วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 26, 2568

จะ “เหาะเลยลงกา” หรือ ‘คางคกขึ้นวอ’ ก็พอกัน เมื่อเจาะจงถึงกรณี แม่ทัพภาค ๒ พล่ามสามหาวเรื่องยิงก่อนยิงหลัง เช่นเดียวกับ ตลก.รธน.อ้างยุบพรรคการเมือง แก้วิกฤตชาติ

คนแบบที่เขาเรียกกันว่า คางคกขึ้นวอมีความหมายครอบคลุมถึงกรณีที่ อจ.สมฤทธิ์ ลือชัย อธิบายอาการของแม่ทัพภาค ๒ ด้วยคำว่า “เหาะเลยลงกา” ที่รวมไปถึงกรณี ตลก.รธน.อวดอ้างศักดายุบพรรคการเมืองเพื่อแก้วิกฤตชาติด้วย

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค ๒ เดี๋ยวนี้เป็นคนดังเลยปากไม่อยู่สุข ล่าสุดพูดถึงกรณีพิพาทกับเขมร ในความเป็นไปได้ที่จะมีเสียงปืนโป้งป้างเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่รอยต่อ เนื่องเพราะการพิพาทยังไม่ยุติ ว่าถึงเรื่องใครยิงก่อนยิงหลังอย่างไร ต้องทำใจ

อันนี้ อจ.สมฤทธิ์ ได้วิเคราะห์อาการนายทหารกร่างไว้ว่า “ฝากให้แม่ทัพภาคที่ ๒ นำไปคิดน่ะครับ ด้วยความหวังดีว่า อย่าเหาะเลยลงกา” โดยอธิบายท้าวความไปยังวรรณคดีรามเกียรติ์ ตอนที่พระรามใช้หนุมานไปงานราชการที่ลงกา

หนุมานดันไปเผาลงกาเสียนี่ “จึงมีสำนวนที่ว่าเหาะเลยลงกาคือคนที่ทำงานเกินสั่ง ทำงานนอกคำสั่ง คนประเภทนี้ ไม่เหมาะที่จะใช้งาน ถ้าจะใช้ต้องกำหราบไม่งั้นจะเสียการ” ไม่ควรปากพล่ามสามหาว จะต้องไปท้าตีท้าต่อย ยั่วยุ

ฉันใดก็ฉันนั้น ในประเทศนี้นอกจากทหารแล้วยังมีบุคคลอีกประเภทที่ชอบเหาะ ข้าม ลงกาไปเสมอ เป็นพวกชอบจัดการเสียเอง ตามอำเภอใจนอกเหนือหลักการ ด้วยสำคัญตนเองผิดๆ ว่าตำแหน่งงานอาชีพสูงส่งอยู่เหนือคนส่วนใหญ่

จิรนิติ หะวานนท์ ตลก.รธน.คนหนึ่งได้ขึ้นบรรยายในโอกาสประชุมศาลรัฐธรรมนูญแห่งเอเซีย (AACC) อันมีตัวแทนจากนานาประเทศเข้าร่วม อันได้แก่ สาธารณรัฐทูร์เคีย และสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน เป็นต้น ในหัวข้อ ๓ ทศวรรษ ของศาล รธน.ไทย

เขายกตัวอย่างผลงานของศาล รธน.มากมาย รวมถึงการขยายบทบาทของศาลฯ เข้าไปสู่การยุบพรรคการเมือง ได้แก่ยุบพรรคที่เสนอชื่อพระราชวงศ์ชั้นสูงเป็นแคนดิเดทนายกฯ และพรรคที่มีการกู้ยืมเงินจากหัวหน้าพรรค เป็นต้น

เขาอ้างว่าการยุบพรรคเหล่านั้น เป็นบทบาทที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เข้ามาแก้ไขวิกฤตของชาติ ซึ่งเป็นการอ้างศักดาเกินจริง ในเมื่อเหตุแห่งการยุบพรรคทั้งสองครั้งดังตัวอย่างนั้น ไม่ใช่วิกฤตประเทศ หากเป็นพัฒนาการทางการเมืองซึ่งชนชั้นนำไม่สบอารมณ์

จึงต้องฟัง อจ.Prinya Thaewanarumitkul สอนสั่งในเรื่องหลักการที่ถูกต้อง ว่า “บทบาทหน้าที่หลักของ #ศาลรัฐธรรมนูญ คือ #ปกป้องสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญประเทศต่างๆ จึงไม่ยุบพรรคการเมืองกันง่ายๆ

เพราะการยุบพรรคการเมืองมิได้กระทบแค่กรรมการบริหารพรรค แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ กระทบสิทธิของประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรค และ #ประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองนั้น ถ้ามิใช่กระทำการถึงขั้นล้มล้างการปกครองอย่างที่พรรคทหารทำ

ถ้าเปรียบเทียบกับบริษัท “ศาลก็จะลงโทษผู้จัดการหรือกรรมการบริษัท ไม่ใช่ยุบบริษัท” ดังนั้น “การยุบพรรคการเมือง #แทบนับไม่ถ้วน จึงไม่ควรจะไปนับเป็นว่าป็นผลงาน”

(https://www.facebook.com/prinya.thaewanarumitkul/posts/9bUva4mPJ, https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/1217457/?bid=1 และ https://www.facebook.com/somrit.luechai/posts/ktcmwDNSCNFQ)