Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
16h ·
[ ปัญหาการจัดการขยะ ต้องเริ่มต้นที่ "นายทุน" ]
.
เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก ว่าในเขตปทุมวัน ซึ่งเป็นเขตที่มีห้างสรรพสินค้า โรงแรม ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บขยะได้เพียง 11 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก
.
ปัจจุบัน นายทุน และผู้ประกอบกิจการขนาดใหญ่ที่ผลิตขยะวันละ 500 ลิตร - 1 ลูกบาศก์เมตร จะเสียค่าจัดเก็บและกำจัดขยะทั่วไปเพียงเดือนละ 5,100-6,750 บาท เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำกว่าต้นทุนในการจัดการขยะอยู่มาก
.
ด้วยเหตุนี้กรุงเทพมหานครจึงควรทบทวนแก้ไขข้อบัญญัติ เพื่อปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บ และกำจัดขยะ ในกลุ่มผู้ประกอบการ หรือนายทุนขนาดใหญ่ ให้สมเหตุสมผลขึ้น ไม่ควรจัดเก็บในอัตราที่ต่ำกว่าต้นทุนแบบนี้
.
ทุกๆ คนทราบดีว่า วิธีการบริหารจัดการขยะที่ดีที่สุดก็คือ "การคัดแยกขยะ"
.
ขยะในพื้นที่กรุงเทพมหานครวันละ 10,000 ตัน มีขยะเปียกที่เป็นขยะจากอาหารถึง 45.41% โดย 39% ของขยะจากอาหารทั้งหมดมาจากนายทุนธุรกิจบริการ และธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ราย (อีก 61% มาจากภาคครัวเรือน)
.
ดังนั้นมาตรการการคัดแยกขยะ จึงควรเริ่มอย่างจริงจังที่กลุ่มนายทุน โดยการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บ และกำจัดขยะ ในกลุ่มนายทุน และผู้ประกอบการขนาดใหญ่ โดยมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวนี้ให้ หากผู้ประกอบการมีมาตรการในการคัดแยกขยะ ที่มีประสิทธิผล
.
การคัดแยกขยะ จะทำให้การรีไซเคิลขยะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำเอาขยะไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงได้ เตาเผาขยะก็สามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะลดกลิ่นจากการเผาขยะลงได้ ประชาชนที่มีบ้านอยู่ใกล้กับโรงกำจัดขยะ หรือบ่อขยะ จะเข้าใจความทุกข์ร้อนจากกลิ่นขยะเป็นอย่างดี
.
การปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บและกำจัดขยะในกลุ่มนายทุน จะทำให้กรุงเทพมหานคร ลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะลง และจะทำให้ ค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บและกำจัดขยะ ที่เรียกเก็บจากครัวเรือน ไม่ต้องมีอัตราที่สูงนัก
.
การคัดแยกขยะ หักเริ่มต้นที่ไหนทุนก็จะสามารถจัดการกับขยะเปียก หรือขยะจากอาหารได้ถึง 39% จากนั้นจึงขยายมาตรการในการคัดแยกขยะไปยังระดับครัวเรือนต่อไป
.
"การจัดการกับขยะ ในกรุงเทพมหานคร ต้องเริ่มต้นจากนายทุน"
.
นอกจากนี้ ปัญหาการจัดเก็บขยะอีกปัญหาหนึ่ง ที่กระทบกับการอยู่อาศัยของประชาชนเป็นอย่างมาก ก็คือ ในหลายพื้นที่มีการจัดเก็บขยะที่ห่างขึ้น จากปกติที่จัดเก็บขยะสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็เหลือเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือน้อยกว่านั้น
.
ยิ่งการจัดเก็บขยะทางเรือ นี่ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะหากไม่จัดเก็บขยะอย่างทันท่วงที ขยะก็อาจจะถูกลม หรือฝนพัด หล่นลงไปในคูคลอง ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับสถานีสูบน้ำ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลดลงอีกด้วย
.
จากการตรวจสอบปัญหาของผม และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคก้าวไกล พบว่าหลายเขตลดการจัดจ้างเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะลง นอกจากจำนวนเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะที่ลดลงแล้ว ยังพบปัญหาการดูแลด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่อีกด้วย ทั้งในด้านสุขอนามัย และด้านการป้องกันสารพิษ และของมีคม ซึ่งจากสถิติ พบว่ามีเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะถูกของมีคมบาดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในประเด็นดังกล่าวนี้ กรุงเทพมหานคร ควรมีการจัดจ้างเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะในแต่ละเขตให้มีจำนวนที่เพียงพอต่อการให้บริการประชาชน พร้อมกับจัดอุปกรณ์ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ให้พร้อมสรรพกว่าที่เป็นอยู่
.
พร้อมกับตรวจสอบให้มั่นใจว่าเบี้ยเลี้ยง และค่าล่วงเวลา นั้นตกถึงมือเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ต้องแบ่งจ่ายส่วยให้กับใคร ให้เสียกำลังใจในการทำงาน
.
#พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพ
"อ.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร"ผู้สมัครผู้ว่าฯกรุงเทพฯจากพรรคก้าวไกล พร้อมชนปัญหา"ส่วย"และ"การทุจริต" ด้วยระบบที่โปร่งใส
— ประชาชนปลดแอก เผด็จการหน้าโง่ (@theeraphon008) February 22, 2022
Cr.Fการเมือง👍👍👍👍 EP.1 #วิโรจน์ลักขณาอดิศร #ก้าวไกล pic.twitter.com/pI7FdbOxZ9
