วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 05, 2562

“บอกได้คำเดียว ไม่คุ้มเลย" ความดึงดันของศาลไทย "แลกกับการประจานความล้าหลัง"


ภาพนักฟุตบอลเชื้อสายบาห์เรนผู้ลี้ภัยการเมืองของออสเตรเลีย ถูกนำตัวโดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปศาลอาญา โดยข้อเท้าล่ามโซ่ตีตรวน แพร่ไปทั่วโลก เป็นความอัปยศอีกครั้งของกระบวนตุลาการไทยที่ขาดวุฒิภาวะสากล

สุณัย ผาสุข เจ้าหน้าที่ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ประจำไทยชี้ว่า “ภาพปรากฎต่อหน้าคณะทูต, ยูเอ็น, ผู้แทนฟีฟ่า, สื่อนานาชาติ, องค์กรสิทธิ์ > ไทยจับ “ฮาคีม” นักฟุตบอลผู้ลี้ภัยตีตรวน-พาตัวขึ้นศาลเตรียมส่งไปให้บาห์เรนลงโทษ โดยไม่สนใจเสียงทักท้วงใดๆ #SaveHakeem

อธิบดีราชทัณฑ์ อ้างว่าเป็นหน้าที่ต้องตีตรวนตามกฎหมายไทย (อ้าง พรบ.ราชทัณฑ์ฉบับ คสช. ๒๕๖๐ ม.๒๑) “การพิจารณาใส่เครื่องพันธนาการ เป็นเรื่องที่ผู้ควบคุมเห็นแล้วว่าผู้ต้องขังเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงหลบหนี เนื่องจากนายฮาคีมเป็นอดีตนักฟุตบอล เป็นผู้ต้องขังคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องระหว่างประเทศ

(https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2174079)

อันนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อาจจะอ้างมั่วก็ได้ นายฮาคีม อัล-อาไรบี ไม่ใช่ อดีต นักฟุตบอล ปัจจุบันเขาเป็นนักฟุตบอลทีมสโมสรพาสโกเวลของออสเตรเลีย ที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยและอยู่อาศัยในออสเตรเลียมากว่าสี่ปีแล้ว

ทางการไทยจะอ้างการเป็นอดีตนักฟุตบอลที่มชาติบาห์เรนที่เขายินดีสลัดทิ้งมาเป็นข้อปรักปรำเพื่อลงโทษทำร้ายเขา ย่อมละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลเต็มเปา แล้วยังที่อ้างอีกว่าเขาต้องคดี “ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องระหว่างประเทศ” ก็ไม่น่าจะใช่

ฮาคีมถูกทางการบาห์เรนหมายหัวเพราะเขาและพี่ชายอยู่ในกลุ่มผู้ต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของบาห์เรน ประเด็นการเมืองภายในของประเทศนั้นแท้ๆ ที่ประเทศไทยไม่มีความจำเป็นใดๆ จะต้องไปเผือกกับเขา

รัฐบาลออสเตรเลียปฏิเสธกระบวนการทางอาญาของบาห์เรนจึงได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่ฮาคีม มิหนำซ้ำตำรวจสากล อินเตอร์โพล ที่เคยออกหมายจับตามคำร้องของบาห์เรนตระหนักในความงั่งของตนแล้วแก้ไข สั่งยกเลิกหมายนั้นไปแล้ว

แต่ศาลไทยยังดึงดันออกหมายจับเอง ทั้งที่ไม่ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน แต่เลี่ยงไปใช้ หลักปฏิบัติต่างตอบแทนซึ่งทางการบาห์เรนให้คำมั่นว่า ในอนาคตเมื่อไทยร้องขอในลักษณะคล้ายคลึงกันจะปฏิบัติตามทันที มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๑

นอกนั้นจะมีอะไรผูกพันกันลึกล้ำระหว่างรัฐบาล คสช.กับบาห์เรน ที่ซ่อนเร้นอยู่หรือเปล่าไม่รู้ รัฐบาลไทยจึงยอมให้ทั้งโลกด่าเพื่อเอาใจรัฐบาลอาหรับเศรษฐีน้ำมันแห่งเดียว ถ้ามีจริงอาจจะโผล่ในภายหลังจากที่ฮาคีมถูกส่งตัวกลับไปให้บาห์เรนกดขี่ทำร้าย อาจถึงตายไปเลยก็ได้

ฉะนั้นการอ้างว่าจะต้องล่ามโซ่ฮาคีมมีแต่ทำให้รัฐบาลบาห์เรนสะใจ แลกกับการประจานความล้าหลังของระบบตุลาการไทยในสื่อต่างประเทศทั่วโลก “บอกได้คำเดียว ไม่คุ้มเลย #SaveHakeem” ดังคอมเม้นต์ของ ‘ARM WORAWIT @armupdate’

จาตุรนต์ ฉายแสง ที่เคยถูกควบคุมตัวในข้อหาการเมืองยังแย้งทั่นอธิบดีฯ ว่า “ไม่จริงครับ ผมเจอมากับตัวเอง วันที่ผมจะเดินทางจากคุกมาศาลทหาร ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าจะต้องใส่ตรวนมั้ย เจ้าหน้าที่ว่าเดี๋ยวถามผู้บังคับบัญชาก่อน

ผมก็บอกว่าถ้าเป็นระเบียบขอให้ใส่ตรวนที่ข้อเท้าผมอย่ายกเว้น พอถึงเวลาจริงๆ ก็ใส่กุญแจมือ แล้วก็พาหลบผู้สื่อข่าวด้วย ไม่ให้มีภาพ” (@chaturon)

รังสิมันต์ โรม ซึ่งมีประสบการณ์โดนตีตรวนเช่นกันแสดงปฏิกิริยา “#SaveHakeem ผมเห็นรูปนี้แล้วสะเทือนใจมาก...ทุกย่างก้าวที่เดิน เจ็บมาก ปวดมาก ไม่อยากเดินไปไหนเลย จำได้ว่ามีแผลถลอกเต็มไปหมด ยิ่งเขาเป็นนักฟุตบอล คงยิ่งทำร้ายจิตใจเขามากแน่ๆ การตีตรวนแบบนี้ควรเลิกได้เลย ประเทศไทยไม่มีทาสแล้ว”

อย่างไรก็ดี ในฐานะที่ศาลเป็นหนึ่งในสามสถาบันชั้น วิเศษ ของไทยนอกเหนือจากทหาร จึงมีคนพินบพิเทาเตือนว่า “คนไทยคะ อ่านหน่อยค่ะ อย่าเพิ่งด่าชาติตัวเองโดยไม่มีข้อมูลเลยนะคะ ถือว่าขอร้อง #saveThailand” (ถ้อยคำของ ‘NX @XNampeth’)

เขาอ้างโพสต์ของ นักกอดหมอนออนไลน์ที่ว่า “เราก็ต้องจับแล้วนำเข้ากระบวนการไป...แล้วตำรวจสากลดันเพิกถอนหมาย ความซวยจึงตกมาที่ประเทศไทย ทำไมไทยจึงไม่ปล่อยตัวไปเลย มันต้องทำตามกระบวนการของเรา...”

นี่คิดแบบว่าประเทศไทยเป็น ‘Center of the universe’ ล่ะสิ ในทางอารยะสากลเขายึดถือหลักอย่างหนึ่งว่า “ทำผิดไปแล้วแก้ไข ทำใหม่ได้” ศาลไทยหน้าหนามากหรือไรจึงเปลี่ยนจากผิดให้เป็นถูกไม่ได้ กระบวนการเรียกร้องให้ปล่อยตัวฮาคีมไม่ใช่เพิ่งมาเกิด
 
“เป็นประเด็นมาตั้งแต่ปลายปีก่อนแล้วค่ะ แต่ข่าวไม่ดัง ขนาด รมต.กต.ของ AUS มาเจรจาขอด้วยตัวเอง” ‘V Nus @meVnus’ แฉ “ทางเราก็เหมือนไม่แคร์ บรรดาผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกก็รณรงค์ปล่อยตัว ทางเราก็เฉยเมย ปล่อยจนเรื่องมาถึงวันที่ฮาคิมถูกโซ่ตรวน ภาพนี้ออกไปทั่วโลก กระแสเลยแรงกว่าที่ผ่านมา”

แรงไม่แรงเปล่า กระแทกหน้าตุลาการไทยฉาดใหญ่ ซ้ำร้ายในระดับพลเมืองเรื่องมิตรจิตมิตรใจระหว่างคนไทยกับออสเตรเลียน มีชาวออสเตรเลียนายหนึ่งทวี้ตข้อความชวนสะอึก เจค บั๊คลี่ย์ ทวง “ประเทศไทยที่รัก

เราเคยช่วยนักฟุตบอลของคุณออกมาได้แล้ว (#หมูป่าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน) บัดนี้ถึงเวลาที่คุณจะปลดปล่อยคนของเราบ้าง ด้วยความนับถือ (จาก) ออสเตรเลีย #SaveHakeem