วันจันทร์, มีนาคม 18, 2567

คิดแบบ #เพื่อไทย แก้ปัญหาแบบ #เพื่อไทย

https://www.facebook.com/pipob.udomittipong/posts/10161098766916649?ref=embed_post

Pipob Udomittipong
16h·

เห็น #เศรษฐา ขี่จักรยานกลางดงฝุ่นโชว์ ทำเหมือนอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ ก็พยายามนึกถึงเหตุผลอีกด้านที่เขาทำแบบนี้
ไปเห็นอีกคลิปที่เขาใส่ชุดลีซูเข้าไปเที่ยวผับใน #เชียงใหม่ อย่างสนุกสนาน เห็นภาพเขาเปิดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวชนเผ่าพื้นเมืองลีซู
เลยนึกขึ้นได้ว่า อ๋อ เขาคิดว่า ถ้ากระตุ้นศก. ท่องเที่ยวดี คนเชียงใหม่คงลืมเรื่องฝุ่นควันไปเอง
แบบเดียวกับที่เขาไปสามจังหวัด แล้วไปพ่นว่าถ้าศก.ดี ท่องเที่ยวดี ความขัดแย้งจะหายไปเอง
และแบบที่ #เพื่อไทย คิดว่า ถ้าศก.ดี ท่องเที่ยวบูม คนจะลืมเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองไปเอง
โคตรมักง่าย!
.....

ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง
1d
·
จดหมายถึงเศรษฐา ทวีสิน จากพลเมืองเชียงใหม่คนหนึ่ง
.
ขอสารภาพว่าผมไม่ได้มีความคาดหวังอะไรมากนักกับคุณเศรษฐา ในฐานะของนายกรัฐมนตรี แต่การมาเยือนเชียงใหม่ในวันที่ 15 มีนาคม กลับสร้างความผิดหวังเป็นอย่างมากแก่ข้าพเจ้า ภายหลังจากที่ได้มีข่าวออกมาทางสื่อมวลชนว่า “เชียงใหม่คืนนี้อากาศดี” (ดูรายละเอียดhttps://www.facebook.com/photo/?fbid=835655748591175&set=a.648490497307702)
.
ความผิดหวังประการแรก คุณเศรษฐา ใช้อะไรเป็นมาตรวัดว่าอากาศเชียงใหม่ดี ถ้าลองเปิดตาดูข้อมูลใน IQAir หรือแอฟอื่น ๆ ก็ล้วนบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกัน เช้าวันที่ 15 และเช้าวันที่ 16 มีนาคม ปริมาณฝุ่นของเชียงใหม่ขึ้นไปอยู่ในระดับสีม่วง อันแปลว่า “ไม่ถูกสุขภาพมาก”
.
เพียงแค่การไปนั่งในร้านอาหารริมแม่น้ำแล้วบอกว่าอากาศดี มีอะไรเป็นหลักฐานยืนยันข้อความดังกล่าว อย่าลืมว่าคุณเศรษฐา ก็แค่โฉบมาวันสองวันแถมนอนในโรงแรมที่มีเครื่องปรับอากาศเป็นอย่างดี การสูดฝุ่นเข้าไปชั่วโมงสองชั่วโมงก็คงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากเท่าไหร่ แต่ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ต้องมีชีวิตทั้ง 24 ชั่วโมง ทำมาหากิน นอนในบ้านที่อาจไม่มีเครื่องกรองอากาศ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ การสูดฝุ่นเข้าไปกำลังเป็นการตายผ่อนส่งมิใช่หรือ
.
ลองออกไปฟังเสียง ฟังความรู้สึก ฟังอารมณ์ ของคนในพื้นที่บ้างก็ดีนะครับ แทนที่จะใช้เวลาไปกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ถ้าอยากเจอกลับไปกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ก็หาเวลาไปเจอกันเถอะครับ แทนที่มาถึงเชียงใหม่จะมารับฟังเสียงของประชาชนท่ามกลางวิกฤติฝุ่น กลับไปปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่กับบรรดาผู้มีอำนาจ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง ถ้าจะทำแบบนี้ก็ไม่ต้องเชียงใหม่หรอก
.
ความผิดในเรื่องต่อมาก็คือ การทำหน้าที่ในฐานะของฝ่ายบริหารที่มีอำนาจสูงสุด พวกเราได้ฟ้องคดีฝุ่น PM 2.5 ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ และศาลปกครองได้มีคำวินิจฉัยที่ ส 1/2567 ตัดสินว่านายกฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ละเลยและล่าช้าต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และมีคำตัดสินให้นายกฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง แต่เป็นที่น่าเสียใจว่าทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมได้อุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว จึงทำให้ผลของคำพิพากษาต้องเลื่อนออกไปอีก
.
ทั้งที่คุณเศรษฐา ได้แสดงท่าทีต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นมานับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งในปีที่ผ่านมา แต่ทำไมจึงปล่อยให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม อุทธรณ์ต่อคำตัดสินอันทำให้การแก้ไขปัญหานี้ยืดเยื้อออกไปอีก ทำไมนายกฯ ในฐานะที่มีอำนาจสูงสุดจึงไม่สั่งการให้ยุติการอุทธรณ์ แล้วดำเนินการสั่งการตามกฎหมายที่มีอย่างจริงจัง
.
ผมคาดเดาว่าหากมีการประกาศว่าเชียงใหม่มีมลพิษรุนแรงคงจะกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยว อันเป็นกลไกขับดันทางเศรษฐกิจอันหนึ่งที่พอจะช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยไม่ล่มจมไปมากกว่านี้ ทำให้คุณเศรษฐา ต้องไปนั่งดมฝุ่นแล้วบอกว่า “เชียงใหม่อากาศดี” ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มตาเต็มจมูกว่าฝุ่นมันปกคลุมบ้านเมืองมากขนาดไหน
.
ความผิดหวังต่อคนที่เราไม่เคยคาดหวังไว้นี่มันเป็นเรื่องที่ชวนให้ละเหี่ยใจไม่น้อยนะครับ
.
สมชาย ปรีชาศิลปกุล
16 มีนาคม 2567