UNESCO's City of Literature programme is part of a wider Creative Cities Network which was launched in 2004 and is currently made up of 295 UNESCO Creative Cities globally. Members are drawn from more than 90 countries and cover seven creative fields: Crafts & Folk Art, Design, Film, Gastronomy, Literature, Music, and Media Arts. The Network was born out of UNESCO's Global Alliance for Cultural Diversity initiative, which was created in 2002.
City Cracker
9h·
Cities of Literature ทำความรู้จัก 10 นครแห่งการอ่านเขียน และเงื่อนไขการเป็นเมืองแห่งวรรณกรรมของยูเนสโก
.
.
ทุกวันนี้เราพูดถึงพลังของวัฒนธรรม เราภูมิใจในภาษา ในวรรณกรรมและงานเขียน ความรุ่มรวยของศิลปะวัฒนธรรม และเราเริ่มมองเห็นการใช้พลังหรือสินทรัพย์เหล่านั้นไปสู่ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมขึ้น เช่นเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมือง เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ
.
ทว่า การที่เราจะนำมิติทางวัฒนธรรมมาใช้เป็นพลังหรือเป็นต้นทุนของเราได้นั้น ความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ทางกายภาพ แนวทางการพัฒนาเมือง และการที่รัฐหรือเมืองนั้นๆ ส่งเสริมหรือหยิบใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรมได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพได้ก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญ
.
ในมิติของวรรณกรรมเอง ก็เป็นอีกหนึ่งต้นทุนสำคัญที่ตัววรรณกรรมและงานเขียนต่างๆ สัมพันธ์กลับเข้าสู่บริบทของเมืองนั้นๆ งานเขียนอาจทำให้เมืองนั้นๆ มีความพิเศษน่าสนใจมากขึ้น การที่เมืองใดเมืองหนึ่งเป็นพื้นที่แห่งการอ่านการเขียน เป็นที่ๆ บ่มเพาะพื้นที่ของการคิด ของความคิดสร้างสรรค์ ของการถกเถียง เป็นบ้านของนักเขียน และเป็นที่ๆ ส่งเสริมอุตสาหกรรมเช่นหนังสือและการพิมพ์ เป็นพื้นที่ที่ผู้คนรักการอ่าน เป็นเมืองแห่งหนังสือ แน่นอนว่าด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ย่อมทำให้เมืองนั้นๆ รุ่มรวยและเป็นพื้นที่ที่รื่นรมย์ทั้งของผู้อยู่อาศัยเอง เป็นพื้นที่ผลิตสินค้าทางวัฒนธรรม และเป็นเมืองที่โดดเด่นเคียงคู่กับเมืองที่รุ่มรวยอื่นๆ ได้อย่างภาคภูมิใจ
.
ในแง่ของวรรณกรรมและการพัฒนาเมือง ยูเนสโกได้มีการตั้งเครือข่ายและมีการยกย่องขนานนามให้เมืองหนึ่งๆ เป็นเมืองแห่งวรรณกรรมหรือ Cities of Literature ภาคีและการให้สถานะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาคีเมืองสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมในทุกๆ ด้านของประเทศทั้งที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา เป็นการใช้มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อก้าวไปสู่อนาคต และเป็นการวางหมุดหมายเมืองนั้นๆ เข้าสู่การรับรู้ในระดับโลก รวมถึงนำไปสู่ภาคีความร่วมมือ
.
ปัจจุบันเครือข่ายเมืองแห่งวรรณกรรมของยูเนสโก ประกอบด้วย 42 เมือง จาก 28 ประเทศ โดยเมืองแห่งวรรณกรรมมีตั้งแต่เมืองใหญ่ที่เป็นต้นธารทางภาษาและวรรณกรรมของโลก เช่น เอดินเบอระในสกอตแลนด์ เมืองแมนเชสเตอร์ที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับนักคิดผู้เปลี่ยนมุมมองต่อโลกสมัยใหม่ ไปจนถึงกรุงแบกแดดที่เป็นเมืองวรรณกรรมแห่งแรกของเอเชีย เมืองเล็กๆ ในฝรั่งเศสที่โดดเด่นด้านวรรณกรรมภาพและวัฒนธรรมการ์ตูน เรื่อยมาจนถึงอินเดีย จาร์กาตาร์ และเกาหลีใต้
.
City Cracker ชวนไปพบกับเหล่าเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนครแห่งการอ่านเขียน วิธีที่เมืองพัฒนาและใช้กิจกรรมการอ่านการเขียนและหนังสือเป็นพลังให้กับเมือง เยี่ยมชมดินแดนที่ล้วนเป็นอู่อารยธรรม เป็นที่ๆ ภูมิใจกับประวัติศาสตร์ของตนเอง นครที่เต็มไปด้วยหนังสือและห้องสมุดนับร้อย เมืองที่เป็นเจ้าภาพด้านวรรณกรรม และมีพื้นที่สาธารณะเพื่อการอ่านเขียน พื้นที่ที่ผู้คนรักหนังสือและส่งเสริมให้กิจกรรมและกิจการที่เกี่ยวข้องเติบโต เป็นเมืองที่ช่วยขุดพรวนความคิดให้กับผู้คน
#unesco #literarycity #literature #CityCracker
Cities of Literature ทำความรู้จัก 10 นครแห่งการอ่านเขียน และเงื่อนไขการเป็นเมืองแห่งวรรณกรรมของยูเนสโก
.
Content by Vanat Putnark
Graphic Designed by Nattawat Narkchaeng
.
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.citiesoflit.com/edinburgh
https://en.unesco.org/creative-cities/edinburgh
https://www.citiesoflit.com/manchester
https://www.onmanorama.com/.../nit-calicut-students-study...
https://indianexpress.com/.../kozhikode-unescos-city-of.../
https://www.citiesoflit.com/baghdad
https://en.unesco.org/creative-cities/jakarta
https://www.citiesoflit.com/ljubljana
https://www.citiesoflit.com/angoul%C3%AAme
https://www.citiesoflit.com/montevideo
เปิดเงื่อนไขเมืองแห่งวรรณคดี ของ UNESCO
.
การได้รับยกย่องและเข้าร่วมภาคีเมืองแห่งวรรณกรรม ทางยูเนสโกเองได้ระบุเงื่อนไขของเมืองที่จะได้รับการยกย่องไว้ ความน่าสนใจในเงื่อนไขของยูเนสโกคือทางยูเนสโกค่อนข้างมองการเป็นเมืองวรรณกรรมเข้ากับภาพรวมของกิจกรรมการอ่านเขียน พร้อมมองเงื่อนไขต่างๆ ของเมืองนั้นๆ ที่สัมพันธ์กับกิจกรรมการอ่านเขียนตั้งแต่ต้นน้ำ คือตั้งแต่กิจการสิ่งพิมพ์และสำนักพิมพ์ที่มีคุณภาพ การมีระบบการศึกษาที่สัมพันธ์และให้ความสำคัญกับวรรณกรรมศึกษา เป็นพื้นที่จัดเทศการกิจกรรม การมีอยู่ของสาธารณูปโภคเช่น ห้องสมุด ร้านหนังสือไปจนถึงการแปลแลกเปลี่ยนวรรณกรรมต่างๆ และการใช้สื่อส่งเสริมพื้นที่ทางวรรณกรรมของตัวเอง
.
เกณฑ์ของยูเนสโกในการพิจารณาเมืองแห่งวรรณกรรมประกอบด้วย
1. กิจการสิ่งพิมพ์ที่พร้อมทั้งด้านคุณภาพ ปริมาณและความหลากหลายของเมืองนั้นๆ
2. มีหลักสูตรการศึกษาด้านวรรณกรรมทั้งวรรณกรรมท้องถิ่นและต่างชาติ ที่มีคุณภาพและเพียงพอตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับอุดมศึกษา
3. วรรณกรรม การละคร และหรือบทกวี มีบทบาทสำคัญในเมืองนั้นๆ
4. จัดงานที่เกี่ยวกับวรรณกรรมและเทศกาล ที่ช่วยส่งเสริมวรรณกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. มีห้องสมุด ร้านหนังสือ และพื้นที่สาธารณะ รวมถึงศูนย์ทางวัฒนธรรมของรัฐและเอกชน ที่ร่วมส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับวรรณกรรม
6. เป็นเมืองที่สัมพันธ์กับการแปล มีกิจกรรมส่งเสริมให้ภาษาและวรรณกรรมของชาตินั้นๆ หลากหลายขึ้น
7. ใช้สื่อทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อใหม่ ในการส่งเสริมวรรณกรรม และส่งเสริมตลาดสินค้าทางวรรณกรรมให้แข็งแรงขึ้น
Edinburgh, Scotland
นครวรรณกรรมแห่งแรก
.
เอดินเบอระเป็นเมืองแรกที่ยูเนสโกยกย่องให้เป็นเมืองแห่งวรรณคดีในปี 2004 เอดินเบอระเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรม ในมิติทางประวัติศาสตร์เอดินเบอระเป็นเมืองสำคัญด้านวรรณกรรมในหลายด้าน เช่น เป็นเมืองเริ่มต้นของกิจการการพิมพ์ของสก๊อตแลนด์ตั้งแต่ปี 1508 เอดินเบอระเป็นที่แรกของโลกที่มีห้องสมุดให้บริการยืมหนังสือออกได้และเป็นส่วนหนึ่งของการหมุนเวียนหนังสือในพื้นที่เมือง เมืองแห่งนี้เป็นบ้านเกิดของสุดยอดนักเขียน เช่น อาร์เธอ โคนัน ดอยส์ เจ้าของเชอร์ล็อค โฮล์ม และเจเคโรลลิ่ง เจ้าของแฮร์รี่ พอตเตอร์
.
นอกจากนี้เมืองแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยพื้นที่ของวรรณกรรม เป็นเมืองที่ตั้งของหอสมุดแห่งชาติของสกอตแลนด์ เป็นเมืองที่เปิดห้องสมุดเพื่อบทกวีโดยเฉพาะ เป็นเมืองที่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของสหราชอาณาจักรและขึ้นชื่อด้านวรรณคดีและวาทวิทยา เป็นเมืองที่มีร้านหนังสือกว่า 50 ร้าน มีความเชี่ยวชาญแตกต่างจากหนังสือโบราณ จนถึงร้านหนังสือเฉพาะทาง เช่น การ์ตูนหรือหนังสือภาพ เอดินเบอระเป็นเมืองแห่งเทศกาลหนังสือที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีนักเขียนกว่า 800 ชีวิตเดินทางมาร่วมทุกปี และเมืองแห่งนี้เป็นที่เดียวที่ตั้งชื่อสถานีรถไฟตามชื่อหนังสือ คือ Waverley ตัวสถานีประดับไปด้วยข้อความจากวรรณกรรมและนักเขียนอันเป็นที่ัรักของเมือง ทั้งหมดนี้ไม่แปลกที่เอดินเบอระจะได้รับเกียรติเป็นเมืองวรรณคดีโลกเมืองแรก
Manchester, England
ดินแดนแห่งห้องสมุดสาธารณะและพื้นที่เสรีภาพของการคิด
.
แมนเชสเตอร์เป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ และเป็นเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในสหราชอาณาจักร ในการเติบโตนี้ทำให้แมนเชสเตอร์เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางภาษาขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคยุโรปตะวันออก มีข้อมูลว่าในแมนเชสเตอร์ ผู้คนสามารถพูดได้ถึง 200 ภาษา ในความรุ่มรวยด้านภาษานี้ทางเมืองจึงนับเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของเมือง
.
ในมิติทางประวัติศาสตร์ แมนเชสเตอร์เป็นพื้นที่สำคัญในการเติบโตของการอ่านการเขียน โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องเสรีภาพทางการพูดและแสดงความเห็น แมนเชสเตอร์เป็นบ้านเกิดของห้องสมุดสาธารณะแห่งแรกของสหราชอาณาจักรในปี 1653 หลังจากนั้นห้องสมุดก็กลายเป็นหัวใจของเมืองและเป็นพื้นที่กิจกรรมของคนทุกวัย มีตัวเลขรายงานว่าในหนึ่งปีมีประชาชนไปเยี่ยมห้องสมุดเกือบ 3 ล้านครั้ง ในบริบทของเสรีภาพทางความคิด แมนเชสเตอร์เป็นพื้นที่ที่เฟรเดอริก เองเกลส์ และคาร์ล มาร์กซ์ ร่วมกันเขียนงานเขียนที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของยุคสมัยคือ Communist Manifesto ที่ห้องอ่านหนังสือของ Chetham’s Library ห้องสมุดสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง
.
ในปัจจุบันแมสเชสเตอร์เป็นเมืองที่ผลิตสินค้าและบริการในภาคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีมูลค่าตลาดสูงถึง 130 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะเข้าร่วมและได้รับการยกย่องเป็นเมืองแห่งวรรณกรรมในปี 2017 แมสเชสเตอร์มีเทศกาล งานอีเวนต์ทางวรรณกรรมมากถึง 800 งาน จากงานของห้องสมุดไปจนถึงการจัดงานในไนต์คลับ
นครวรรณกรรมแห่งแรก
.
เอดินเบอระเป็นเมืองแรกที่ยูเนสโกยกย่องให้เป็นเมืองแห่งวรรณคดีในปี 2004 เอดินเบอระเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรม ในมิติทางประวัติศาสตร์เอดินเบอระเป็นเมืองสำคัญด้านวรรณกรรมในหลายด้าน เช่น เป็นเมืองเริ่มต้นของกิจการการพิมพ์ของสก๊อตแลนด์ตั้งแต่ปี 1508 เอดินเบอระเป็นที่แรกของโลกที่มีห้องสมุดให้บริการยืมหนังสือออกได้และเป็นส่วนหนึ่งของการหมุนเวียนหนังสือในพื้นที่เมือง เมืองแห่งนี้เป็นบ้านเกิดของสุดยอดนักเขียน เช่น อาร์เธอ โคนัน ดอยส์ เจ้าของเชอร์ล็อค โฮล์ม และเจเคโรลลิ่ง เจ้าของแฮร์รี่ พอตเตอร์
.
นอกจากนี้เมืองแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยพื้นที่ของวรรณกรรม เป็นเมืองที่ตั้งของหอสมุดแห่งชาติของสกอตแลนด์ เป็นเมืองที่เปิดห้องสมุดเพื่อบทกวีโดยเฉพาะ เป็นเมืองที่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของสหราชอาณาจักรและขึ้นชื่อด้านวรรณคดีและวาทวิทยา เป็นเมืองที่มีร้านหนังสือกว่า 50 ร้าน มีความเชี่ยวชาญแตกต่างจากหนังสือโบราณ จนถึงร้านหนังสือเฉพาะทาง เช่น การ์ตูนหรือหนังสือภาพ เอดินเบอระเป็นเมืองแห่งเทศกาลหนังสือที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีนักเขียนกว่า 800 ชีวิตเดินทางมาร่วมทุกปี และเมืองแห่งนี้เป็นที่เดียวที่ตั้งชื่อสถานีรถไฟตามชื่อหนังสือ คือ Waverley ตัวสถานีประดับไปด้วยข้อความจากวรรณกรรมและนักเขียนอันเป็นที่ัรักของเมือง ทั้งหมดนี้ไม่แปลกที่เอดินเบอระจะได้รับเกียรติเป็นเมืองวรรณคดีโลกเมืองแรก
Manchester, England
ดินแดนแห่งห้องสมุดสาธารณะและพื้นที่เสรีภาพของการคิด
.
แมนเชสเตอร์เป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ และเป็นเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในสหราชอาณาจักร ในการเติบโตนี้ทำให้แมนเชสเตอร์เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางภาษาขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคยุโรปตะวันออก มีข้อมูลว่าในแมนเชสเตอร์ ผู้คนสามารถพูดได้ถึง 200 ภาษา ในความรุ่มรวยด้านภาษานี้ทางเมืองจึงนับเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของเมือง
.
ในมิติทางประวัติศาสตร์ แมนเชสเตอร์เป็นพื้นที่สำคัญในการเติบโตของการอ่านการเขียน โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องเสรีภาพทางการพูดและแสดงความเห็น แมนเชสเตอร์เป็นบ้านเกิดของห้องสมุดสาธารณะแห่งแรกของสหราชอาณาจักรในปี 1653 หลังจากนั้นห้องสมุดก็กลายเป็นหัวใจของเมืองและเป็นพื้นที่กิจกรรมของคนทุกวัย มีตัวเลขรายงานว่าในหนึ่งปีมีประชาชนไปเยี่ยมห้องสมุดเกือบ 3 ล้านครั้ง ในบริบทของเสรีภาพทางความคิด แมนเชสเตอร์เป็นพื้นที่ที่เฟรเดอริก เองเกลส์ และคาร์ล มาร์กซ์ ร่วมกันเขียนงานเขียนที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของยุคสมัยคือ Communist Manifesto ที่ห้องอ่านหนังสือของ Chetham’s Library ห้องสมุดสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง
.
ในปัจจุบันแมสเชสเตอร์เป็นเมืองที่ผลิตสินค้าและบริการในภาคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีมูลค่าตลาดสูงถึง 130 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะเข้าร่วมและได้รับการยกย่องเป็นเมืองแห่งวรรณกรรมในปี 2017 แมสเชสเตอร์มีเทศกาล งานอีเวนต์ทางวรรณกรรมมากถึง 800 งาน จากงานของห้องสมุดไปจนถึงการจัดงานในไนต์คลับ
Kozhikode, India
อู่อารยธรรมและการใช้เทคโนโลยีเข้าใจวัฒนธรรม
.
เมืองโกฬิกโกฏ หรือ แคลิคัต เป็นเมืองเก่าแก่และเมืองฐานที่มั่นสำคัญในการเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม วรรณกรรมและการอ่านการเขียนของแคว้นมะละบาร์ เมืองแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่รุ่งเรืองด้านการเขียน มีห้องสมุดสาธารณะกว่า 500 แห่ง เป็นนครที่เต็มไปด้วยร้านหนังสือ และเป็นที่ๆ มีกิจกรรมการรวมตัวที่เรียกว่า Kōlāya การรวมตัวพูดคุยถกเถียงกันของผู้คน การใช้พื้นที่เมืองในการพูดคุยแบบสบายๆ แต่เป็นการถกเถียงเชิงความคิดที่เกี่ยวข้องทั้งในเชิงการปกครองและในเชิงศิลปะ ซึ่งการพูดคุยเป็นธรรมเนียมของการคิดและการถกเถียงอันเป็นรากฐานของเมือง ทั้งนี้ทางเมืองยังมีบทบาทของสถาบันการศึกษาในการศึกษา ทำความเข้าใจวัฒนธรรมการอ่านเขียน เช่น การเข้าใจพื้นที่เมืองและการมีอยู่ของห้องสมุดซึ่งนับว่ามากที่สุดในอินเดีย มีการใช้เทคโนโลยีในการศึกษาวรรณคดีโบราณอย่างเป็นระบบและใช้แผนการพัฒนาเมืองที่ใช้วรรณกรรมร่วมเป็นจุดสำคัญของพื้นที่เมือง
Baghdad, Iraq
เมืองวรรณกรรมแห่งแรกของเอเชีย
.
กรุงแบกแดด ประเทศอิรักเป็นเมืองในทวีปเอเชียแห่งแรกที่ได้รับการยกย่องเป็นเมืองแห่งวรรณคดีในปี 2015 เป็นความน่าสนใจที่ยูเนสโกตั้งใจเฉลิมฉลองให้กับอดีตอันรุ่งโรจน์กับวัฒนธรรมอาหรับ ในเมืองหลวงของอีรักที่กำลังอยู่ในบรรยากาศของความอึดอัดขัดแย้งและภาวะความกลัวประเทศตะวันออกกลาง แน่นอนว่าอิรักเป็นพื้นที่แหล่งอารยธรรมอาหรับอันเก่าแก่และยาวนาน เพลงท้องถิ่นของเมืองเรียกว่า Maqam เป็นรากฐานของบทกวีอาหรับ แบกแดดเป็นอีกมหานครที่เต็มไปด้วยโรงละคร ห้องสมุดและร้านหนังสือ ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยพื้นที่เพื่อการสอน การบรรยาย การถกเถียงพูดคุย
.
วัฒนธรรมด้านการคิดของแบกแดดย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ในการก่อตั้งสถาบันแห่งภูมิปัญญา(House of Wisdom) สถาบันเก่าแก่ที่มุ่งเน้นทางศิลปะวัฒนธรรม เป็นพื้นที่ของนักแปล นักวิทยาศาสตร์ นักคิด นักคัดลอกหนังสือ นักเขียน และอื่นๆ อีกมากมายที่เข้าไปใช้ชีวิต คิด เขียน พูดคุย ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ๆ ผลิตและแปลข้อเขียน งานเขียนทางปรัชญานับพันเรื่อง เป็นต้นกำเนิดอารยธรรมที่รุ่มรวยที่สุดแห่งหนึ่ง ในยุคหลังแบกแดดเองก็ยังโดดเด่น เช่น มีการจัดตั้งพื้นที่ด้านวัฒนธรรมและวรรณกรรมสำหรับเด็กในปี 1969 ซึ่งยังคงดำเนินงานและมีบทบาทในการส่งเสริมการอ่านเขียนและผลงานสร้างสรรค์สำหรับเด็กจนถึงทุกวันนี้
Jakarta, Indonesia
ความเฟื่องฟูของกิจการสำนักพิมพ์
.
จาร์กาตาร์เป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นติดอันดับโลก ในแง่การเข้าร่วมเป็นเมืองแห่งวรรณกรรม จาร์กาตาร์ได้สิทธิจากการเป็นเมืองที่กิจการสิ่งพิมพ์เติบโตและคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคอาเซียน ในปี 2015 กิจการสิ่งพิมพ์เป็นหนึ่งใน 16 กิจการสร้างสรรค์ภายใต้การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และจาร์กาตาร์ก็ขึ้นแท่นเมืองที่สำคัญที่สุดด้านกิจการสิ่งพิมพ์ ปัจจุบันจาร์กาตาร์เป็นพื้นที่ของสำนักพิมพ์กว่า 1,000 แห่ง คิดเป็น 60% ของกิจการสำนักพิมพ์ทั้งหมดของประเทศ
.
ทั้งนี้กรุงจาร์กาตาร์เองได้สร้างศูนย์วัฒนธรรมสำคัญคือ Ismail Marzuki Park เป็นศูนย์วัฒนธรรมและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สนับสนุนนักคิดและศิลปิน และได้ออกแบบให้สถาบันแห่งนี้เป็นพื้นที่สาธารณะที่ส่งเสริมให้ผู้คนเข้าถึงพื้นที่ทางวัฒนธรรมได้อย่างสะดวก ทั้งนี้หอสมุดแห่งชาติและสำนักพิมพ์ของรัฐ (Balai Pustaka) เป็นพื้นที่สนับสนุนนักเขียนสำคัญมาอย่างอย่างยาวนาน
Ljubljana, Slovenia
เมืองเล็ก ที่มีห้องสมุดอยู่ในระยะเดิน
.
เมืองลูบลิยานาเป็นเมืองหลวงของสโลวีเนีย แม้จะเป็นเมืองหลวง แต่ก็ถือเป็นเมืองที่มีขนาดเล็ก มีประชากรไม่ถึงสามแสนคน แต่ลูบลิยานาเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมด้านหนังสือแข็งแรง หนึ่งในนั้นคือการเป็นเมืองแห่งห้องสมุดและการแปล สำหรับเมืองในประเทศเล็กๆ นี้ แม้ว่าหนังสือจะมีราคาสูง แต่การอ่านยังเป็นกิจกรรมที่ชาวเมืองรัก ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองแห่งการยืนหนังสือ มีห้องสมุดมากมาย ลูบลิยานามีห้องสมุดสาธารณะ 35 แห่ง มีห้องสมุดเฉพาะทางอีก 142 แห่ง ในห้องสมุดแห่งชาติมีหนังสือ 2.6 ล้านเล่ม หนึ่งในสี่ของชาวเมืองเป็นสมาชิกห้องสมุด ด้วยจำนวนห้องสมุดและขนาดเมืองนี้ทางเมืองรับรองว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณก็จะมีห้องสมุดในระยะที่เดินไปได้
.
นอกจากห้องสมุดและตลาดหนังสือทั้งประเทศที่เล็กแล้ว เมืองแห่งนี้กลับเป็นเมืองแห่งนักแปลและการแปล รวมถึงลูบลิยานายังเป็นเมืองแห่งจิตวิเคราะห์และปรัชญาร่วมสมัยในสายลาก็อง หนึ่งนั้นที่โด่งดังคือสลาวอย ชิเชก
Óbidos, Portugal
เมืองจิ๋วที่เปิดพื้นที่ประหลาด และโรงแรมแห่งวรรณกรรม
.
ออบีดุชเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีประชากรเพียงหลักพันคน แต่เมืองน้อยๆ ในโปรตุเกสแห่งนี้เป็นตัวอย่างของการนำเอาวรรณกรรมและกิจการอ่านเขียนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เมืองและการพัฒนาเมืองได้ เมืองออบีดุชค่อนข้างโดดเด่นด้านการการคิดเชิงสร้างสรรค์ และการเปิดพื้นที่เมืองเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์โดยมีการอ่านเป็นหัวใจ สิ่งที่เมือง เช่น การเปิดร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่โบสถ์ การเปิดร้านหนังสือในพื้นที่แปลกๆ เช่น โบสถ์เก่าแก่ สถานีดับเพลิงหรือโรงบ่มไวน์เก่าทำให้เกิดบทสนทนาและความสนใจของนักคิดนักเขียนจากในระดับนานาชาติ
.
นอกจากนี้ในเมืองเก่าแก่ล้อมกำแพงที่มีคนเพียงสามพันคน กลับเป็นบ้านของหนังสือครึ่งล้านเล่ม มีการเกิดโรงแรมวรรณกรรมและกิจกรรมทางวรรณกรรมที่สามารถดึงดูดทั้งนักคิดและนักอ่านจากทั่วโลก ทางเมืองเป็นเมืองที่จัดเทศกาลหนังสือที่สำคัญที่สุดของประเทศ ทั้งนี้เมืองยังสร้างพื้นที่มิกซ์ยูสเพื่อส่งเสริมกิจการสร้างสรรค์คือ Technology Park มีการเปิดเมืองเป็นพื้นที่พำนักและใช้ความเงียบสงบโรแมนติกเป็นพื้นที่บ่มเพาะความคิดของนักคิดนักเขียนจากทั่วโลก
Angoulême, France
เมืองเล็กๆ ที่เป็นรากฐานสำคัญของ Visual Art
.
อ็องกูแลมเป็นอีกเมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากปารีสไปราว 90 นาที มีประชากรเพียงสี่หมื่นคน ทว่าเมืองน้อยที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายนี้มีบริบทและประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการอ่านเขียนอย่างสำคัญเช่นเคยเป็นเมืองผลิตกระดาษจดหมายที่คุณภาพดีที่สุด ความน่าสนใจของเมืองเล็กในมิติของเมืองวรรณกรรม คือการที่เมืองอุทิศพื้นที่ให้กับ visual art รวมถึงการมีวัฒนธรรมคอมมิกที่เข้มแข็ง ดังนั้นเมืองน้อยแห่งนี้เป็นที่มั่นใหม่ของศิลปะร่วมสมัย
.
ย้อนไปหมุดหมายสำคัญของเมืองคือเทศกาลการ์ตูนนานาชาติตั้งแต่ปี 1974 ในระยะ 50 ปีที่ผ่านมาเมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองแห่งศิลปะภาพร่วมสมัย จากการที่นักวาดเริ่มลงหลักปักฐาน สู่การเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยและการศึกษาด้าน Visual Art ชั้นแนวหน้า มีการก่อตั้งสถาบันที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสร้างสรรค์ ไปจนถึงการวางแผนในระดับผังเมือง เช่น การปรับปรุงย่าน Saint-Cybard เป็นย่านบ่มเพาะด้าน Visual Art เมืองที่ดูเก่าแก่จากยุคกลางนี้จึงผสมผสานไปด้วยวัฒนธรรมสมัยใหม่ ผนังกำแพงที่เต็มไปด้วยงานวาดและการ์ตูนคอมมิกไปจนถึงการศึกษาในสถาบันการศึกษาด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย
Wonju, South Korea
เมืองแห่งนักเขียนอาชีพ
.
มาที่เมืองเล็กๆ ของเกาหลีใต้ เมืองวอนจูเป็นเมืองที่มีประชากรเพียงสามแสนกว่าคน แต่เมืองเล็กๆ นี้กลับเป็นพื้นที่สำคัญทางวรรณกรรมของเกาหลี เมืองแห่งนี้เป็นบ้านเกิดของ Park Kyung-ni นักเขียนนวนิยายชื่อดังของเกาหลี ทั้งนี้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ในผลิตภัณฑ์มวลรวมของเมืองมีสัดส่วนเป็นผลิตภัณฑ์ในภาควัฒนธรรมสูงถึง 4.5% คิดเป็นมูลค่าถึง 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ยูเนสโกระบุชื่นชมถึงการที่เมืองวอนจูผนวกและพยายามฟื้นฟู ใช้มรดกที่จับต้องไม่ได้ (intangible cultural heritage) ในการเปิดพื้นที่ เช่น การมีสวนด้านวรรณกรรม การจัดเทศกาล หรือการเปิดศูนย์วัฒนธรรมเพื่อดึงผู้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์เข้าสู่เมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของการคิดการเขียน
.
สิ่งที่น่าสนใจของเมืองที่มีประชากรหลักแสนคนนอกจากมูลค่าสินค้าทางวัฒนธรรมแล้ว เมืองน้อยแห่งนี้ยังขึ้นแท่นเมืองประเภทนีช มีประชากรผู้ทำอาชีพนักเขียนอาชีพมากกว่า 100 คนที่ยังทำงานและผลิตผลงานอยู่ในพื้นที่
Montevideo, Uruguay
เมืองแห่งบทกวีที่ขอให้เรียนรู้ได้มากเท่าความกล้าหาญ
.
มอนเตวิเดโอเป็นเมืองหลวงและเมืองท่าของอุรุกวัย ประเทศในอเมริกาใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความรุ่งเรืองก้าวหน้าในกลุ่มละตินอเมริกา ร่องรอยที่เชื่อมต่อระหว่างความเป็นประเทศละตินอเมริกาและประวัติศาสตร์การต่อสู้คือการก่อตั้งหอสมุดแห่งชาติขึ้น คำขวัญของหอสมุดนำมาจากคำขวัญของนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพคือ ‘ขอให้ชาวอุรุกวัยเรียนรู้ได้เสมอกับความกล้าหาญ(May the [Uruguayans] be as learned as they are brave)’ นอกจากนี้อุรุกวัยยังมีพื้นที่และวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์วรรณกรรม เช่น วัฒนธรรมและพื้นที่คาเฟ่ พื้นที่ที่นักเขียน นักการละครของประเทศมาใช้เวลาและพบปะพูดคุยเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของกันและกัน การถกเถียงในงานวรรณกรรมล้วนเกิดขึ้นในร้านกาแฟริมทาง ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดอันเป็นเอกลักษณ์ของดินแดนละตินอเมริกา
.
นอกจากวัฒนธรรมกาแฟและหอสมุดที่สัมพันธ์กับบริบทชาติแล้ว มอนเตวิเดโอ ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับการอ่านเขียน เช่น เทศกาลหนังสือ เทศกาลวัฒนธรรมนานาชาติ หนึ่งในนั้นคือเทศกาล Mundial Poético เทศกาลที่เมืองจัดขึ้น ตัวเทศกาลนี้เป็นเทศกาลของกวีที่จะรวมกวีจาก 21 ประเทศทั่วโลก เข้ามาร่วมกันทำกิจกรรม อ่าน พูดคุย แสดง ชมสารคดีและนำเสนอผลงานรวมถึงจัดเวิร์ตชอปด้านการประพันธ์ ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทำให้เมืองกลายเป็นจุดหมายของกวี และเป็นนครแห่งบทกวีในระดับนานาชาติ
เมืองแห่งนักเขียนอาชีพ
.
มาที่เมืองเล็กๆ ของเกาหลีใต้ เมืองวอนจูเป็นเมืองที่มีประชากรเพียงสามแสนกว่าคน แต่เมืองเล็กๆ นี้กลับเป็นพื้นที่สำคัญทางวรรณกรรมของเกาหลี เมืองแห่งนี้เป็นบ้านเกิดของ Park Kyung-ni นักเขียนนวนิยายชื่อดังของเกาหลี ทั้งนี้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ในผลิตภัณฑ์มวลรวมของเมืองมีสัดส่วนเป็นผลิตภัณฑ์ในภาควัฒนธรรมสูงถึง 4.5% คิดเป็นมูลค่าถึง 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ยูเนสโกระบุชื่นชมถึงการที่เมืองวอนจูผนวกและพยายามฟื้นฟู ใช้มรดกที่จับต้องไม่ได้ (intangible cultural heritage) ในการเปิดพื้นที่ เช่น การมีสวนด้านวรรณกรรม การจัดเทศกาล หรือการเปิดศูนย์วัฒนธรรมเพื่อดึงผู้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์เข้าสู่เมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของการคิดการเขียน
.
สิ่งที่น่าสนใจของเมืองที่มีประชากรหลักแสนคนนอกจากมูลค่าสินค้าทางวัฒนธรรมแล้ว เมืองน้อยแห่งนี้ยังขึ้นแท่นเมืองประเภทนีช มีประชากรผู้ทำอาชีพนักเขียนอาชีพมากกว่า 100 คนที่ยังทำงานและผลิตผลงานอยู่ในพื้นที่
Montevideo, Uruguay
เมืองแห่งบทกวีที่ขอให้เรียนรู้ได้มากเท่าความกล้าหาญ
.
มอนเตวิเดโอเป็นเมืองหลวงและเมืองท่าของอุรุกวัย ประเทศในอเมริกาใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความรุ่งเรืองก้าวหน้าในกลุ่มละตินอเมริกา ร่องรอยที่เชื่อมต่อระหว่างความเป็นประเทศละตินอเมริกาและประวัติศาสตร์การต่อสู้คือการก่อตั้งหอสมุดแห่งชาติขึ้น คำขวัญของหอสมุดนำมาจากคำขวัญของนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพคือ ‘ขอให้ชาวอุรุกวัยเรียนรู้ได้เสมอกับความกล้าหาญ(May the [Uruguayans] be as learned as they are brave)’ นอกจากนี้อุรุกวัยยังมีพื้นที่และวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์วรรณกรรม เช่น วัฒนธรรมและพื้นที่คาเฟ่ พื้นที่ที่นักเขียน นักการละครของประเทศมาใช้เวลาและพบปะพูดคุยเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของกันและกัน การถกเถียงในงานวรรณกรรมล้วนเกิดขึ้นในร้านกาแฟริมทาง ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดอันเป็นเอกลักษณ์ของดินแดนละตินอเมริกา
.
นอกจากวัฒนธรรมกาแฟและหอสมุดที่สัมพันธ์กับบริบทชาติแล้ว มอนเตวิเดโอ ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับการอ่านเขียน เช่น เทศกาลหนังสือ เทศกาลวัฒนธรรมนานาชาติ หนึ่งในนั้นคือเทศกาล Mundial Poético เทศกาลที่เมืองจัดขึ้น ตัวเทศกาลนี้เป็นเทศกาลของกวีที่จะรวมกวีจาก 21 ประเทศทั่วโลก เข้ามาร่วมกันทำกิจกรรม อ่าน พูดคุย แสดง ชมสารคดีและนำเสนอผลงานรวมถึงจัดเวิร์ตชอปด้านการประพันธ์ ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทำให้เมืองกลายเป็นจุดหมายของกวี และเป็นนครแห่งบทกวีในระดับนานาชาติ