วันพุธ, กุมภาพันธ์ 08, 2560

ใบตองแห้งวิพากษ์ข้อเสนอ น.พ.ประเวศ วะสี - ปรองดอง แบบหมอประเวศคือความเลื่อนลอย ใบตองแห้ง ON AIR 8-2-2017




https://www.youtube.com/watch?v=6Xl8PtQcF3A

ใบตองแห้ง ON AIR 8-2-2017

SHTV

Published on Feb 7, 2017

'ปรองดองเชื่อใครดี เซ็นทรัล หรือหมอประเวศ'

by พิณผกา งามสม
8 กุมภาพันธ์ 2560

ใบตองแห้งวิพากษ์ข้อเสนอ น.พ.ประเวศ วะสี เรื่องสุนทรียสนทนาเพื่อการปรองดองชี้ ไม่ถูกทั้งหลักการและไม่สอดคล้องแนวทางของผู้มีอำนาจ เป็นเพียงความเลื่อนลอย ฟังดูดีแต่ปฏิบัติไม่ได้จริง

นายอธึกกิต แสวงสุข หรือใบตองแห้ง นักวิเคราะห์ประจำรายการใบตองแห้งออนแอร์ กล่าวว่ารายชื่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณากลั่นกรองเรื่องเสนอคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง หรือ "ป.ย.ป." จำนวน 33 รายที่นายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งนั้นไม่ได้มีใครแปลกใหม่ หรือเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตา ต้องรอดูรายชื่ออนุกรรมการอีก 4 ชุดที่จะถูกตั้งขึ้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม วันนี้มีการแถลงจากน.พ.ประเวศ วะสี ซึ่งได้รับการทาบทามดำรงตำแหน่งกรรมการปรองดองด้วย ซึ่งแม้หมอประเวศจะปฏิเสธแต่ก็แถลงข้อเสนอเรื่องการสร้างสุนทรียสนทนาพร้อมเสนอรายชื่อนักวิชาการที่มีชื่อเสียงหลายคน อีกทั้งเสนอแนวคิดว่า การปรองดองคือการมองไปสู่อนาคตอย่างที่ไม่มีจำเลยในอดีตอีกต่อไป

“ จริงๆ แล้วหมอประเวศเป็นคนแบบไหน หมอประเวศก็เป็นคนดีๆ ที่พูดอะไรดีๆ ฟังแล้วก็จะดีอยู่เสมอ คือหมอประเวศดูดี แต่ว่าเอาเข้าจริง สิ่งที่หมอประเวศพูดนั้นเคยเอาไปใช้ได้ไหม....ไม่นะ สิ่งที่หมอประเวศพูดไม่เคยเอาไปใช้ได้”

นายอธึกกิตวิพากษ์ต่อไปด้วยว่า สุนทรียสนทนาแบบที่ น.พ.ประเวศเสนอก็คือการไม่ถกเถียงเรื่องอดีต แต่ถ้าไม่สามารถพูดถึงอดีตในแง่มุมที่จะสร้างความยุติธรรม ไม่พูดถึงใครถูกใครผิด การปรองดองแบบนี้ก็เป็นเพียงการหมักหมมปัญหา และสุนทรียสนทนาโดยไม่พูดถึงความยุติธรรมก็เป็นเพียงการลูบหน้าปะจมูก

“อดีตไม่มีจำเลยจรืงหรือครับ เราต้องมองว่าใครเป็นจำเลยในอดีต ก็คือประชาชน คือนักการเมือง แต่คนที่ยึดอำนาจถูกหมด เป็นกลางไม่ผิด ถ้ายอมรับอันนี้ จะเดินหน้าปรองดอง มันจะทำได้ไหม คุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ) ยังไม่เอาเลย คุณสุเทพบอกไม่เอานิรโทษกรรม แค่นี้ก็จบแล้ว”

ไม่ปรองดองแบบสุเทพคือการแทงใจดำ แต่ปรองดองแบบหมอประเวศคือความเลื่อนลอย

นายอธึกกิตกล่าวต่อไปว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีท่าทีปฏิเสธการปรองดองอย่างเปิดเผย โดยปฏิเสธเรื่องการนิรโทษกรรม จริงๆ แล้วคือการแทงใจดำนโยบายปรองดอง เนื่องจากเป้าหมายของการปรองดองครั้งนี้คือต้องปรองดองกับพรรคการเมืองให้ได้ โดยไม่ให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียงมากนัก

“คำถามคือทำไมต้องปรองดอง ทำไมไม่ไปสู่เลือกตั้ง ก็เพราะว่าเราไม่สามารถหารูปแบบที่อยู่ร่วมกันหลังเลือกตั้ง”

นายอธึกกิตชี้ว่า แม้อนาคตอันใกล้ จะยังไม่ให้คนที่มาจากการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยมีอำนาจหลังการเลือกตั้ง มีกฎหมายมัดมือมัดเท่าประชาชน แต่ผู้มีอำนาจก็ยังไปต่อไม่ได้ ต้องหาทางที่จะทำอย่างไรให้ปกครองประเทศต่อไปได้ โดยมีการเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม แต่อำนาจยังคงเดิม เป็นรัฐที่ประชาชนต้องอยู่ในโอวาทเหมือนเดิม จึงต้องพยายามปรองดองกับพรรคการเมืองและคนที่ปรองดองได้บางส่วน ต้องยอมให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วน ปรองดองครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเปิดกว้างสำหรับประชาชน แต่ให้พรรคการเมืองยอมรับ

“วิธีที่จะคุยกับพรรคการเมืองได้ต้องมีการนิรโทษกรรม สิ่งที่คุณสุเทพ พูดคือการจี้ใจดำ แต่สิ่งที่คุณหมอประเวศพูดคือความเลื่อนลอย”

นายอธึกกิตกล่าวว่า ที่ผ่านมาแนวทางปรองดองที่เขายืนยันมาตลอดมี 2 ประการคือ ประการแรกความยุติธรรมและการให้อภัยซึ่งกันและกัน และประการที่สองคือ การเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยและยอมรับความแตกต่าง ซึ่งเขาเห็นว่าทั้งสองประการนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้น แต่แนวทางของผู้มีอำนาจขณะนี้คือ ทำอย่างไรที่จะใช้อำนาจต่อไปได้โดยทำลายการต่อต้านได้บางส่วน และนั่นก็คือการนิรโทษกรรม

“เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วทฤษฎีหมอประเวศที่เลื่อนลอย สุนทรียศาสตร์นั้เนป็นไปไม่ได้ จะพูดแต่สิ่งดีงามในอนาคต ไม่ถูกทั้งหลักการและไม่ต้องตามประสงค์ของฝ่ายที่ต้องการปรองดองในขณะนี้” นายอธึกกิตกล่าว

วันนี้หมอประเวศพูดอะไร

น.พ. ประเวศ วะสี แถลงวันนี้เรียกร้องทุกฝ่ายยึดอนาคต และดึงตัวเองออกจากอดีต เพื่อเดินหน้าสู่ความปรองดอง พร้อมผลักดันเวทีคู่ขนาน เน้นเคารพรับฟัง ไม่ใช่ถกเถียง หรือขุดคุ้ยเรื่องอดีต

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส แถลงความเห็นประกอบกระบวนการเดินหน้าสร้างความปรองดอง โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติใช้วิธีการขุดคุ้ย หรือพูดคุยเรื่องราวในอดีต แต่ขอให้ร่วมกันมองอนาคตเป็นหลัก

น.พ.ประเวศ ยังยอมรับว่า ขณะนี้ปัญหาที่สั่งสมค่อนข้างใหญ่ และซับซ้อน เสมือนภูเขา จึงไม่อาจใช้กำลังจัดการ แต่ขอให้ใช้ปัญญาหาวิธี หนึ่งในนั้นคือการจัดเวทีพูดคุยร่วมกันของทุกฝ่าย หรือเวทีสุนทรียสนทนาพัฒนาประเทศไทย ที่เน้นการรับฟัง มากกว่าถกเถียงเอาชนะ โดยอาจดึงผู้ชำนาญการมาร่วมดำเนินรายการ อาทิ ศาสตราจารย์ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ รองศาสตราจารย์โคทม อารียา พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังขอให้คณะกรรมการปรองดองของรัฐบาล เข้าใจหลักการการปรองดองที่ถูกต้อง ส่วนตัวไม่กังวล เพราะเชื่อว่า รัฐบาลย่อมรู้วิธีจะนำไปสู่ความสำเร็จ

ศาสตราจารย์น.พ.ประเวศ ยังยืนยันเดินหน้าร่วมสร้างความปรองดอง เพราะเป็นหน้าที่ของคนไทย หลังปฏิเสธร่วมคณะกรรมการปรองดองกับรัฐบาล เนื่องจากติดปัญหาสุขภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุนทรียสนทนาพัฒนาประเทศไทย เครื่องมือพาสังคมออกจากความขัดแย้งที่ไม่สร้างสรรค์