ภาพจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
โมกหลวงริมน้ำ
20h
·
ไม่ว่าจะปรับสภาพร่างกายและใจให้สงบแค่ไหน คุกก็ไม่ใช่บ้านอยู่ดี ผมใช้ข้อจำกัดในการดำรงชีวิตที่ได้พบ คอยดึงสติตัวเองไว้ ในทุกๆ วันผมจะทำสมาธิ เพื่อทบทวนจุดยืน สิ่งที่ต้องปรับปรุุงและสิ่งที่จะทำต่อไป คอยรักษากระดูสันหลังให้ตั้งตรง ผมปฏิญานกับตนเองว่า “ต้องพัฒนาขึ้นในทุกๆ วัน”
ช่วงเช้า ผมจะยืนวันละ 1 ชม. 12 นาที ระหว่างยืนก็ยืดเส้นยืดสายร่างกาย อ่านหนังสือ อยู่ในนี้ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม หลายแนว ทั้งรังสีการแพทย์ ภาษาอังกฤษ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ผมฝึกภาษาเกาหลีด้วยนะ ฝึกกับผู้ต้องขังเกาหลี ผมออกกำลังกายทุกวันเลย ฝึกมวยด้วย เวลาเครียดก็จะไประบายใส่การชกมวย ผมต้องเข้าห้องขัง 15:30 น. เวลาเข้าห้อง ผมจะหอบหนังสือไป 5-6 เล่ม อ่านหนังสือตั้งแต่เย็นถึงดึก นอกจากนี้ผมยังทำสิ่งที่บอกไม่ได้ทางจดหมาย แต่ผมคิดว่ามิตรสหายทั้งหลายคงเดาออกว่าผมทำอะไร ผมสู้อยู่ตลอดเวลา และจะไม่ใช้เวลาอย่างสูญเปล่า ผมได้หนังสือ ‘Gramsci and Political Installation’ แล้ว ขอบคุณมากเลย
** การได้อ่านหนังสือ ทำให้ผมรู้สึกอยู่ใกล้คนข้างนอกมากขึ้น การได้รับจดหมายก็สร้างความรู้สึกนั้นเช่นกัน พออ่านจดหมายแล้วก็มีกำลังใจขึ้นมาก และเป็นข้อพิสูจน์ให้ “หลายคน” เห็นว่าเราไม่ได้อยู่อย่างเดียวดาย ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่สู้มาด้วยกัน ไม่ต้องขอโทษหรือรู้สึกผิดที่มีพวกเรา ผู้ต้องขังทางการเมืองอยู่ในคุก หรือเพราะมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว พวกคุณไม่ได้เป็นคนสั่งขังเรา และแต่ละคนก็มีเงื่อนไขชีวิตต่างกัน เพียงคุณยืนหยัดสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ก็น่าชื่นชมและซาบซึ้งแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเบื่อจดหมายจากคนข้างนอกนะ ผมอยากอ่านข้อความของทุกคนในทุกวันเลย ต่อไปก็จะคอยตอบกลับข้อความของคนข้างนอกเรื่อยๆ นะ **
รักและคิดถึงทุกคนเสมอ
เก็ท โสภณ
5 มีนาคม 2567
โมกหลวงริมน้ำ
20h
·
ไม่ว่าจะปรับสภาพร่างกายและใจให้สงบแค่ไหน คุกก็ไม่ใช่บ้านอยู่ดี ผมใช้ข้อจำกัดในการดำรงชีวิตที่ได้พบ คอยดึงสติตัวเองไว้ ในทุกๆ วันผมจะทำสมาธิ เพื่อทบทวนจุดยืน สิ่งที่ต้องปรับปรุุงและสิ่งที่จะทำต่อไป คอยรักษากระดูสันหลังให้ตั้งตรง ผมปฏิญานกับตนเองว่า “ต้องพัฒนาขึ้นในทุกๆ วัน”
ช่วงเช้า ผมจะยืนวันละ 1 ชม. 12 นาที ระหว่างยืนก็ยืดเส้นยืดสายร่างกาย อ่านหนังสือ อยู่ในนี้ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม หลายแนว ทั้งรังสีการแพทย์ ภาษาอังกฤษ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ผมฝึกภาษาเกาหลีด้วยนะ ฝึกกับผู้ต้องขังเกาหลี ผมออกกำลังกายทุกวันเลย ฝึกมวยด้วย เวลาเครียดก็จะไประบายใส่การชกมวย ผมต้องเข้าห้องขัง 15:30 น. เวลาเข้าห้อง ผมจะหอบหนังสือไป 5-6 เล่ม อ่านหนังสือตั้งแต่เย็นถึงดึก นอกจากนี้ผมยังทำสิ่งที่บอกไม่ได้ทางจดหมาย แต่ผมคิดว่ามิตรสหายทั้งหลายคงเดาออกว่าผมทำอะไร ผมสู้อยู่ตลอดเวลา และจะไม่ใช้เวลาอย่างสูญเปล่า ผมได้หนังสือ ‘Gramsci and Political Installation’ แล้ว ขอบคุณมากเลย
** การได้อ่านหนังสือ ทำให้ผมรู้สึกอยู่ใกล้คนข้างนอกมากขึ้น การได้รับจดหมายก็สร้างความรู้สึกนั้นเช่นกัน พออ่านจดหมายแล้วก็มีกำลังใจขึ้นมาก และเป็นข้อพิสูจน์ให้ “หลายคน” เห็นว่าเราไม่ได้อยู่อย่างเดียวดาย ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่สู้มาด้วยกัน ไม่ต้องขอโทษหรือรู้สึกผิดที่มีพวกเรา ผู้ต้องขังทางการเมืองอยู่ในคุก หรือเพราะมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว พวกคุณไม่ได้เป็นคนสั่งขังเรา และแต่ละคนก็มีเงื่อนไขชีวิตต่างกัน เพียงคุณยืนหยัดสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ก็น่าชื่นชมและซาบซึ้งแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเบื่อจดหมายจากคนข้างนอกนะ ผมอยากอ่านข้อความของทุกคนในทุกวันเลย ต่อไปก็จะคอยตอบกลับข้อความของคนข้างนอกเรื่อยๆ นะ **
รักและคิดถึงทุกคนเสมอ
เก็ท โสภณ
5 มีนาคม 2567