เทร็นดี้ #Savethanathorn มีคนว่า "อาจกลายเป็นทักษิณ (ช่วงที่นำ ‘ไทยรักไทย’) สำหรับยุคสมัยนี้"

ต้องเกาะกระแสคนรุ่นใหม่อีกวัน ในเมื่อแฮ้สแท็ก #Savethanathorn แรงไม่ลด รั้งอันดับ ๑ เทร็นด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย ที่ ‘ไทยรัฐ_นิวส์’ ว่า “เป็นแฮ้สแท็กที่คนกำลังพูดถึงมากที่สุดเวลานี้ #เลือกตั้ง2562” เฉือน #บุพเพสันนิวาส ขาดกระจุย

อีกซ้ำ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคโวยว่า “เกิดการซ่อน #Savethanathorn เพราะแฮชแท็กนี้ขึ้นถึงล้าน...แต่ซ่อนพลังของประชาชนชาว #อนาคตใหม่ ไม่ได้ ซ่อนคะแนนที่จะเกิดขึ้นจริงในวันเลือกตั้งก็ไม่ได้ #ฟ้ารักพ่อ”

อย่างที่ ประวิตร โรจนพฤกษ์ บก.ข่าวสดอิงลิช บอก “ไม่ว่าชอบหรือเกลียด​ ชนชั้นนำที่กุมอำนาจมองธนาธรเป็นภัยคุกคามจนไม่อาจวางใจ จนต้องมารุมถล่มสารพัด​เพราะธนาธรกลายเป็นกระแสในวงกว้าง​แล้ว” หนักเข้าไปอีก มีคนว่าเป็นเพราะ คสช.โง่

ยิ่งชีพ (เป๋า)‏ @yingcheep ชี้ “โง่พอเร่งให้เอาคดี #ธนาธร ขึ้นมาช่วงนี้ กระแสแรงขึ้นไปอีก ความรู้กฎหมายนิดเดียวก็บอกได้ว่า คดีขึ้นศาลอย่างเร็วสุดก็เกือบๆ ปี” ยิ่งถ้ามีการสั่งควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดี “ได้เข้าห้องขังรอประกันตัวสักหน่อยฐานวิจารณ์ คสช. นี่ความเท่พุ่งเลย”

 

ขนาด ‘Giles’ ใจ อึ๊งภากรณ์ นักสังคมนิยมที่เคยวิจารณ์บริษัทไทยซัมมิตของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจไว้หนักมาก ยังออกมาหนุน #Savethanathorn เขากระตุ้นให้ “สามัคคีฝ่ายประชาธิปไตย ข้ามอคติส่วนตัว ต้านทหารและทาสรับใช้ของมัน”

เรื่องของเรื่องมาจากกำลังพลหน่วย ‘ฟ้องดะ’ ของ คสช. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ที่เคยแจ้งความธนาธรและผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่อีกสองคนในข้อหาจัดรายการ ‘คืนวันศุกร์ให้ประชาชน’ วิจารณ์ ‘พลังดูด’ ของ คสช. อ้างความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๔(๒)

ตอนนี้นอกจากมีการเร่งคดี พนักงานสอบสวนอ้างว่าต้องส่งสำนวนให้อัยการในวันที่ ๒๒ กุมภา และเรียกผู้ถูกแจ้งข้อหาทั้งสามไปให้การต่อพนักงานอัยการในวันที่ ๒๗ นี้แล้ว หน่วยฟ้องของ คสช.ยังได้ยื่นฟ้องธนาธรเพิ่มอีกข้อหา

คำฟ้องของ พ.อ.บุรินทร์อ้างว่าธนาธรนำลงประวัติการงานบนเว็บไซ้ท์ของพรรค ส่วนหนึ่งเป็นเท็จเกี่ยวกับการเป็นนายกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยซ้อนกันสองสมัย ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๑ ถึง ๒๕๕๕ ซึ่งสมาชิก ‘เน็ตติเซ็น’ พบว่าไม่เป็นความจริง

เวลาผ่านมา ๕ เดือน พรรคอนาคตใหม่เพิ่งแก้ไขข้อมูลดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาที่ผ่านมา ว่าแท้จริงเขาเป็นนายกสภาอุตสาหกรรมเฉพาะที่สาขาจังหวัดนครนายกสองสมัย ในปี ๒๕๕๐ ถึง ๒๕๕๔ ข้อมูลในวิกิพีเดียก็แก้ไขในวันเดียวกัน

พอรุ่งขึ้น วันที่ ๒๑ กุมภา พ.อ.บุรินทร์ก็ยื่นแจ้งความอีกข้อหาทันที โดยมี เจษฎ์ โทณวนิก อดีตที่ปรึกษา กรธ.ออกมาให้ความเห็นในข้อกฎหมายว่า ไม่ควรปล่อยให้มีข้อความไม่ถูกต้องเกี่ยวกับประวัติของหัวหน้าพรรคแสดงบนเว็บไซ้ท์ถึง ๕ เดือน

ถ้ามีใครไปฟ้อง กกต. ก็สามารถเอาผิดได้ตามมาตรา ๗๓(๕) ของกฎหมายเลือกตั้ง ดังที่ แสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ให้ความเห็นเมื่อวันพุธว่า สั่งให้แผนกดูแลไซเบอร์เข้าไปตรวจสอบเว็บไซ้ท์ของพรรคอนาคตใหม่แล้ว

หาก กกต. พิจารณาเห็นว่าเป็นการจงใจนำลงข้อมูลเท็จนานถึง ๕ เดือน ก็เข้าข่ายความผิดของมาตราดังกล่าว ซึ่งมีระวางโทษจำคุกอย่างสูง ๑๐ ปี และ/หรือปรับสุงสุด ๒ แสนบาท นอกจากนั้นยังมีโทษตามมาตรา ๑๕๙ ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา ๒๐ ปีด้วย

(https://www.bangkokpost.com/news/politics/1632814/future-forward-boss-faces-political-ban)

 

ไม่เพียง คสช.ที่พยายามเตะตัดขาธนาธร และ ‘รังแก’ พรรคฝ่ายประชาธิปไตย* ดัง อจ.ไจล์ว่า

*(เลขาฯ กกต. จรุงวิทย์ ภุมมา เพิ่งให้ความเห็นด้านๆ ว่าอย่าเอากรณียุบพรรคไทยรักษาชาติไปเปรียบกับคำร้องยุบพรรคพลังประชารัฐ “ต้องเข้าใจว่าหลักฐานและคำร้องแตกต่างกัน” กรณี ทษช. “กกต.เห็นและเชื่อได้ว่ากระทำความผิดตามมาตรา ๙๒

ขณะที่กรณี พปชร. “ยื่นคำร้องมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือให้กกต.นั้นยังไม่ปรากฏหลักฐาน ปรากฏแต่คำร้อง จึงต้องไปตรวจสอบหลักฐาน” เสียก่อน)

สื่อกระบอกเสียงเผด็จการอย่างเช่นรายการ ‘เนชั่นทันข่าว’ ของ อัญชะลี ไพรีรัก อดีตแกนนำ พธม. ก็พลอยผสมโรงหาเรื่องจับผิด ต่อการที่ธนาธรและผู้สมัครเขต ๗ บางซื่อ ดุสิต นายปิยะชาติ อำนวยเวช หมายเลข ๓ ลงพื้นที่หาเสียง

 

มีภาพธนาธรชูสามนิ้วตอบรับผู้สนับสนุน ‘อี๊ปอง’ เก็บเอาไปตีไข่ใส่ข่าวหาว่าธนาธรปลุกกระแสต้าน คสช. ด้วยการชูสามนิ้ว แต่กระแสที่อนาคตใหม่ได้จากการที่ “เนชั่นเสี้ยมมากค่ะ” นี่กลับเป็นความเห็นอกเห็นใจของแฟนคลับวัยรุ่น แถมด้วยความสนใจ ใส่ใจฟังในสิ่งที่เขาพูด ในหมู่ผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วไป

“วันนี้มีโอกาสได้ฟังธนาธรพูดจาสดๆ ในฐานะนักการเมือง/แคนดิเดตนายกฯ เป็นครั้งแรก แล้วก็เริ่มเข้าใจได้ว่า ทำไมหลายฝ่ายจึงเริ่มวิตกกังวลกับกระแสที่กำลัง ‘ขึ้น’ ของเขา” ผู้ใช้ชื่อบัญชี มิตรสหายท่านหนึ่ง โพสต์ข้อความวิจารณ์ (ขอบคุณลายแทงจาก Mutita Pla Chuachang)

เขาเห็นว่าธนาธรไม่ใช่ ‘ตัวป่วน’ แบบที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เคยเป็นในการเลือกตั้งปี ๕๔ แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครสไตล์ ‘ป่วน’ น่าจะเป็น เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส และไพบูลย์ นิติตะวัน เสียมากกว่า เขามองว่าธนาธรมี ‘charisma’ คล้ายมหาจำลองยุคพรรคพลังธรรมรุ่งเรือง

“ถ้ายังไม่มีอะไรมาล้มธนาธรในเวลาอันใกล้ รวมถึงเขายังมุ่งมั่นจริงจังกับการทำงานการเมืองต่อไปเรื่อยๆ อนาคตใหม่ในสเกลพลังธรรม ก็อาจขยับสเกลขึ้นเป็นไทยรักไทยในเกมยาวๆ ได้เหมือนกัน”

เขาว่า “ธนาธรอาจกลายเป็นทักษิณ (ช่วงที่นำ ‘ไทยรักไทย’) สำหรับยุคสมัยนี้และอนาคตข้างหน้า” ก็ได้