'ยิ่งลักษณ์'ลั่นขอตายในสนามประชาธิปไตย
28 ก.พ. 2014
กรุงเทพธุรกิจ
นายกฯลั่นขอตายในสนามประชาธิปไตยเยี่ยงทหารตายในสนามรบ เมินดีเบตกับ"สุเทพ" เพราะไม่ใช่นักโต้วาที
ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ระบุว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการเจรจาการแก้ไขปัญหาของประเทศ พร้อมแสดงจุดยืนในการเจรจาและให้มีการถ่ายทอดสดว่า ที่ตนพูดคำนี้ในการเปิดเวทีการเจรจาตลอดเวลาว่าเราอย่ามาตั้งเงื่อนไขกันเลย เพราะข้อเท็จจริงในส่วนของกติกาต่างๆ เราก็รู้ว่าในเรื่องการชุมนุมเราไม่ต้องการให้เกิดปัญหาต่างๆขึ้น
"สิ่งที่ดิฉันจะต้องถามกลับไปคือถ้าเราได้มีการพูดคุยกันโดยในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้รักษากติกา ก็ต้องพูดคุยกันในกรอบของกติกา กรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ถ้าคุณสุเทพเห็นด้วยกับกรอบนี้ก็จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าบอกว่าไม่เห็นด้วยกับกรอบนี้แล้วจะไม่ให้มีการเลือกตั้ง ไม่ให้รักษากติกาใดๆ เลยแล้ว เราจะคุยกันได้อย่างไร จึงเป็นที่มาว่าทำไมจะต้องหาผู้ที่มาร่วมกันคิดและแก้ไขว่าจะทำกันได้อย่างไร เพราะถ้าต่างคนต่างตั้งเงื่อนไข ทุกอย่างจะเดินไปได้ยาก ขณะเดียวกันดิฉันเองที่จะจำเป็นต้องพูดคำนี้ในการรักษากติกา เพราะมีหลายคนถามว่าทำไมจึงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ต้องบอกว่าเราเป็นผู้รักษากติกา รักษาประชาธิปไตย ถ้าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือเป็นทหาร ก็ต้องบอกว่าทหารต้องทำหน้าที่ของตนเองจนนาทีสุดท้าย ทหารต้องรักษาพื้นที่ ต้องตายสนามรบ วันนี้ดิฉันก็ต้องตายในสนามประชาธิปไตย" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุผลใดที่ทำให้พูดว่ายอมตายคาสนามประชาธิปไตย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็คือประชาธิปไตย และนี่คือหน้าที่ การที่ประเทศจะเป็นที่ยอมรับ และเชื่อมั่นจากต่างชาติได้ ก็คือการที่เราต้องเดินตามกรอบของประชาธิปไตย ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลก็ไม่สามารถบอกประเทศอื่นว่าตนเองจะไม่รักษาประชาธิปไตย จะให้คนอื่นมาฉีกรัฐธรรมนูญได้ เป็นใครที่อยู่ในหน้าที่ปฏิบัติก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองเช่นเดียวกับทหารที่ต้องทำหน้าที่ของตนเองในสนามรบจนนาทีสุดท้ายเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่าวันนี้จำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาช่วยประสานในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็หวังว่านายสุเทพจะมาหาวิธีการพูดคุยกัน ก็น่าจะมีโอกาสและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่เป็นการดีเบตตั้งเงื่อนไขหรือท้าทายกัน มันก็ไม่จบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาช่วย ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตามไม่สามารถที่จะบอกว่าเป็นการพูดรักษากติกา รักษาประชาธิปไตย แล้วจะมาบอกว่าเราจะเจรจาบนเงื่อนไขที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาเป็นคนกลางการเจรจาและแก้ไขปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่างที่เคยพูดว่าการรับฟังความคิดดีๆ และแนวคิดต่างๆ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี แล้วสหประชาชาติก็เคยช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทั้งหมด และทุกอย่างเราจะต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน ถือเป็นเรื่องหลักมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนที่จะมีการเจรจาได้ถามไปยังศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) หรือไม่เพราะร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในฐานะผอ.ศรส.ระบุว่านายสุเทพมีข้อหากบฎอยู่ แล้วรัฐบาลจะเจรจาด้วยได้อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่พูดไปว่าต้องมีหลายๆ ฝ่ายมาร่วมกัน และคุยกันว่าทุกอย่างในกติกาเราจะไปด้วยกันอย่างไร ไม่ใช่ต่างคนต่างไม่ได้คุยถึงกรอบโครงอะไรเลย แล้วมาเจอกันคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงต้องเริ่มโดยมีผู้คนมาพูดคุยกันว่าวิธีการในการเข้าหากันจะเป็นอย่างไร ถ้าเรามีความจริงใจต่อกันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาท้าทายหน้าสื่อแบบนี้
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายสุเทพ พยายามที่จะขอดีเบตและกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "ดิฉันไม่ใช่นักโต้วาที และดิฉันไม่มีความชำนาญที่จะมาโต้และดีเบตกับคุณสุเทพ แต่ดิฉันมีความจริงใจที่จะให้ประเทศเดินหน้าได้ เราหันมาหาวิธีการในการหาทางแก้กันดีกว่า วันนี้เราต่างคนต่างเจ็บปวด ประเทศเองก็เจ็บปวด ผู้ชุมนุมเองก็เจ็บปวด และไม่อยากเห็นความรุนแรงต่างๆ ก็ขอร้องเถอะค่ะ และที่คุณสุเทพบอกว่าดิฉันตัดสินใจอะไรไม่ได้ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ที่จะตัดสินใจในฐานะยิ่งลักษณ์คนเดียว"
https://www.bangkokbiznews.com/politics/565979