เครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องบอยคอต กิจกรรมฟอกขาว งานรำลึกครบรอบ 30 ปี วีรชนพฤษภาคม 1992 เพราะมีผู้ที่มีบทบาทในการสังหารประชาชนในเหตุการณ์เมษายนและพฤษภาคม 2010 เข้าร่วม

Sa-nguan Khumrungroj
15h ·

วันนี้ เครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (People’s Network for Democracy: PNP) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นักกิจกรรม นักต่อสู้และนักวิชาการร่วมกันลงชื่อ เพื่อแสดงเจตจำนงไม่เข้าร่วมกิจกรรมการรำลึกครบรอบ 30 ปี วีรชนพฤษภาคม 1992 ในเวทีเดียวกันกับผู้มีบทบาทในการสังหารประชาชนในเหตุการณ์เมษายนและพฤษภาคม 2010 และผู้มีส่วนร่วมและสนับสนุนในการรัฐประหาร 2006 และ 2014
พร้อมทั้งเรียกร้องนักวิชาการชาวต่างชาติ งดเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

เครือข่ายฯแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งที่เห็นบรรดาผู้ได้รับเชิญกล่าวสุนทรพจน์และผู้ร่วมกิจกรรมบางท่าน ที่ผ่านมามีจุดยืนต่อต้านประชาธิปไตย หลายคนมีส่วนร่วมในการสังหารประชาชนในการสลายการชุมนุมเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2010 อีกด้วย

โดยเฉพาะ
* พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เป็นแกนนำคนสำคัญของการรัฐประหาร ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมระหว่างการสลายการชุมนุมเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2010 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 99 คน บาดเจ็บกว่าสองพันคน ในหลายๆ กรณีศาลได้ชี้ชัดว่าเป็นการตายที่เกิดจากปฏิบัติการของทหาร และจนถึงบัดนี้ไม่ได้มีความพยายามที่จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อการเปลี่ยนผ่านใดๆ เลย หลังจากการรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2014 พลเอกประวิตรยังสร้างระบอบเผด็จการแบบมีการแข่งขันเลือกตั้งผ่านรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยปี 2017 “ปล้นชัยชนะ” ในการเลือกตั้งโดยอาศัยวุฒิสมาชิกที่ไม่ได้ผ่านการเลือกตั้งอีก 250 คน
ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ประวิตรมีบทบาทอย่างยิ่งในการกดขี่ขบวนการสิทธิพลเมืองและสิทธิมนุษยชน ที่สำคัญ ยังเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับมิน อ่อง หล่าย ผู้ทำการรัฐประหารของพม่า ผู้ฉวยเอาอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ซึ่งพวกเผด็จการทหารพม่าได้ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติโดยใช้กองกำลังทหารสังหารและต่อสู้กับพลเมืองของตัวเอง ความร่วมมือระหว่างพวกเขา ได้ปรากฏชัด ทั้งในด้านการต่างประเทศและการทหาร

* อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการให้สลายการชุมนุมในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2010 ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากการสั่งยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งทำให้เขาได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ แม้จะไม่มีเสียงข้างมากในคราวแรกก็ตาม หลังการสังหารหมู่ประชาชนในช่วงเมษายน-พฤษภาคม 2010
เขาไม่เคยแสดงท่าทีเสียใจใดๆ เลย แถมยังให้สัมภาษณ์กับรายการ BBC ว่า “โชคร้ายที่มีคนตายบางส่วน”

* กษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ"พวกเสื้อเหลือง" มีบทบาทในการร่วมยึดสนามบินนานาชาติดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ต่อมาได้รับรางวัลตอบแทนเป็นเก้าอี้รัฐมนตรีและมีบทบาทในการแก้ต่างให้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ต่อประชาคมนานาชาติ

* พิภพ ธงไชย เป็นทั้งแกนนำของพวกพันธมิตรและเสื้อเหลือง และขบวนการ กปปส. ซึ่งเป็นขบวนการต่อต้านประชาธิปไตยที่ใหญ่และกว้างขวางที่สุด และมีส่วนทำให้เกิดการรัฐประหารในปี 2006 และ ปี 2014 สร้างความถดถอยแก่ประชาธิปไตยของไทย เขาไม่เคยกล่าวแสดงความเสียใจต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางของพวกคณะรัฐประหารเลย

บุคคลเหล่านี้จึงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด สร้างความถดถอยต่อสิทธิพลเมืองและสิทธิมนุษยชนโดยไม่ต้องสงสัย และคนพวกนี้ใช้กฎหมายบังคับขัดขวางการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2014 โดยเฉพาะพลเอกประวิตรเองซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายประชาธิปไตยของไทย แต่ยังสมคบคิดกับพลเอก มิน อ่อง หล่ายทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย

ดังนั้น เครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงใคร่ขอร้องให้ทุกท่านพิจารณาทบทวนพิธีกรรมและกระบวนการ"ฟอกขาว"ที่ไร้ยางอายนี้

(สำนักข่าวหงวน จัดให้)