แถลงการณ์สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย
เรื่อง ขอให้ยุติการดำเนินคดีนักศึกษา
จากกรณีที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย สมาชิกสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากจัดกิจกรรมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งเพื่อให้การเลือกตั้ง “เสรี สุจริต เป็นธรรม” บริเวณทำเนียบรัฐบาล และถูกดำเนินคดีข้อหาจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ตาม พรบ. การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 นั้น
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการใช้กฎหมายเพื่อปิดกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เสรีและไม่เป็นธรรมในช่วงใกล้การเลือกตั้ง และเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับสมาชิกสหภาพทั้งสองคนทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
สหภาพขอเรียกร้องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐเคารพและคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งได้รับรองไว้ตามมาตรา 34 และ 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2562 รวมถึงกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม
สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย
3 กุมภาพันธ์ 2562
...
...พอเห็นข่าว 2 นักกิจกรรม หนึ่งในนั้น คือ “น้องเพนกวิน” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกแจ้งข้อหา
ที่ใครๆ ก็ดูออกว่า “เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง”
หลังทั้ง 2 คนและเพื่อนไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หน้าประตูทำเนียบรัฐบาลเรียกร้องให้ “นายกลุงตู่” ลาออก
เห็นการถูกแจ้งข้อหาแบบนี้เราในฐานะอดีตนักข่าวที่ตอนนี้เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับ “จี๊ด-ปวดตับ” ขึ้นมาทันที
พวกเราอยู่ในสังคมแบบนี้มาได้ยังไงตั้ง 4-5 ปี
การติดตาม การไล่ล่า ด้วยการยอมให้ทหารนำตัวคนคิดต่างไปปรับทัศคติ การจับกุม คุมขัง
การให้เจ้าหน้าที่ติดตามรังควาญครอบครัว พร้อมข่มขู่ไม่ให้แสดงออกทางการเมือง หรือมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วที่เคยอ่านเจอในหนังสือประวัติทางการเมืองเกี่ยวกับ 14 ตุลาฯ 16 และ 6 ตุลาฯ 19
คำถาม คือ ทำไมภาพเหตุการณ์เหล่านั้นถึงได้กลับย้อนมาอีก หรือเป็นกงกรรม กงเกวียน?
หรือเป็นเพราะสังคมไทย + ประชาชน + สื่อมวลชน ไม่เข้มแข็ง?????????
ทำไมพวกเราถึงได้ปล่อยให้ทหารใช้อำนาจอยู่เหนือประชาชนที่เสียภาษีให้เขาได้อยู่สุขสบาย
พวกเราจะปล่อยให้สังคมเป็นแบบนี้อีกไปนานแค่ไหน?
ถ้าหลังเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันที่ 24 มี.ค.นี้ยังคงมีแบบนี้เกิดขึ้นอีก
การเลือกตั้งครั้งนี้ก็คงเป็นการเลือกตั้ง “จอมปลอม” ที่หลอกเอาเงินภาษีประชาชนเป็นพันๆ ล้านบาทมาจัดการเลือกตั้งเพื่อกลับมาเสวยอำนาจบนบ่าไหลของประชาชนที่ทุกข์ยาก
สิ่งที่อยากจะบอกในบทความนี้ คือ
#คืนเสรีภาพประชาชน
#สื่อมวลชน
#หยุดข่มขู่คุกคาม
ป.ล.ภาพจากบางกอกโพสต์
...พอเห็นข่าว 2 นักกิจกรรม หนึ่งในนั้น คือ “น้องเพนกวิน” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกแจ้งข้อหา
ที่ใครๆ ก็ดูออกว่า “เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง”
หลังทั้ง 2 คนและเพื่อนไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หน้าประตูทำเนียบรัฐบาลเรียกร้องให้ “นายกลุงตู่” ลาออก
เห็นการถูกแจ้งข้อหาแบบนี้เราในฐานะอดีตนักข่าวที่ตอนนี้เป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับ “จี๊ด-ปวดตับ” ขึ้นมาทันที
พวกเราอยู่ในสังคมแบบนี้มาได้ยังไงตั้ง 4-5 ปี
การติดตาม การไล่ล่า ด้วยการยอมให้ทหารนำตัวคนคิดต่างไปปรับทัศคติ การจับกุม คุมขัง
การให้เจ้าหน้าที่ติดตามรังควาญครอบครัว พร้อมข่มขู่ไม่ให้แสดงออกทางการเมือง หรือมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วที่เคยอ่านเจอในหนังสือประวัติทางการเมืองเกี่ยวกับ 14 ตุลาฯ 16 และ 6 ตุลาฯ 19
คำถาม คือ ทำไมภาพเหตุการณ์เหล่านั้นถึงได้กลับย้อนมาอีก หรือเป็นกงกรรม กงเกวียน?
หรือเป็นเพราะสังคมไทย + ประชาชน + สื่อมวลชน ไม่เข้มแข็ง?????????
ทำไมพวกเราถึงได้ปล่อยให้ทหารใช้อำนาจอยู่เหนือประชาชนที่เสียภาษีให้เขาได้อยู่สุขสบาย
พวกเราจะปล่อยให้สังคมเป็นแบบนี้อีกไปนานแค่ไหน?
ถ้าหลังเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันที่ 24 มี.ค.นี้ยังคงมีแบบนี้เกิดขึ้นอีก
การเลือกตั้งครั้งนี้ก็คงเป็นการเลือกตั้ง “จอมปลอม” ที่หลอกเอาเงินภาษีประชาชนเป็นพันๆ ล้านบาทมาจัดการเลือกตั้งเพื่อกลับมาเสวยอำนาจบนบ่าไหลของประชาชนที่ทุกข์ยาก
สิ่งที่อยากจะบอกในบทความนี้ คือ
#คืนเสรีภาพประชาชน
#สื่อมวลชน
#หยุดข่มขู่คุกคาม
ป.ล.ภาพจากบางกอกโพสต์