เศรษฐาบินไปสร้างวิมานในอากาสที่ ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อีกแล้ว อ้างจะไปชวนมาลงทุนแลนด์บริดจ์กับผลิตรถอีวี ปล่อยปัญหาหนี้เสียในประเทศพอกหางหมู วานนี้ (๔ มีนา) สถาบันการเงินอีกแห่งย้ำเทร็นด์ ‘ถูกยึดรถ-บ้าน’ ขาขึ้น
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb เป็นอีกแห่งที่ออกมายืนยันว่า หนี้เสียในระบบธนาคารอยู่ในเส้นทางขาขึ้น นับแต่สิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือของแบ๊งค์ชาติ ตั้งแต่เมื่อสิ้นปีที่แล้วเป็นต้นมา แม้นว่าธนาคารต่างๆ ตั้งค่าเผื่อหนี้ที่สงสัยจะสูญกันไว้สูงมากแล้ว (กว่า ๑๒๐%)
ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ยอมรับว่าอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) ปรับเพิ่มขึ้นบ้าง เนื่องจากลูกหนี้ติดเครดิตบูโร (NCB) ซึ่งข้อมูลของ NCB ที่สะท้อนออกมาก็ไม่สู้ดีนัก” รวมไปถึงการถูกยึดรถ-ยึดบ้าน ก็กำลังเพิ่มขึ้นด้วย
วิธีแก้ไขของรัฐบาลเศรษฐายังคงผลักภาระไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ใช้มาตรการการเงินลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยให้พวกนายและนังแบกช่วยกันประโคมว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยติดลบมาเป็นเดือนที่ ๕ แล้วนะ ล่าสุดอยู่ที่ -๐.๗๗%
ก็เกิดมีอดีตรองนายกฯ และอดีตผู้ว่า ธปท.ให้ความเห็นสวนเสียนี่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล บอก “ดอกเบี้ยไทยในปัจจุบันไม่สูงหากเทียบกับอดีต ซึ่งถ้ามีการปรับลดดอกเบี้ยลง จะทำให้ช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯ กว้างขึ้น”
นั่นทำให้ “โอกาสที่เงินไหลออกก็จะมากขึ้น” ‘หม่อมอุ๋ย’ เสริมว่ามันมีมุมมองอยู่อย่างหนึ่ง “ถ้าเงินทุนไหลออกในปริมาณที่เหมาะสม...ก็ทำให้บาทอ่อน แล้วบาทอ่อนส่งออกดีหรือไม่ เราพึ่งการส่งออก ๖๐% ของจีดีพี”
แล้วถ้าค่าเงินบาทอ่อน ก็จะเป็นแรงจูงใจให้คนเข้ามาท่องเที่ยวเยอะขึ้น ใช่หรือไม่ ล่ะ
(https://twitter.com/ThaiPBS/status/1764512512437899643 และ https://workpointtoday.com/ttb-thai-debt-trend-2024/)