่นกัน
คนชนะจะไปลอกคนแพ้เพื่ออะไร” อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ซัดกลับ
เขาอธิบายว่านโยบายดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ ๘
ขวบของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องสากล ทั้งธนาคารโลกและทีดีอาร์ไอไทยให้ความสำคัญ “เพื่อไทยลงลึกถึงการพัฒนายกระดับ
ให้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอัจฉริยะ ๒๐,๐๐๐ แห่ง ก้าวข้ามการลดแลกแจกแถมแข่งกันว่าใครจะให้มากกว่า”
เจอแบบนี้พลังประชารัฐเลยชักหงอยๆ รองหัวหน้าพรรค สุวิทย์
เมษินทรีย์ ไปลงพื้นที่บางแคช่วยลูกพรรคผู้สมัครเขตฯ
หาเสียง ยอมรับว่าหัวหน้าใหญ่แคนดิเดทนายกฯ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง ทำให้เสียเปรียบเหมือนกัน