วันพุธ, กุมภาพันธ์ 23, 2565

พีมูฟจัดกิจกรรมเรียกร้องหยุดใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปิดปากผู้เรียกร้องสิทธิประชาชน


iLaw
13h ·

พีมูฟจัดกิจกรรมเรียกร้องหยุดใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปิดปากผู้เรียกร้องสิทธิประชาชน
.
22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-Move (พีมูฟ) จัดกิจกรรมพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปิดทางแก้ปัญหาฉุกเฉินชาวบ้าน ที่หน้าสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร ถนนพิษณุโลก เพื่อเรียกร้องให้ถอนคดีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สองคดี คดีที่หนึ่งมีผู้ถูกกล่าวหา 11 คน และคดีที่สองมีหกคน ก่อนเริ่มกิจกรรมตำรวจมีการวางแผงเหล็กกั้นที่บริเวณพาณิชยการพระนครและศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
.
ลำดับเหตุการณ์
.
08.22 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนรวมตัวกันหน้าศาลกรมหลวงชุมพร เนื่องจากบนสะพานชมัยมรุเชฐ และหน้าทำเนียบรัฐบาลมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกากีและชุดควบคุมฝูงชน ตั้งแผงเหล็กปิดการจราจรสามชั้น
.
09.18 น. ที่แยกพาณิชยการ จำนงค์ หนูพันธ์ ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง ถึงการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาควบคุมการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชน
.
“พวกผมมาในวันนี้ เพื่อให้รู้ว่ารัฐบาลไม่จริงใจ ตลบตะแลง ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริงแม้บางเรื่องจะเห็นชอบในครม.แล้วก็ตาม เราไม่ได้มาเพื่อให้แก้ปัญหาระดับพีมูฟ แต่มาเพื่อให้แก้ระดับนโยบายในทุกเรื่องของพี่น้องที่เดือดร้อนหนี้สินของพี่น้องทุกกลุ่มซึ่งไม่ได้เกิดจากพี่น้องเองแต่เกิดจากการบริหารประเทศที่ล้มเหลว”
.
ระหว่างการปราศรัย เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ชุดกากียืนประจำการอยู่
.
10.31 น. จำนงค์ประกาศเรียกผู้ชุมนุมตั้งขบวนลงถนนเตรียมฝ่าแนวกั้นแนวแรกที่หน้าพาณิชยการพระนคร จากนั้นเดินฝ่าแนวไปประชิดแนวรั้วข้างศาลกรมหลวงฯ ก่อนถึงแยกพาณิชยการ เวลา 10.36 น. ตำรวจชุดกากีประชิดแนวรั้วที่ศาลกรมหลวงฯ ประกาศให้ออกจากแนว มิเช่นนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย ขอความร่วมมือให้ผู้จัดกิจกรรมดูแลพี่น้องให้อยู่หลังแนวแผง
.
เวลา 10.37 น. ตำรวจในชุดควบคุมฝูงชนเริ่มเข้ามาสมทบที่ด้านหลังแนวตำรวจชุดกากีศาลกรมหลวงฯ จำนงค์ประกาศว่า เราต้องยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้ได้ ที่ผ่านมาประชาชนเพียงมาเรียกร้องแต่กลับถูกดำเนินคดี ระหว่างนี้ตำรวจนำลวดหนามหีบเพลงมากางปิดเสริมแนวบนสะพานชมัยมรุเชฐ
.
เวลา 10.44 น. จำนงค์ประกาศให้ตั้งเวทีที่หน้าแนวศาลกรมหลวงชุมพรฯ มีการผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย โดยเวทีมีผู้เข้าร่วมเสวนาจัดข้างรถเครื่องเสียง มีการแขวนป้ายผ้าข้อความ “ปลดปล่อยอิสรภาพยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งหมดห้าคน
.
ต้นอ้อ จากกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เยาวชนผู้ถูกดำเนินคดีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และได้รับหมายเรียกถึงหกหมายเรียก ระบุว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นเครื่องมือของทางรัฐบาลที่ใช้ในการควบคุมประชาชนและโจมตีผู้ชุมนุม เนื่องจากเมื่อได้รับหมายเรียกคดีต้องเดินทางไปศาลและสถานีตำรวจ ก่อให้เกิดภาระทางค่าใช้จ่ายทางการเดินทาง ต้องสละเวลาในการทำสิ่งต่างๆ อย่างมาก โดยผลกระทบในเรื่องนี้ ไม่ได้ทำให้เพียงต้นอ้อได้รับผลกระทบ ซึ่งผลกระทบในเรื่องนี้ส่งไปถึงคนในครอบครัวด้วย ต้นอ้อยังระบุถึงสาเหตุที่ควรยกเลิกการใช้กฎหมายดังกล่าวว่า รัฐบาลอย่าทำให้เยาวชนไม่เห็นอนาคตตัวเองมากกว่านี้
.
จันทร์ จากกลุ่มเยาวชนบางกลอยคืนถิ่น เธอเป็นเพียงผู้เเปลเนื้อความคำพูดของคุณเเม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ เนื่องจากเป็นคนกระเหรี่ยง จันทร์ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการรับหมายคดีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า “รู้สึกเฉยๆ กับการโดนหมายเรียก เพราะรู้อยู่เเล้วว่าต้องโดน ไม่ช้าก็เร็ว” และจันทร์ยังเสริมว่า ตนหมดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ เนื่องจากเเม่ของจันทร์โดนจับและน้องของตนต้องถูกพรากไปสู่สถานสงเคราะห์ เพียงเพราะขึ้นปราศรัยพูดเกี่ยวกับปัญหาการกดขี่และการละเมิดสิทธิเพียงเท่านั้น
.
อย่างไรก็ตาม การที่จันทร์ได้รับหมายเรียก ก็ส่งผลความลำบากในการเดินทางและมีภาระค่าใช้จ่าย เนื่องจากต้องเดินทางจากบางกลอยบน ไปยังแก่งกระจาน
.
จันทร์กล่าวถึงสาเหตุที่ควรยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีเพื่อเพื่อกดขี่ และทำให้พี่น้องเสียเวลาในการชุมนุม แต่ความพยายามนั้นไม่มีผลหากพี่น้องเรายังต้องการออกมาต่อสู้ออกมาเรียกร้อง
.
น้อง จากกลุ่มพีมูฟ ได้รับหมายเรียกจากการชุมนุมที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) น้องระบุว่า “มีสามข้อที่รู้สึกไม่พอใจ ข้อแรก รัฐบาลชุดนี้ อ้างว่าตัวเองเข้ามาถูกต้องชอบธรรม และยังออกกฎหมายที่ปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ข้อสอง รัฐบาลไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องของสิทธิของประชาชน สิทธิมนุษยชน ประการสุดท้าย รัฐบาลชุดนี้ไม่เข้าใจปัญหาและข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม และไม่มีความจริงใจในการเเก้ปัญหา “
.
การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของรัฐบาลนั้น มีเจตนาในการใช้อำนาจเกินขอบเขต ทางพีมูฟจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและยังคงชุมนุมต่อไปหากยังไม่มีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
.
11.53 น. หลังยุติวงเสวนา มีการอ่านกวีและแสดงละครพีมูฟเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชนและกลุ่มชาติพันธ์ และเรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
.
12.14 น. กลุ่มพีมูฟเริ่มอ่านแถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเรื่อง ปลดปล่อยอิสรภาพประชาชน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยประกาศจุดยืนว่า
.
1. เรายืนยันว่าการชุมนุมติดตามการแก้ไขปัญหาของพีมูฟเป็นไปตามหลักสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ตามหลักการประชาธิปไตยที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญทุกฉบับและหลักสิทธิมนุษยชนสากล ไม่ควรถูกจํากัดด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉะนั้น เราจะไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียก ที่นัดหมายให้เราต้องเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้
.
2. เราขอเรียกร้องให้ยกเลิกการออกหมายเรียกตัวแทนพีมูฟและนักเคลื่อนไหวทั้ง 16 คนโดยทันทีและต้อง ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการจำกัดสิทธิของประชาชน
.
3. หลังจากนี้พีมูฟจะประสานงานเครือข่ายทั่วประเทศเพื่อติดตามให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไป เพื่อปลดปล่อยอิสรภาพของพวกเราในนามประชาชนให้ สามารถมีสิทธิ มีเสียงบนแผ่นดินประเทศนี้อย่างแท้จริง
.
ระหว่างอ่านแถลงการณ์ ทางกลุ่มพีมูฟนำนกพิราบผู้ร่วมกิจกรรมปีนข้ามรั้วแผงเหล็กหนึ่งชั้น เดินไปเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ ก่อนปล่อยนกพิราบทั้งหมดสู่อิสรภาพ
.
12.30 พ.ต.อ. สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับสน.นางเลิ้ง กล่าวกับผู้ชุมนุมพีมูฟถึงการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประมวลอาญา มาตรา 215 ว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายหากมีอะไรผิดพลาดหรือหากคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งให้โทษตนเท่านั้นรวมถึงการจัดกิจกรรมครั้งก่อนมีคนติดโควิด-19
.
“…มวลชนกลุ่มต่างๆที่มาแจ้งปัญหาความเดือดร้อน ตัวแทนรัฐบาลได้พยายามส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเจรจาพูดคุยด้วยตลอด ตั้งแต่การชุมนุมที่เกาะกลางถนน หน้าสำนักงาน UN ได้กีดขวางการจราจร ทางเราก็ได้อำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยพี่น้องมวลชนตลอดมา จนกระทั่งท่านยกระดับการชุมนุมเคลื่อตัวจากหน้า UN มายังหน้าถนนพิษณุโลกเราก็พยายามประชาสัมพันธ์ไม่ให้ผู้ชุมนุมและแกนนำยึดถนนพิษณุโลกเป็นพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความแออัด และส่งผลกระทบให้กับประชาชน ทั้งนักเรียนนักศึกษา เรียนในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระนคร และเรียนในโรงเรียนราชวินิตมัธยม มันจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มีสิทธิใช้ทางในการสัญจรไปมา”
.
“ผมประกาศแจ้งเตือนทุกครั้งในขณะที่ท่านเดินขบวนหรือพยายามฝ่าฝืนคำสั่งของผม สิ่งที่ผมต้องตัดสินใจดำเนินคดีแก่ท่าน ขอให้ชัดเจนว่ามันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงว่า ผู้มาร่วมชุมนุมในกลุ่มผู้ชุมนุมมีคนติดโควิด-19 ผมจึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย…”
.
“สิ่งที่ผมทำนั้นยึดตามหลักข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ถ้าเกิดสิ่งที่ผมทำไม่ถูกต้องพ่อแม่พี่น้องขอให้มาลงที่ผม ผมพร้อมจะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ถ้าผมใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในการกลั่นแกล้ง ทำให้ผู้ชุมนุมเดือดร้อนขอให้มาลงที่ผมนะครับ ผมพร้อมรับผิดชอบ ชี้แจงทุกอย่าง ทุกอย่างมีช่องทางทางกฎหมายอยู่ ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติของผมไม่ถูกต้องท่านก็มีช่องทางในการร้องทุกข์ ในการร้องเรียนผม ผมพร้อมรับผิดชอบชี้แจงทุกอย่าง ทุกอย่างมีการถ่ายภาพ มีการทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ทุกงาน”
.
จำนงค์ หนูพันธ์ กล่าวแย้งว่าการมาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลหรือการมาที่หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติในครั้งก่อนนั้นเพราะปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไข และตั้งคำถามถึงการใช้กฎหมายแก่ผู้มาร่วมให้กำลังใจและเยาวชนนั้นว่าถูกต้องหรือไม่
.
13.00 น. มีการแสดงดนตรีจากน้ำ คีตาญชลี ก่อนจะจบกิจกรรม และพบนัดหมายอีกครั้งในวันที่ 1 มีนาคม 2565 ที่สน. นางเลิ้ง
.
Chanakarn Laosarakham