วันพุธ, ธันวาคม 20, 2566

เปรียบเทียบร่างกฎหมาย ‘สมรสเท่าเทียม’ ๓ ฉบับที่เข้าสภา ของรัฐบาล ก้าวไกล และภาคประชาชน

พรุ่งนี้ ๒๑ ธันวา มีร่างกฎหมายเกี่ยวกับการสมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภา ๓ ฉบับ คือร่างของรัฐบาลเศรษฐาซึ่งเพิ่งเคาะออกมาเมื่อ ๑๙ ธันวา กับร่างของพรรคก้าวไกลที่เสนอไว้ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหา เป็นร่างเดียวกับที่เคยเสนอในสภาชุดก่อน ปี ๖๖

ยังมีร่างฯ ฉบับที่ ๓ ซึ่งเสนอโดยการเข้าชื่อของประชาชนเกิน ๑ หมื่นคน เรียกว่าฉบับ ภาคประชาชนได้รับการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสภาวันนี้ (๒๐ ธันวา) ร่างฯ ทั้งสามฉบับมุ่งหมายให้ “คนเพศเดียวกันสามารถสมรสกันได้”

โดยแก้ไขและเพิ่มเติมหลักการ “ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีสิทธิ หน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายหญิง สร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันครอบครัวที่มีความหลากหลายทางเพศ”

ฐานเศรษฐกิจรายงานเปรียบเทียบความเหมือนและต่างกันของทั้งสามฉบับ โดยรวบรวมจากข้อมูลต่างๆ ของ ภาคีสีรุ้ง ไอลอว์ และประกาศจากทำเนียบรัฐบาล ดังนี้

เริ่มจากประเด็นการหมั้น ฉบับประชาชนต่างจากเพื่อนๆ ไม่มีการแก้ไข “เนื่องจากเห็นว่า สามารถสมรสได้โดยไม่ต้องหมั้น” แต่เรื่องอายุการสมรส ดูเหมือน สมรักษ์ คำสิงห์ เป็นผู้มาก่อนกาล เพราะฉบับของรัฐบาลให้สมรสได้ตั้งแต่อายุ ๑๗ ปี

แต่ฉบับของก้าวไกลและประชาชน กำหนดให้สมรสได้เมื่ออายุ ๑๘ ปีเหมือนกัน เช่นเดียวกับกรณี ผู้รักษาการร่างกฎหมายนี้ ฉบับก้าวไกลและประชาชนให้รัฐมนตรีว่าการมหาดไทยว่าการเหมือนกัน แต่ของรัฐบาลให้นายกรัฐมนตรีรักษาการ

หลายส่วนฉบับของรัฐบาลเหมือนกับก้าวไกล ได้แก่การระบุเพศ ต่างให้เรียกว่าบุคคลสองฝ่าย ๒ คน ขณะฉบับประชาชนให้เรียกว่า ๒ บุคคล กับเรื่องบทเฉพาะกาล ทั้งรัฐบาลกับก้าวไกลไม่มีบทเฉพาะกาลและการแก้ไขก กม.อื่น แต่ฉบับประชาชนมี

ระยะเวลาบังคับใช้กฎหมายก็เหมือนกัน ของรัฐบาลและก้าวไกลให้ ๑๒๐ วันหลังประกาศราชกิจจาฯ ฉบับประชาชนกำหนดเพียง ๖๐ วัน รวมทั้งให้เปลี่ยนการเรียกบิดามารดาเป็นบุพการี ขณะฉบับรัฐบาลกับก้าวไกลยังคงเดิมตามกฎหมาย ป.พ.พ. ไม่เปลี่ยน

มีอยู่ประเด็นหนึ่ง ซึ่งทั้งสามฉบับระบุเหมือนกันหมด ก็คือสถานะหลังจากจดทะเบียนสมรส ให้เรียกบุคคลทั้งสองว่า คู่สมรสอย่างเต็มภาคภูมิ

(https://www.thansettakij.com/news/583768 และ https://twitter.com/MatichonOnline/status/1737280095746933174)