วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 03, 2560

ศาลสั่ง 5 แนวร่วม กปปส. จ่าย 96 ล้าน ชุมนุมปิด ปตท.-ก.พลังงาน ปี 57 - แต่...ลุงกำนันรอด !!!




แฟ้มภาพ นพ.ระวี มาศฉมาดล ระหว่างปราศรัยที่สวนลุมพินี เมื่อ 26 ต.ค. 56 (แฟ้มภาพ/FMTV)


ศาลสั่ง 5 แนวร่วม กปปส. จ่าย 96 ล้าน ชุมนุมปิด ปตท.-ก.พลังงาน ปี 57

Wed, 2017-02-01 20:07
ที่มา ประชาไท

ศาลแพ่งสั่ง 'อิฐบูรณ์-ทศพล-นพ.ระวี-ธวัชชัย' แกนนำ กคป. และ สมเกียรติ อดีตแกนนำพธม. จ่าย 95.9 ล้านบาท กรณีชุมนุมปิด ปตท. และกระทรวงพลังงาน ม.ค.57


เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ศาลแพ่ง ศาลแพ่งมีคำพิพากษาในคดีที่บริษัท เอนเนอร์ยีคอมเพล็กซ์ จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง อิฐบูรณ์ อ้นวงษา ทศพล แก้วทิมา และ นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และธวัชชัย พรหมจันทร์ แกนนำ กคป. เป็นจำเลยที่ 1-5 ละเมิด เรียกค่าเสียหาย 118,930,051.44 บาท กรณีที่จำเลยทั้งห้าร่วมกันนำผู้ชุมนุมเข้าไปที่สำนักงานของสำนักงานกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าของบริษัทเอนเนอร์ยีฯ ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.2557 และต่อเนื่องตลอดมาทำให้โจทก์และผู้เช่าได้รับความเสียหาย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยทั้งห้าร่วมกันชุมนุมบุกรุกมาในพื้นที่อาคาร ทำให้ทรัพย์สินในอาคารเสียหาย ขาดรายได้ที่เป็นค่าเช่า จึงพิพากษาว่าให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันชำระเงิน 95,923,547.84 บาท แก่บริษัทเอนเนอร์ยีฯ โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง
รายงานข่าวระบุด้วยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2557 จำเลยทั้งห้าร่วมกันนำผู้ชุมนุมเข้าไปที่สำนักงานของกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกระทรวงพลังงาน เป็นพื้นที่เช่าของบริษัทเอนเนอร์ยีฯ ที่นำมาให้กลุ่มบริษัท ปตท.ฯ และกระทรวงพลังงานเช่าเป็นที่ตั้งสำนักงาน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าครอบครองพื้นที่ของโจทก์ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. 2557 ต่อเนื่องตลอดมา มีการตั้งเวทีปราศรัยโจมตีกระทรวงพลังงาน ผู้เช่าพื้นที่อาคาร ทำให้โจทก์และผู้เช่าไม่สามารถเข้าใช้อาคารได้ เป็นเหตุให้ต้องปิดอาคารทั้ง 6 อาคาร ทำความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในอาคารของโจทก์ และทำให้โจทก์ขาดรายได้จากการประกอบกิจการ ขอให้จำเลยร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 118,930,051 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องคดีเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2557 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ และห้ามจำเลยทั้งห้ากับผู้ชุมนุมเข้าไปเกี่ยวข้องกับพื้นที่ของโจทก์ และขอให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายอีกวันละ 2,049,492.97 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะยุติการกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งห้าต่างเป็นแกนนำในการชุมนุม โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ดังนั้น การที่จำเลยทั้งห้าและผู้ร่วมชุมนุมบุกรุกเข้ามายังพื้นที่อาคารของโจทก์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ชุมนุม มีการตั้งเวทีปราศรัย ตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อใช้เป็นที่นอนของผู้ชุมนุม และทำให้ทรัพย์สินในอาคารของโจทก์เสียหาย จึงเป็นการใช้สิทธิอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ พนักงานของโจทก์ และประชาชนผู้มาติดต่อ รวมทั้งผู้เช่าพื้นที่ในอาคารของโจทก์ อันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนที่โจทก์ต้องขาดรายได้ที่เป็นค่าเช่าและค่าบริการพื้นที่ ค่าตลาดนัด รายได้จากค่าบริการที่จอดรถ ค่าใช้จ่ายที่โจทก์ต้องเช่าที่อื่นเป็นสำนักงานชั่วคราว และค่าเสียหายอื่นๆ อันเป็นค่าเสียหายโดยตรงจากการทำละเมิดของจำเลยทั้งห้า เป็นเงินทั้งสิ้น 95,923,547.84 บาท

ปัจจุบันจำเลยทั้งห้าและผู้ชุมนุมได้รื้อถอนสิ่งต่างๆ ออกจากพื้นที่การครอบครองของโจทก์แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสั่งห้ามจำเลยทั้งห้าและผู้ร่วมชุมนุมเข้าไปเกี่ยวข้องกับพื้นที่ของโจทก์อีก และสำหรับค่าเสียหายรายวันนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งห้าและกลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้ายึดถือการครอบครองพื้นที่ของโจทก์ นับแต่วันฟ้องที่ 12 มีนาคม 2557 อีก ศาลจึงไม่กำหนดค่าเสียหายส่วนนี้ให้

จึงมีคำพิพากษาว่า ให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันชำระเงิน 95,923,547.84 บาท แก่บริษัทเอนเนอร์ยีฯ โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องที่ 12 มี.ค. 2557 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า คดีนี้ยังไม่สิ้นสุดตามคำพิพากษา เนื่องจากคู่ความสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีได้ตามกฎหมายภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษาในวันนี้ ส่วนคดีอาญาที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นพ.ระวี กับแกนนำและผู้ร่วมชุมนุม กคป. รวม 56 คน เมื่อปี2557-2558 ในช่วงเดียวกับที่มีการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ของกลุ่ม กปปส. ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ในขณะนั้น ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง, ร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน และข้อหาอื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215,216,362,365 และประกาศของศูนย์รักษาความสงบฉบับที่ 3/2557 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมลงวันที่ 25 ม.ค. 57 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 4 – 7 , 9 -10 , 18 นั้น คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา ยังไม่มีคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับการสั่งปรับกรณีการชุมนุมปิดล้อมสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญของกลุ่ม กปปส. นั้น ประกอบด้วย เมื่อวันที่ 23 ก.พ.58 ที่ศาลแพ่งสั่งให้ สมศักดิ์ โกศัยสุข, คมสัน ทองสิริ และสาวิทย์ แก้วหวาน ทั้ง 3 เป็นแกนนำ ชุมนุมปิดล้อมพื้นที่กระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2556 จ่ายค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 1.6 ล้านบาท นอกจากนี้เมื่อวันที่ 15 ก.พ.59 ศาลสั่งให้หลวงปู่พุทธะอิสระ รวมกับพวกอีก 4 คน จ่ายเงินกว่า 1.4 ล้านบาท ชดใช้คาเสียหายจากการชุมนุมปิดล้อมกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ด้วย


ที่มา : มติชนออนไลน์ เดลินิวส์และไทยรัฐออนไลน์ 1 และไทยรัฐออนไลน์ 2

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ตำรวจยึดคืนกระทรวงพลังงาน แกนนำ กปท.ยอมมอบตัว