ไอ้ที่บ่นๆ ว่างานหนักเงินน้อยน่ะ
แท้จริงปั้นน้ำเป็นตัว แปลงรูปจากน่าตบเป็นหน้าตูบ (ให้สงสาร)
ทั้งที่รู้อยู่เต็มหัวตัวเองรับเงินสองทาง แล้วยังของแถม เบ็ดเสร็จ ๒
แสนครึ่งต่อเดือนเนี่ยน้อยเหรอ
ispacethailand.org แจงไว้ “สรุปว่า พล.อ.ประยุทธ์
นั้นมีรายได้จาก ๒ ตำแหน่ง ทั้งนายกฯ และหัวหน้า คสช. ถึงเดือนละ ๒๕๑,๑๘๐ บาท”
คือตำแหน่งนายกฯ
เงินเดือนเจ็ดหมื่นห้ากว่าๆ บวกเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนอีก ๕ หมื่น เป็น ๑๒๕,๕๙๐
บาทต่อเดือน เช่นเดียวกับเงินเดือนตำแหน่งหัวหน้า คสช. บวกเพิ่มวิเศษ ๕ หมื่น
รวมแสนสองหมื่นห้าพันเช่นกัน
ร้ายกว่านั้น
ที่บอกว่าได้น้อยกว่าพวกนายกฯ
และผู้นำประเทศในกลุ่มอาเซียนนั่นก็พูดผิดอีกเหมือนกัน
สงสัยแกล้งโง่หรือไม่เจ้าเล่ห์เสียจนตาลาย เพราะจริงๆ
แล้วเงินเดือนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ติดอันดับที่สองรองจากนายกฯ สิงคโปร์คนเดียวเท่านั้น
แสดงว่าเจตนามุสาเพียงแค่ให้ตนดูดี
เตรียมตัวครองเมืองอีกรอบด้วยภาพลักษณ์ใหม่อย่างนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
(ครึ่งใบ) โดยไม่สำรวจตัวเองว่าคุณภาพเป็นอย่างที่แอบอ้างมาตลอดจริงหรือไม่
นอกจากฝีมือบริหารห่วยแตกเละเทะแล้วยังการวางแผนข้างหน้าหาดีไม่ได้
เข้าทางบ่อนทำลายความสงบสุขและอยู่ดีกินดีของประชาชน (ไม่รวมข้าราชการและชนชั้นในสังคม)
เหมือนอย่างประเด็นหลักประกันสุขภาพที่กระทรวงสาธารณะสุขกำลังจ่อจะรื้อทำใหม่ให้รัฐบาลจ่ายน้อยลง
และส่วนต่างเกินดุลก็ผลักภาระไปให้ประชากรนั้น กลุ่มปกป้องหลักประกันสุขภาพออกมาแฉว่า
รัฐบาล คสช.กำลังทำให้ระบบ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคถูกควบคุมโดยระบบราชการ
นิมิตร์ เทียนอุดม
กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพกล่าวว่า “ขณะนี้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) กำลังทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่พูดไว้ในเรื่องแผนปฏิรูประบบสาธารณสุข ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่
๖ เม.ย. ที่ผ่านมา”
‘แผนปฏิรูป’ ที่ประกาศเป็น “ระบบสาธารณสุขที่ยึดอำนาจให้ข้าราชการเป็นผู้ชี้ขาดทุกอย่าง
และดูแลเฉพาะผลประโยชน์ของพวกพ้องตัวเองเท่านั้น” จากการจะตั้ง “ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพชาติ
ยึดและกินรวบทุกบอร์ดสุขภาพ ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพที่
สธ.กำลังจะผลักดันและจะเสนอเข้า ครม.เร็วๆ นี้”
โดยที่โครงสร้างของคณะกรรมการชุดวิเศษสำหรับระบบสุขภาพนี่
มีทั้งสิ้น ๔๕ คน มาจากพวกข้าราชการและข้ารองบู๊ตเกือบทั้งหมด ๔๕ คน
มีประชาชนธรรมดาอยู่แค่ ๓ คน
ทำให้กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพออกมารณรงค์ต้านกฎหมายฉบับนี้
อ้างว่า “เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของประชาชนที่ได้มาจากรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย
เป็นระบบอนาถา ถูกบังคับให้ร่วมจ่ายเมื่อป่วย เพราะคนกลุ่มนี้พูดตลอดเวลาว่า ๓๐ บาทคือภาระประเทศ
แต่สวัสดิการของข้าราชการไม่เคยเป็นภาระสำหรับพวกเขา”
ทั้งที่รัฐบาล คสช. ผ่านทาง รมว.สาธารณสุข
นำเอาระบบสุขภาพถ้วนหน้าของไทยที่มีชื่อเสียงในระดับโลกว่าเป็น ‘Universal
Healthcare’ ดีมากถึงดีที่สุดนี้ ไปโฆษณาหากินกับประชาคมโลก
ในการประชุมที่คิวบา