วันพุธ, กุมภาพันธ์ 13, 2562

"Arunwatee Kong Li Chattay" พูดเรื่องคนเสื้อแดงที่น่าผิดหวัง เพราะมีคนบ่นให้เห็นว่าผิดหวัง




วันนี้จะพูดเรื่องคนเสื้อแดงที่น่าผิดหวัง เพราะมีคนบ่นให้เห็นว่าผิดหวัง

“แดง คือ มวลชนที่ถูกกดขี่ต่ำสุดจากรัฐ เป็นศัตรูกับรัฐโดยตรง สังคมตราหน้า แดงก็เหมือนคนผิวดำในอเมริกา” มิตรสหายท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้

ในการชุมนุมปี 52 ที่ถนนข้างทำเนียบ เราเจอคนเสื้อแดงที่มีอาชีพเป็นช่างทาสี อุ้มลูกเล็กในอ้อมแขน 1 คน จูงมือลูกที่เพิ่งเดินได้อีก 1 คน

สอบถามได้ความว่า กำลังจะกลับไปรับลูกคนโตที่โรงเรียน เพราะเมียเลิกไปแล้ว เขาจึงมีหน้าที่ดูแลลูก 3 คน รวมทั้งทำงานหาเลี้ยง

การมาม็อบในวันนี้ทำให้เขาต้องขาดรายได้ไป 300 บาท แต่เขาก็บอกกับตัวเองว่าต้องมา เพราะเขาคือคนเสื้อแดง และที่ผ่านมาทักษิณทำให้ชีวิตของเขาอยู่ง่ายขึ้น

แน่นอนว่าเขาไม่รู้เรื่องประชาธิปไตย หลักการที่ต้องมีหรืออุดมการณ์อะไรนักหรอก เขารู้แค่ชีวิตเขาดีขึ้นและง่ายขึ้นเมื่อฝากไว้ในมือคนชื่อทักษิณ

ตัดภาพมาที่ปี 53 ที่ราชประสงค์ มีคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมแล้วเราจำได้ไม่รู้ลืมอยู่ 3 คน

คนที่หนึ่ง เป็นผู้ชายร่างเล็ก เขาบอกว่าเขาขายรถมอเตอร์ไซด์ที่เป็นทรัพย์สินเพียงชิ้นเดียวของเขาเพื่อเป็นทุนมาร่วมชุมนุม เขาไม่เคยถูกจ้างมา และเมื่อม็อบจบแล้วเขายังคงไม่รู้ว่าจะหาทางซื้อมอร์เตอไซด์คืนได้หรือเปล่า

แน่นอนว่าอุดมการณ์ไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนให้เขามา เขารู้แต่ว่าเขามีสิทธิเลือกได้ และความกินดีอยู่ดีที่ทักษิณมอบให้ทางนโยบายทำให้เขาไม่มาไม่ได้

คนที่ 2 เป็นลุงตัวผอมหน้าหมองคล้ำคนหนึ่ง คนนี้เดินเข้ามาขอเงินเรา 14 บาท ตัวเลขที่ระบุสร้างความงุนงง และคำตอบที่ได้คือเขาขอไปซื้อยาเส้น เราจะเอาบุหรี่เพื่อนให้เขาปฏิเสธ แล้วบอกว่า บุหรี่แพงกว่าและหมดไว ส่วนยาเส้น 1 ห่อเขาสูบได้เป็นอาทิตย์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เขาตั้งใจว่าจะอยู่ร่วมม็อบ

ทันทีที่ยื่นแบงค์ 20 ให้ เขาก็นับเหรียญบาทในมือที่กำไว้ทอนกลับมา เขาบอกว่าผมขาดแค่ 14 บาทเท่านั้น ส่วนน้ำดื่มและอาหารไม่ต้องห่วงเขา เพราะเขาไปต่อแถวรับฟรีได้จากคนที่เอามาแจก

คนที่ 3 สวมเสื้อผ้าเก่าๆ แต่ดูก็รู้ว่าเป็นคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพ และมาม็อบแบบเช้าไป-เย็นกลับยืนต่อแถวซื้อขนมกุยช่ายอยู่ด้านหน้าเราอย่างหมายมั่นปั้นมือ (ได้ยินเขาพูดกับคนอื่นในแถวว่ากุยช่ายเจ้านี้น่ากิน มองมาหลายวันแล้ว) ตรงแถวๆบิ๊กซี ราชประสงค์

แล้วพอถึงคิวเขา เขาก็ถามคนขายว่าถุงละเท่าไร พอคนขายตอบว่า 20 บาท เขานับเหรียญในมืออีกครั้งแล้วก้าวออกจากแถวไป เราร้องเรียกเอาไว้แล้วซื้อให้เขาอย่างอิหลักอิเหรื่อ เพราะแววตาที่มองมาที่เราว่าเขาไม่ใช่ขอทานมันทิ่มให้เราเจ็บ แต่ด้วยมารยาทและความอยากกินเขาก็รับไปแล้วกล่าวขอบคุณ

แน่นอนว่าคนที่ 2 และ คนที่ 3 เขาก็ไม่ได้แบกอุดมการณ์อะไรมาม็อบอีกเช่นกัน แต่เขาต้องมา เพราะเขาคือคนเสื้อแดง !!! ในวันนั้นเพื่อนหลายคนของเรายังสวมเสื้อเหลือง บางคนยังคงไม่ตาสว่างจนกระทั่งมีบิ๊ก คลีนนิ่ง

ผ่านมาหลายปีการต่อสู้ขยายใหญ่ขึ้น มีคนมาร่วมมากขึ้น บางคนเดินเข้ามาสวมเสื้อแดงด้วยกัน บางคนก้าวเข้ามายืนเคียงข้าง (ใครต้นคิดคำนี้ว๊ะคะ มันแสลงใจน้าลี่ว์ทุกครั้งที่ได้ยิน แต่ช่างเถอะ มายืนข้างๆดีกว่าหันหลังให้)

การต่อสู้ที่มีคนใหม่ๆเข้ามาก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องพลังบริสุทธิ์ คนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อย ถอยออกไปอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะกลัวพลังผู้มาใหม่เขาจะไม่บริสุทธิ์ แต่เห็นชุมนุมครั้งใดก็เจอแต่ป้าๆเสื้อแดงที่ยอมสวมเสื้ออื่นให้ (ก็ได้ว๊ะ) เพื่อถนอมมิตรผู้มาใหม่

วันนี้เข้าเฟสมาก็ตั้งใจว่าจะถนอมมิตร เพราะเมื่อวานอาละวาดไปเยอะกับสเตตัสพี่นักเขียนคนนั้น แต่พอมาเจอสเตตัสพี่อีกคนบ่นว่าผิดหวังในตัวคนเสื้อแดงจากสเตตัสพี่นักเขียนคนนั้น ก็อดไม่ได้อีก

นี่เขาคาดหวังอะไรกับคนเสื้อแดง ถึงได้ต้องมาผิดหวัง คนเสื้อแดงไม่ใช่ที่ตั้งความหวังของใคร แค่เอาชีวิตรอดให้พ้นจากการถูกกดขี่ทุกรูปแบบไปวันๆ หาเลี้ยงปากท้องก็ลำบากมากแล้ว เขาออกมาสู้เพื่อตัวของเขาเอง เพื่อชีวิตของเขาเองอุดมการณ์ หลักการอะไรนั่นไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตเขา

สิ่งหนึ่งที่ทักษิณมีให้คนเสื้อแดงคือ ทักษิณไม่เคยเรียกร้องและเหยียบย้ำ คนเสื้อแดงจำนวนมากจึงยอมรับความผิดพลาดจากความเป็นมนุษย์ของทักษิณได้ และถึงรับไม่ได้ในบางกรณี อย่างน้อยทักษิณก็เป็นคนที่เราตำหนิได้ โดยที่เขาไม่เคยโต้กลับมาให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ


Arunwatee Kong Li Chattay
(https://www.facebook.com/ch.arunwatee/posts/2117512061671202)

..


Atukkit Sawangsuk
4 hrs ·


"สิ่งหนึ่งที่ทักษิณมีให้คนเสื้อแดงคือ ทักษิณไม่เคยเรียกร้องและเหยียบย้ำ คนเสื้อแดงจำนวนมากจึงยอมรับความผิดพลาดจากความเป็นมนุษย์ของทักษิณได้ และถึงรับไม่ได้ในบางกรณี อย่างน้อยทักษิณก็เป็นคนที่เราตำหนิได้ โดยที่เขาไม่เคยโต้กลับมาให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ"

ชอบสเตตัสนี้ของกงลี่ Arunwatee Kong Li Chattay อธิบายความผูกพันระหว่างทักษิณ เสื้อแดง การมองความผิดพลาดของทักษิณอย่างเป็นมนุษย์ และมองอย่างเสื้อแดง

เสริมนิดหนึ่งว่าระหว่างทักษิณกับมวลชนเสื้อแดงมีทั้งความรักความผูกพัน ในฐานะผู้นำที่เข้าถึงจิตใจมวลชนมากที่สุด เท่าที่เคยมีมา แถมยังมีความเป็นเหยื่อร่วมชะตากรรม ที่ไม่มีวันแยกกันได้ อันนี้ จึงเป็นคำอธิบายว่า ทำไมตอนนิรโทษสุดซอย เสื้อแดงจึงไม่โกรธ ว่านิรโทษคนฆ่า เพราะเห็นว่าจะเอาคนเสื้อแดงออกจากคุก ซึ่งคิดว่าต่อสู้ตามหลักการคงไม่มีทางทำได้ และยังไงก็คงเอาคนผิดไม่ได้ ในขณะที่การเอาคนออกจากคุก กับเอาทักษิณกลับบ้าน ก็เป็นเรื่องเดียวกัน (เหยื่อร่วมชะตากรรม)

บนความไม่เห็นด้วย กับการตัดสินใจ ผมก็เข้าใจได้ ถึงอารมณ์มวลชน และวิธีคิดแบบทักษิณ คือคงจะว่ามวลชนไม่ได้ ที่พอใจกับการเอาชนะด้วยวิธีการใดก็ได้ เขาเจ็บแค้นมานานแล้ว ส่วนวิธีคิดของทักษิณ ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะคนจะเป็นใหญ่ ในการเมืองแบบไทยๆ มันต้องรอบตัว ย้อนนึกถึงสมัยทักษิณล้มเหลวกับพลังธรรม แล้วกลับมายิ่งใหญ่ด้วยไทยรักไทย ก็คงได้บทเรียนมาเยอะ ทักษิณไม่ใช่ไม่เข้าใจหลักการ แต่เขาได้ชัยชนะมาด้วยความกล้าเสี่ยง ไต่เส้น มาตลอด แล้วมันก็เป็น 2 แนวทางมาตลอด การเมืองเรื่องหลักการ กับการเมืองเรื่องอำนาจ นักวิชาการนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย ยืนอยู่บนหลักการ แต่นักการเมืองอยู่ในการเมืองเรื่องอำนาจ มีการเล่นเกม มีการต่อรอง มีการศึกที่ต้องเอาชนะทั้งด้วยหลักการและด้วยกลอุบายไปพร้อมๆ กัน

คือเราก็อยู่ในเส้นของเรา แล้วก็จะมีความไม่เห็นด้วยในวิธีคิดการตัดสินใจแบบเขาอยู่เนืองๆ นั่นแหละ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เมื่อมองจากคนละมุม การเมืองเวลาเอาชนะกันเป็นรัฐบาล มันไม่ใช่อาศัยหลักการอย่างเดียว มันใช้ทุกอย่างครบ (ถ้าไม่โกหกดัดจริตอย่างแมลงสาบนะ) มองแบบปลงคือถ้าไม่มีทักษิณ ก็ไม่มีพลังประชาธิปไตยที่ใหญ่โตอย่างนี้ ถ้ามองว่าเป็นปัญหา ก็เป็นแผลเป็นมาตั้งแต่เกิดขบวนมวลชนหลังรัฐประหาร 49 เพียงแต่อีกด้านก็ปลงไม่ได้ เมื่อเกิดความผิดพลาดเสียหายก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์กัน บางคนวิจารณ์แรงก็เพราะเขาโกรธจริงๆ เช่นสุดซอยจนเกิดรัฐประหารแล้วทุกคนได้รับผลกระทบ

ผมเลยไม่เห็นจะแปลกอะไร ที่เชียร์ความพยายามเล่นการเมืองตามหลักการแบบธนาธร ปิยบุตร ซึ่งก็จะต้องเรียนรู้อีกมาก ในการปรับหลักการมาใช้กับการหาคะแนนนิยม หรือการเมืองระบอบรัฐสภาถ้าเข้าไปได้ ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่จะผิดพลาดบ้าง

โดยในขณะเดียวกันก็เข้าใจการเมืองแบบพรรคเพื่อไทย แบบทักษิณ ซึ่งจะยังเป็นกระแสหลักอยู่ เป็นผู้ชี้ขาดชัยชนะหรือพ่ายแพ้ แล้วถ้าพาพังก็ต้องวิจารณ์กันหนักหน่วง

เพียงแต่ครั้งหลังนี่ก็ยังต้องประเมินยาวๆ อยู่นะ ระยะสั้นดูเหมือนแย่ แต่ 14 ชั่วโมงไม่จบง่าย 😍

https://www.facebook.com/ch.arunwatee/posts/2117512061671202