“มองบรรดาผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ ณ ปัจจุบัน ธนาคารที่น่าภาคภูมิใจในฐานะธนาคารที่เก่าเเก่ที่สุดในไทย ที่มีอายุกว่า ๑๑๕ ปี มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากที่สุดในวงการธนาคารไทยที่ ๒๒๘,๓๕๓.๔๕ ล้านบาท” นั้น
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (ทรงถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด) จำนวนหุ้น ๗๙๓,๘๓๒,๓๕๙ คิดเป็น ๒๓.๓๘%” อีกสองบรรษัทรองลงไป ถือหุ้นรายละ ๑๑.๕๖% เท่ากัน เท่ากับรวมกัน ๒๓.๑๒% เพราะทั้งคู่เป็น ‘กองทุนรวมวายุภักษ์’
โดยวายุภักษ์ ๑ ดำเนินการโดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด ส่วนวายุภักษ์ ๒ มี บลจ.กรุงไทย จำกัด เป็นบรรัทมหาชนทั้งคู่ ในวงวานว่านเครือ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ นอกนั้นอีก ๑๐.๒๐% เป็นของเอกชน กับสำนักงานประกันสังคม ถือแค่ ๓.๒๒%
“เว็บไซต์ผู้จัดการทำข่าวเจาะ” ว่า ‘ท็อป’ จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เป็นผู้ก่อตั้งซึ่งถือหุ้นรายใหญ่ของบิทคับ “เดินสายล้างสมอง” ชักชวนเยาวชนของชาติไปติดกับดัก ซูเปอร์แอ็พฯ ที่โตจากสตาร์ทอัพ เดี๋ยวนี้เป็นยูนิคอร์น แห่งนี้
เพราะ “ชักชวนให้คนมาซื้อขายเหรียญดิจิทัลที่ราคาผันผวนสูง” Thanapol Eawsakul ทบทวนข่าวว่า “ต่อมารายการ ‘สนธิทอล์ค’ ตอน แผนอำมหิตบิทคับ ที่ออกอากาศในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๕” ตอกย้ำซ้ำเติมว่า บิทคับก็คือบ่อนการพนันดีๆ นี่เอง
ไม่รู้ว่าเส้นสาย ‘บลูเวล’ ของสนธิ ลิ้มทองกุล เดี๋ยวนี้เหนียวแน่นขนาดไหน ถ้าเกิดมีการ ‘กริ้ว’ ขึ้นมาแล้ว จะพอทัดทานแรงกระหน่ำ ‘รัวใส่’ จากเครือข่ายตำหวด-ตะหานคอแดงได้ขนาดไหน หรืออาจจะโดนแค่ข้อหา ม.๑๑๒ ปักหลังไว้
เมื่อมีคนตรวจสอบสิ่งที่สนธิ ‘ท้อค’ พบว่า “ข้อมูลผิด” สนธิบอก พล.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็นประธานไทยพาณิชย์ “มีความสุขดีอยู่หรือ” ใช้เงินธนาคารซื้อบ่อนการพนัน Saiseema Phutikarn ชี้ว่าสถิตพงษ์เป็นแค่กรรมการเฉยๆ
“คนเป็นประธานกรรมการคือ วิชิต สุรพงษ์ชัย” ดังนั้นเอาข้อหา ‘ดิจิทัล เฟคนิวส์’ ตาม “พรบ.คอมฯ ไปอีกคดี ฮา ฮา”
(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/5336183646448431)
