เรื่องขัดแย้งของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ต้องเข้าใจว่า มันเลี่ยงไม่ได้ มันมีความแตกต่างเยอะมาก - ใบตองแห้ง

ภาพจากประชาชาติ

Atukkit Sawangsuk
9h ·

เรื่องของพรรคเพื่อไทย Vs พรรคก้าวไกล
หลายคนไม่สบายใจ หลายคนก็ท้อ
ขณะที่ติ่งแบกก็ไพล่ไปด่า "สลิ่มเฟส 2"
สื่อหรือ Influencer ฝ่ายประชาธิปไตยก็กระอักกระอ่วน ไม่อยากพูดถึง กลัวกระทบการเมืองใหญ่ไล่ประยุทธ์
ที่จริงไม่ถูกนะ มันต้องพูดกันตรงๆ ให้เป็นบทเรียน ให้รู้จักปรับตัว
..............
ขอลำดับความอีกครั้งหนึง ถ้าใครเห็นว่าไม่ตรง ก็แย้งได้
1.สภาพิจารณาร่าง พรบ.สุราก้าวหน้า ซึ่งเสนอโดยพรรคก้าวไกล ได้เสียงเชียร์จากประชาชนจำนวนมาก คราฟท์เบียร์ได้ประโยชน์โดยตรง คนส่วนใหญ่ก็เห็นว่า ต้องปลดล็อกการผูกขาด กระตุ้นเศรษฐกิจ ส.ส.รัฐบาลก็เห็นด้วยหลายคน
แต่สภาล่ม! ไอ้เอี้ย แม่- คนด่าขรม ด่าทั้งติ่งส้มติ่งแดงแหละเพราะคิดว่า ส.ส.รัฐบาลหลังยาว
................
2.จากนั้น iLaw ก็ไปขุดว่า ส.ส.พรรคไหนไม่เข้าประชุม
ปรากฏว่า เพื่อไทยนี่หว่า หายเกินร้อย 131 คน แสดงตนแค่ 14
คนก็ฮือด่าเพื่อไทย เฮ้ยทำงี้ได้ไง
.................
3.ที่ด่าเพื่อไทยคือกระแสสาธารณะ ไม่ใช่ก้าวไกล
หลังสภาล่ม เท่าพิภพก็เพียงออกมาเสียดายว่า ขาดไป 3 คน
แต่เพื่อไทยร้อนก้น ออกมาบอกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติไม่แสดงตน เพื่อให้สภาล่ม เพื่อให้ประยุทธ์ยุบสภา และแอนตี้การที่ต้องส่ง กม.ให้ ครม.พิจารณา 60 วัน
จากนั้นก็สร้างกระแสกล่าวหาว่าก้าวไกลแทงข้างหลัง เอาดีใส่ตัว ฯลฯ
..................
4.มันเป็นกฎหมายที่เสนอโดยก้าวไกล เขาจะไม่แสดงตนได้อย่างไร
โรมก็บอกว่า ก้าวไกลแจ้งพรรคร่วมแล้วไง ขอเข้า
(ก่อนหน้านั้นมีการพิจารณาแก้ธรรมนูญศาลทหารโดยพรรคประชาชาติ ก้าวไกลก็เข้า เข้าใจว่าเพื่อไทยก็เข้านะ คงเห็นแก่วันนอร์)
คุณจะบอกว่านี่สลิ่ม นี่แทงข้างหลังเพื่อน?
จรรยาบรรณพรรคการเมือง เมื่อเขาเสนอกฎหมาย เขาต้องร่วมโหวต
แล้วย้อนไปอ่านข้อ 3 กระแสที่ฮือขึ้นมาด่าเพื่อไทยคือคนสนับสนุน พรบ.สุราก้่าวหน้า
....................
5.เพื่อไทยอ้างว่า โอ๊ย กม.ฝ่ายค้านแพ้อยู่ดี
ส่ง ครม.ก็เตะถ่วง คุณก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ผ่าน ไปเข้าประชุมทำไม
เออ ก็ให้ประชาชนเขาด่ารัฐบาลสิ
ไม่ใช่ด่าคุณเพราะทำสภาล่มจนกฎหมายไม่ผ่าน
ตรรกะทุเรศน่ะ
แล้วทำให้เห็นความทุเรศดันทุรังของติ่งหลายคนที่เผยตัวอย่างชัดเจน
........................
6.พรรคก้าวไกลได้ที สวนหมัด ทำไมเพื่อไทยเข้าโหวตคลองไทย
โดยซัดว่าญัตตินี้มันไม่ชอบมาพากล
ก้าวไกลเลยเข้าโหวตมั่ง คว่ำเสียเลย
แล้วก็ประกาศว่าต่อไปนี้จะเข้าโหวตเพราะทำสภาล่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า ประยุทธ์ก็ไม่ยุบสภา
(ซึ่งปัญญาอ่อนมากนะ ที่คิดว่าล่มสภาแล้วจะยุบ อันนี้ก้าวไกลก็ไม่น่าร่วมลงมติแต่แรก)
........................
7.ก้าวไกลน่าจะมอง(ด้วยความไม่พอใจ-ไม่ไว้วางใจ)ว่า ร่างกฎหมายที่เหลือส่วนใหญ่ เสนอโดยก้าวไกล เพื่อไทยจึงไม่ร่วมมือ
เช่นแก้ พรก.ฉุกเฉิน โดยโรม ร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียม โดยธัญวัจน์ ร่าง พรบ.วินัยการเงินการคลัง กฤษฎีกา จัดสรรที่ดิน ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ พรบ.คอมพิวเตอร์
.......................
8.เพื่อไทยคิดว่ารบกับก้าวไกล แต่ไม่ใช่
คนที่ไม่พอใจคือ ประชาชนที่สนับสนุนกฎหมาย
ซึ่งไม่สามารถโบ้ยว่า อ๋อ รัฐบาลมันไม่ผ่านให้หรอก (เราล่มเองดีกว่า)
หรือไล่ตู่ก่อน เดี่ยวแลนด์สไลด์กลับมา เราจะแก้ให้
.........................
9.เพื่อไทยควรจะรู้ตัว ขอโทษประชาชน แบบคนปีนขึ้นโต๊ะ
ประกาศว่าต่อไปนี้กฎหมายหรือญัตติที่เป็นประโยชน์ประชาชน เป็นผลงานของสภา ที่ ส.ส.ช่วยกันทำมา เราจะโหวตให้
ปรากฎว่าท่านผู้นำฝ่ายค้าน แถลงผ่านทวีตไปซะแล้ว
หาว่าฝ่ายค้านที่ไปเป็นองค์ประชุมสนับสนุนตู่อยู่ต่อ หรือสร้างคะแนนนิยม
ก็ทำสภาล่มต่อไป
รอบหน้า ก้าวไกลเสนอสมรสเท่าเทียม ก็ทำสภาล่มอีกนะ
คอยดูว่า LGBTQ จะด่ารัฐบาลหรือด่าใคร
.......................
10.ทิ้งท้าย สองพรรคมาถึงขั้นที่ไม่ไว้วางใจกันแล้ว มองกันในแง่ลบ
ผมเคยนั่งทั้งสองวง รู้สึกได้ถึงกลิ่นอาย แบบคนมันจะลงสนามเลือกตั้ง ต้องเอาชนะไม่ว่าคู่แข่งหน้าไหน
เคยแหย่ถามทำไมไม่นั่งคุยกันมั่ง
แบบตั้งวงกินข้าวกินไวน์ระหว่างคนที่เคยรู้จักกัน 4-5 คน
ด่ากันให้โขมงโฉงเฉงไปเลย อันไหนเคลียร์ได้ก็เคลียร์ อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ช่างมัน ให้รู้ว่าเป็นจุดต่าง
คำตอบมักบ่ายเบี่ยงไปทางไหนก็ไม่ทราบ รู้ละ ไม่คุย
.........................
11.สถานการณ์แบบนี้ ที่สองพรรครบกัน ติ่งสองฝ่ายรบกัน
แม้ด้านหนึ่งต้องเข้าใจว่า มันเลี่ยงไม่ได้ มันมีความแตกต่างเยอะมาก
แต่ "ภาคประชาชน" หมายถึงคนฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหลาย
ก็อย่าเอาแต่ท้อ หรือคิดกลบเกลื่อนความขัดแย้ง (มองไปที่อภิปรายตู่ดีกว่า)
ต้องวิจารณ์กันครับ ถูกผิดก็ซัดไปเลย เพื่อให้ปรับเปลี่ยน
พรรคการเมืองเป็นของประชาชน ถ้าหลงอยู่กับติ่งตัวเองก็พัง