อ้าว พอเหลาลงไป ไหงกลายเป็น ‘tanker’ ไปเสียฉิบ นึกว่าจะเป็น ‘think tank’ อย่างพวก CARE เค้า พูดอย่างนั้นชาวบ้านชาวช่องก็แห่ไปดูหลักสูตรของสาธิต มธ.กันสิ ว้าว หลักสูตรอย่างนี้หาไม่ได้ง่ายๆ นะในกะลาแลนด์ The MATTER เอามาช่วยขยาย
“โรงเรียนให้ความสำคัญกับการเคารพความหลากหลายทางความคิด และมุมมอง” แล้วยัง “มีเป้าหมายบ่มเพาะเยาวชน ให้มีจิตสำนึกพลเมืองที่เข้มแข็ง” โดย “ได้จัดการเรียนการสอน ให้เหมาะสมกับพัฒนาการของผู้เรียน” เอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
เช่น “วิชาวัยรุ่นศาสตร์ วิชาว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด วิชาอยู่รอดปลอดภัย วิชาวิถีศรัทธาที่ครอบคลุมศาสนาต่างๆ วิชาผู้ประกอบการ วิชารู้เท่าทันสื่อ วิชาเสพศิลป์และกลิ่นเสียง วิชารู้ทันการเงิน” เป็นอาทิ วิชาเหล่านี้พวกผู้ปกครองอ่านแล้วอยากกลับไปเรียนบ้าง
แต่ก็น่าเสียดายกลายเป็นหลักสูตรที่ ‘I tube’ ตั้งท่าสกัดเสียนี่ จะเพราะตัวเองมี ‘Mind set’ แบบถอยหาอดีต ทั้ง ‘ประวัติศาสตร์และสถาบัน’ นั่นละ ปัญหาก็คือ “หลักสูตรดีๆ แบบนี้” อยู่ในวงจำกัดของโรงเรียนประเภท ‘niche’ พิเศษจำเพาะ ไม่ใช่ทั่วประเทศ
เรื่องของ ‘มาย์เซต’ นี่มักจะแก้ยากหากไม่ค่อยเปิดโลกทัศน์ดูเขาดูเรา เมื่อปักใจแล้วก็ลากถูลู่ถูกัง แม้กระทั่งพวก ‘ทิ้งแท้ง’ ดังกรณีไก่จิกกันในเข่งฝ่ายค้านขณะนี้ ที่ทั้งติ่งทั้งที่ปรึกษาไม่มีใครยอมจบ ถึงขั้น ‘คุณนายแบก’ ไล่พรรคก้าวไกลออกจากฝ่ายค้าน
Kam Phaka@kamphaka ทวี้ต “คิดว่าทางออกที่ดีกับทุกฝ่ายคือ ก้าวไกล ออกจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตั้งตัวเป็นฝ่าย independent แล้วผลักดันทุกอะเจนด้าของตัวเองไปเลยเพราะพรรคอื่นๆ เล่นแต่การเมืองเชิงแท็คติก” พูดแบบนี้คลับคล้ายคลับคลานะ
ชาวทวิตภพคนหนึ่งบ่น “ผมเสียใจที่กลุ่มนี้ มีวุฒิภาวะและความคิดแบบนี้ แม้จะลบทวิตไปแล้วก็ตาม” Jesada Taksin@JesTaksino เอ่ยถึงโพสต์ของทีม ‘คิด เคลื่อน ไทย’ เรื่องกำเนิด ‘สลิ่มเฟส ๒’ ว่ามาจากเสื้อเหลืองเก่าและสลิ่มตาสว่างการเมือง
จน kaewmala (คนบ่ดีย์) .|||. @Thai_Talk #ส่องทวิตยามเช้าว่า “ไม่น่าเลยค่ะ แบบนี้ไม่ช่วยเลย วาทกรรมแบบนี้ลดทอนความเป็น think tank นะคะ” หนักกว่านั้นก็ของ Mister G@Gilg_kun บอกเป็น “ความทุเรศของ Content Care”
ขณะที่ Puangthong Pawakapan ถามถึงประเด็นร่าง กม.สุราก้าวหน้า ที่จะต้องเปิดอภิปรายใหม่ในวันพุธที่ ๙ กุมภานี้ ไม่บังเอิญเป็นร่างฯ ที่พรรคก้าวไกลเสนอ เพราะพรรคนี้เสนอกฎหมายไว้เยอะ “สมมติว่าพรรคเพื่อไทยยืนยันจะใช้ยุทธวิธีทำให้สภาล่ม” ต่อไป
คำถามก็คือ “จะทำแบบนี้กับร่าง พ.ร.บ.ที่ค้างอยู่ในสภาทุกฉบับหรือไม่ หรือเลือกทำกับบางฉบับ” เช่นที่ผ่านมาระหว่าง พรบ.สุรา กับ พรบ.คลองไทย พวงทองสมมุติอีก “ถ้าโชคดี เสียงส่วนใหญ่ไม่ให้รัฐบาลซื้อเวลา (เพราะดูเหมือนประชาธิปัตย์ก็สนับสนุนร่างฯ นี้)
สภาก็จะต้องลงมติรับหลักการ เท่ากับร่างนี้ผ่านวาระ ๑ (ได้) แล้ว” ยังจะบอยคอตไม่ให้ร่างผ่านได้ด้วยเสียงหนุนของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่อีกไหม แล้วก็ถ้าฝ่ายรัฐบาลใช้วิธีระดมพลไปโหวตให้ต้องส่งร่างนั้นไปให้ ครม.พิจารณษอีก ๖๐ วัน ล่ะ
“แต่หากผ่านไป ๖๐ วันแล้ว ประยุทธ์ก็ยังไม่ยุบสภาล่ะ เท่ากับเราเสียโอกาสที่จะผลักดันกฎหมายที่ประชาชนได้ประโยชน์ใช่ไหม” อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ถาม แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าพรรคเพื่อไทยใช้ตรรกะชนิดที่ ภูมิธรรม เวชยชัย@phumtham สั่งสอน ‘โรม’ หรือไม่
ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยทวี้ตไว้ว่า “การใช้ตรรกกะอย่างที่โรมอธิบาย...ไม่ควรเลือกใช้อธิบายเฉพาะสิ่งที่ตนเองได้ประโยชน์ ตรรกกะที่ดี ต้องใช้อธิบายความเชื่อของตนได้ทุกเรื่อง จึงจะเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือและยอมรับได้”
อดีตรัฐมนตรีพาดพิงข้อที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกลกล่าวถึง ‘การเล่นเกมสภาล่ม’ เพื่อหวังให้รัฐบาลประกาศยุบสภานั้น “เปรียบเหมือนการขี่ช้างจับตั๊กแตน” เพราะที่ผ่านๆ มาก็มีสภาล่มแล้วหลายครั้ง แม้ครั้งหนึ่งเสียงไว้วางใจน้อยเกือบสุด ประยุทธ์แค่ยักไหล่
การเลือกทำสภาล่มเฉพาะบางร่างกฎหมาย แล้วทำให้ร่างฯ ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน มากกว่าร่างฯ ที่ยังไม่เป็นร่าง “ทำไมหลายคน..เข้าใจยากจัง!!!” (ขอยืม Tweet quote @phumtham มาใช้หน่อย) ฉะนั้นฟัง Tha iLaw (ถา ไอลอว์) @tha_ilaw เอาไว้
“ถ้าคิดถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ก็คุยกัน ไม่ได้บอกให้สามัคคี รักใคร่กลมเกลียว แค่ให้คุยกัน ถ้าเชื่อว่า รัฐบาลเสียงแตก คุมไม่ได้ แล้วฝ่ายค้านมีโอกาสโหวตชนะเพื่อให้ประชาชนได้อะไร ก็ควรเข้า” ประชุมรอบหน้า นะตะเอง
(https://www.facebook.com/puangthong.r.pawakapan/posts/5104436349607083, https://thematter.co/social/satit-tu/104705 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_3167156)
