วันเสาร์, พฤศจิกายน 03, 2561

ถึงนกหวีดที่รักทุกคน จาก ไกรภพ จันทร์ดี + 5 ปีคนกรุงหายโง่?





"ตัสสุดท้ายเกี่ยวกับนกหวีด"

ผมโดนถามเสมอว่า ในฐานะคนตัวเล็กๆของประชาชน ผมไม่กลัวหรือที่แสดงจุดยืนสวนทางกับมวลมหาประชาชนนกหวีด ตั้งแต่วันที่เสียงนกหวีดดังจนถึงวันนี้

ตอบได้เลยว่ากลัว ผมกลัวที่สุดถ้าจะต้องทำร้ายจิตใจ ย้ำรอยแผลเพื่อนพี่น้องร่วมชาติทุกคนที่ร่วมเป่านกหวีดในวันนั้น

บางคนญาติผม เพื่อนในชีวิตจริง เพื่อนในเฟส รอบๆตัวผมมีไม่น้อย และมากมายเลยที่เคยเป็นแฟนเพลงของวง

แต่ที่ผมกลัวกว่าคือการไม่เรียนรู้แบบสะเด็ดน้ำ พาสังคมวนกลับไปที่จุดเดิม เหมือนวันมหาวิปโยคครั้งแล้วครั้งเล่า นับจาก 14 - 6 ตค. - พค.35 - และมาจนถึงรอบสิบกว่าปีหลังนี้

มาถึงจุดๆนี้ ถ้าเราลองเข้าไปดูบรรดาสเตตัสข่าวสารบ้านเมือง ผมมั่นใจแล้วว่าทรรศนะผู้คนในสังคม ล้วนตกผลึกไปในทางเดียวกัน

นกหวีดคือรอยด่างของการเมืองภาคประชาชนที่อ่อนเยาว์ต่อเรื่องอะเจนด้าของฝ่าย"ธงนำ"

อยากเห็นบ้านเมืองบรรลุสู่สังคมในอุดมคติ แต่ไม่อาจเข้าใจผลลัพธ์การเคลื่อนไหวที่จะตามมาในที่สุด

ผมคัดค้านมาตั้งแต่แรกเริ่มเพราะมั่นใจว่าอำนาจเผด็จการไม่อาจปฏิรูปการเมืองเพื่อคนทุกชนชั้นได้จริง วันนี้เราเลยเห็นการเคลื่อนไหวสืบต่ออำนาจอย่างชัดเจนและไม่เหนียมอาย ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นำรัฐประหารตั้งใจจะเล่นการเมืองต่อ

สภาพเศรษฐกิจ ที่เอื้อประโยชน์ต่อทุนใหญ่ สภาพสังคม การเมือง การปกครอง ระบบยุติธรรม และอีกมากมายหลายอย่างปรากฏความบกพร่องอย่างชัดเจน อย่างที่เราๆประชาชน "หมดพิษสง"ต่อชนชั้นปกครอง 

โดนกดจนหัวติดพื้น !!!

กล้าหาญมากสุดได้แค่ตะโกนออกมาว่า ประเทศกูมี
แตะต้องอะไรหน่อยก็กลายเป็นภัยความมั่นคง

ในปฐมบทของเรื่องที่เกิด ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่วันนี้จะเห็นคนมหาศาลก่นด่า"นกหวีด" แบบสะใจทั้งน้ำตา เพราะต่างคนต่างก็ลอยคออยู่กลางทะเลเหมือนกัน

รอยด่างของประวัติศาสตร์นี้ ผมไม่มีอะไรจะพูดถึงนกหวีดอีกต่อไปแล้ว ได้แต่หวังถ้าเคยรู้ทันไอ้นั่นอีนี่สารพัด อย่าลืมรู้ทันมันทุกคนที่คิดจะปล้นอำนาจประชาชน

นักการเมืองเลวระยำ คุณมีทางกำจัดมันด้วยประชาธิปไตยสามนาที
นักปกครองเผด็จการ กว่าสี่ปีที่บ้านเมืองถูกแช่ไว้ ยังโล้ชิงช้าเล่นสบายใจ คุณทำอะไรเขาได้

จำไว้เป็นบทเรียนให้ดี มันหลายครั้งมากแล้วกับลูปนี้

จบแล้วนะ นกหวีดที่รักทุกคน
กลับมาเป็นประชาชนที่รู้ทันการสูญเสียอำนาจตนกันเถอะครับ


ไกรภพ จันทร์ดี

...

ยังไม่อยากเชื่อตามไทยโพสต์ว่าคนกรุงเอือมไอ้เทือก คนด่าต้องแยกออกมา คนด่ามักเป็นฝ่ายประชาธิปไตยใจกล้า แต่ท่าทีคนกรุง ส่วนใหญ่จะทำเฉยเสียมากกว่า ทำไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีตัวตน ยิ่งกว่าคนขอบริจาคทำบุญโลงศพเดินผ่านมา

ไม่ยักเหมือน 5 ปีก่อน เดินไปทางไหนก็มีแต่คนขอถ่ายเซลฟี ลงเฟซ ลงไอจี แต่วันนี้ เดี๋ยวเพื่อนล้อแย่เลย ดาราเซเลบส์พวกที่ขึ้นเวทีเชียร์มือปืนป๊อปคอร์นก็หายหมด ถามว่าหายโง่ไหม ตกเทรนด์ไปแล้วมากกว่า

ผมไม่คิดว่า กปปส.ตาสว่าง หายโง่ ปัดโธ่ สลิ่มก็ยังปลุกความเกลียดชังสมองนิ่มเบาปัญญากันทุกวันในโลกออนไลน์ แม้อาจมีบ้าง คนที่เข้าร่วมห่างๆ ผิวเผิน เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คิดว่าต้านโกง วันนี้คงถอยออกไป หรือพวกคนใต้ ที่ต้องไปขายยางดาวอังคาร แต่สลิ่มชาวกรุงจานใหญ่ตั้งแต่สมัยพันธมาร ถ้าไม่แก่ตายเสียก่อนก็ยังอยู่ครบ

กปปส.อกหักตรงไหน ตรงที่คิดว่าจะมีปฏิวัติประชาชน สภาประชาชน เลือกตั้งผู้ว่า ไม่เคยคิดว่าจะได้รัฐประหาร?

ขากถุย ถ้ามีใครเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ยกมือขึ้น จะพาไปหาหมอ ทำ MRI ตรวจสมอง ว่าขี้เลื่อยล้วนๆ เลยใช่ไหม (แย่หน่อยนะ หมอก็เป็นเยอะเหมือนกัน)

ที่มาชัตดาวน์ขัดขวางเลือกตั้ง ก็รู้ทั้งนั้นละว่า มาสร้างสถานการณ์ให้เกิดรัฐประหาร ไม่งั้น ตอนรถถังออกมา จะไชโยโห่ร้อง จะปาร์ตี้ฉลองหลังรัฐประหารเรอะ

ถ้าจะมีผิดหวัง ก็กลัวรัฐประหารเสียของอีก เท่านั้นเอง

เพียงแต่ 5 ปีผ่านไป ไอ้เทือกมันหมดประโยชน์ หมดความหมาย แถมกลายเป็นคนบาป ต้องรับผิดชอบความวอดวายหลายแสนล้านสมัยชัตดาวน์ไปแล้วไง เรื่องอะไรคนกรุงจะต้องไปแบกหม้อก้นดำกับจรกาหน้าดำ ไอ้ที่เดินตามสมัยนั้น ก็แค่ต้องการคนที่พร้อมแลก พร้อมเปรอะเปื้อนสกปรก มาเป็นผู้นำ ไอ้เทือกมีครบทุกอย่าง มีคอนเนคชั่น มีทหารศาลหนุนหลัง มี ส.ส.ระดมคนใต้มาปิดเมืองจนภาคใต้แทบร้าง การเป็นผู้นำล้มประชาธิปไตย มันไม่ได้แปลว่ามวลมหาประชาชนอยากเลือกมาเป็น ส.ส. เป็นรัฐบาล พวกผู้ลากมากดี อธิการบดี นักวิชาการ รู้ทั้งนั้นแหละว่าชูไอ้เทือกเพื่ออะไร

นี่ไม่ต่างอะไรเลย กับศาสดาโกเต๊กซ์ หลังยึดสนามบิน ยุบพรรค ตั้งรัฐบาลในต่ายทหาร ศาสดาอย่างสนธิ ลิ้ม ก็หมดความหมาย สลิ่มหันไปแห่แหนมาร์ค

พลังสลิ่มตรงแกนกลางยังอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนเป้า เปลี่ยนขวัญใจ หมดยุคแล้วลุงกำนัน เทรนด์สมัยนี้มันต้องลุงขี้โมโห เป็นเผด็จการได้ถึงใจ สะใจ

เพียงแต่ไอ้ลุงนี่ก็ต้องระวังเหมือนกัน พลาดพลั้งขึ้นมาก็โดนเท แล้วคนชั้นกลางระดับบนคนมั่งมี ก็จะซ้ำเติมว่า เห็นไหม ไม่ควรสืบทอดอำนาจ เราไม่ได้อยากร่วมมือเลย แต่เผด็จการบีบบังคับ



Atukkit Sawangsuk



https://www.khaosod.co.th/hot-topics/news_1767788