บ.คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บ.อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินการเหมืองทองอัครา ออกคำชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียถึงขึ้นตอนการกลับมาเปิดเหมืองชาตรี โดยส่วนหนึ่งระบุว่าคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้เลื่อนคำชี้ขาด "คดีเหมืองทองอัครา" ออกไปโดยไม่มีการกำหนดวัน
รายงานประจำไตรมาส (รอบสิ้นสุด ณ เดือน ธ.ค. 2564) ฉบับดังกล่าวเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ บ.คิงส์เกตฯ เมื่อช่วงเวลา 13.00 น. ตามเวลาในไทย มีการรายงานถึงความคืบหน้าในความพยายามเปิดเหมืองชาตรีอีกครั้งหลังจากถูกรัฐบาลไทยสั่งปิดโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 72/2559 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2559 และมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค. 2560 ประกอบด้วย
1. บ.คิงส์เกตฯ ได้รับใบอนุญาตแปรรูปโลหกรรม (Metallurgical Processing Licence--MPL) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยมีอายุ 5 ปี จนถึงวันที่ 18 ม.ค. 2570
คิงส์เกตระบุรัฐบาลอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่ 4 แปลง ปูทางสู่การเปิดเหมืองชาตรีอีกครั้ง
"คิงส์เกต" เผย รัฐบาลไทยอนุญาตเอากากแร่ทองและเงินออกขายได้
อนุญาโตตุลาการเตรียมตัดสินข้อพิพาท ไทยต้องจ่าย 3 หมื่นล้านบาทให้คิงส์เกตหรือไม่
คสช. ออกคำสั่งยกเลิก 3 องค์กร-ระงับกิจการเหมืองแร่ทองคำ
2. นอกจากนี้ ยังมีประทานบัตรเหมืองแร่ 4 แปลงที่เพิ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไทยในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย แปลง (1) 26910/15365 แปลง (2) 26911/15366 แปลง (3) 26912/15367 และแปลง (4) 25528/14714 ซึ่งจำเป็นต่อการดำเนินการเหมืองชาตรี แปลงดังกล่าวประกอบด้วย ประทานบัตรเหมืองชาตรีใต้ 3 แปลงและเหมืองแร่ควอตซ์ 1 แปลง ซึ่งเฉพาะเหมืองแร่ควอตซ์รอการอนุมัติมาตั้งแต่ปี 2554 และจำเป็นในการใช้งานบ่อเอ (A Pit) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. ประทานบัตรเหมืองแร่แต่ละแปลงมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 10 ปี นับจากวันที่ 31 ธ.ค. ปีที่แล้ว ทั้งนี้ การได้รับใบอนุญาตแปรรูปโลหกรรมและประทานบัตรเหมืองแร่ดังกล่าว หมายถึงว่า ในขณะนี้มีความเป็นได้ที่เหมืองทองคำชาตรีจะได้กลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง
4. บ.คิงส์เกตฯ มีความยินดีที่จะแจ้งยืนยันว่า จากคำอนุมัติดังกล่าว รัฐบาลไทยได้ต้อนรับการกลับมาดำเนินกิจการในเมืองไทยของบริษัทฯ แล้ว ทั้งยังเห็นพ้องด้วยว่า เหมืองทองคำชาตรีจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง
5. สำหรับกรณีพิพาทกับราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับการประกอบกิจการเหมืองทองของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทย-ออสเตรเลีย หรือ TAFTA ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศนั้น คณะอนุญาโตตุลาการฯ ได้ให้คำแนะนำมาว่า คณะจะเลื่อนการอ่านคำชี้ขาดออกไปจนกว่ากระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ จะแล้วเสร็จ และระงับคำชี้ขาดโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
6. การเลื่อนคำชี้ขาดดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ให้เงินทุนต่าง ๆ และให้มีเวลาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งกระบวนการทางกฎหมายเพื่อระงับปัญหาจำนวนหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาเชิงปฏิบัติการ และปัญหาบางส่วนที่เกิดขึ้นก่อนการปิดเหมืองชาตรี
7. ประเด็นสำคัญ คือ การอนุมัติที่จำเป็นทั้งหมดนี้มากจากรัฐบาลไทย และสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไปจะมุ่งเน้นไปที่การเปิดเหมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
กพร. เผย เลื่อนออกไปเพื่อเจรจาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับเว็บไซต์เดลินิวส์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการเจรจาขอเลื่อนการออกคำชี้ขาดคดีข้อพิพาทฯ ออกไปก่อน ซึ่งภายในสัปดาห์นี้จะมีการเจรจาอีกครั้งว่าจะเลื่อนออกไปอีกระยะเวลาเท่าไร เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพื่อให้มีเวลาการเจรจารายละเอียดที่เหลือร่วมกันให้เรียบร้อย
"คาดว่าการเลื่อนการเจรจาครั้งนี้ออกไปอีกครั้ง ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพื่อให้มีเวลาเจรจารายละเอียดที่เหลือร่วมกัน เชื่อว่าจะตกลงกันได้ด้วยดี และถ้าตกลงกันได้แล้วเรื่องการฟ้องร้องก็น่าจะจบลงด้วยดีเช่นกัน เพราะไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นร่วมกันอีก" อธิบดี กพร. กล่าวกับเดลินิวส์
อ่านต่อที่ https://www.bbc.com/thai/thailand-60194064
คิงส์เกตรีสตาร์ตเหมืองทอง พลิกขาดทุนทำกำไร 300 ล้าน
30 มกราคม 2565
ประชาชาติธุรกิจ
“คิงส์เกต” แจ้งเหมืองทองคำพร้อมกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังถูกคำสั่ง คสช.หยุดไป 5 ปี ชี้รัฐบาลไทยต่ออายุประทานบัตร 4 แปลง อาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำอีก 44 แปลง พ่วงกับให้เปิดโรงแปรรูปโลหกรรมได้ ถือเป็นการดำเนินการคู่ขนานกับการพิจารณาในอนุญาโตตุลาการ จับตาคำตัดสินสิ้นเดือนมกราคมนี้
ผลจากการใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 72/2559 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในช่วงเวลานั้นเรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ด้วยการระงับการอนุญาตให้สำรวจและทำเหมืองแร่ การต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ และการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมแร่ทองคำ ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 หรือการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ได้สิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวมีผลทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี (Chatree Gold Mine) พื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดพิจิตรกับจังหวัดเพชรบูรณ์ของบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Kingsgate Consolidatedผู้บริหารจัดการเหมืองแร่ทองคำรายใหญ่ ต้อง “ปิดกิจการ” ลงไปเป็นเวลาถึง 5 ปี
และตามมาด้วยข้อขัดแย้งระหว่างบริษัท Kingsgate กับรัฐบาลไทยด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า การระงับสัมปทานเหมืองแร่ทองคำชาตรีของรัฐบาลไทย (คสช.) นั้น เป็นการ “ละเมิด” ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) โดยอ้างเหตุผลเรื่องของปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมโดยที่ยังมีข้อโต้แย้งและไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเกิดจากกระบวนการทำเหมืองแร่ของบริษัทอัคราฯ
และตามมาด้วยการยื่นเรื่องต่อคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2560 เพื่อระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลไทยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 750 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 25,000 ล้านบาท
โดยคณะอนุญาโตตุลาการมีกำหนดการที่จะแจ้งผลคำตัดสินในสิ้นเดือนมกราคมนี้ หลังจากที่ถูกขอให้เลื่อนผลการพิจารณามาหลายครั้ง เนื่องจาก Kingsgate ได้เปิดการเจรจา “คู่ขนาน” กับรัฐบาลไทยเพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ทยอยต่อประทานบัตร 4 แปลง
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในช่วงระหว่างปี 2563-2564 ภายใต้ พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ (2560) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้กลับมาพิจารณาอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำ ประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ และคำขอต่ออายุประทานบัตรของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ซึ่งถูกคำสั่ง คสช.ที่ 72/2559 ให้ “ระงับ” การดำเนินการทั้งหมดไปตั้งแต่ปี 2560
โดยในเดือนตุลาคม 2563 คณะกรรมการแร่ตาม พ.ร.บ.แร่ 2560 ได้ให้ความเห็นชอบอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษที่ 3/2563-46/2563 ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2568 เพื่อการสำรวจแร่ทองคำจำนวน 44 แปลง (397,696 ไร่) ในพื้นที่ อ.ชนแดน กับ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ (คำขอที่ บมจ.อัคราฯ ยื่นไว้ตั้งแต่ปี 2546 และปี 2548) อาชญาบัตรพิเศษฉบับใหม่นี้ให้มีอายุในการสำรวจไม่เกินแปลงละ 5 ปี
ล่าสุดในเดือนธันวาคม 2564 หรือหลังจากที่ให้อาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ 44 แปลงได้ 1 ปี คณะกรรมการแร่ก็ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ “ต่ออายุ” ประทานบัตรเพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำ และเงินจำนวน 4 แปลง
แบ่งเป็น 1.ประทานบัตรที่ 25528/14714 ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ 2.ประทานบัตรที่ 26910/15365 3.ประทานบัตรที่ 6911/15366 และ 4.ประทานบัตรที่ 26912/15367 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ออกไปอีก 10 ปี โดยประทานบัตรในการทำเหมืองทองจะมีอายุตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2574
นอกจากนี้ กพร.ยังได้ “ต่ออายุ” ใบอนุญาตประกอบโลหกรรมที่ 1/2551 (ใบอนุญาตแปรรูปทองคำ-เงิน) ที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร กับที่ ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ออกไปอีก 5 ปี (19 มกราคม 2565-18 มกราคม 2570)
โดยให้เหตุผลว่า คำขอต่ออายุประทานบัตรทั้งหมดเป็นคำขอที่ บมจ.อัคราฯได้ยื่นไว้ตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2510 และ พ.ร.บ.แร่ 2560 ในพื้นที่ประทานบัตรเดิม และต่อมาได้ยื่นเอกสารประกอบคำขอเพิ่มเติมตามที่ได้กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ (2560) ด้วย
พร้อมเปิดเหมืองทองคำอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่าห้วงเวลาในการพิจารณาอาชญาบัตรพิเศษ การต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ และการต่ออายุโรงแปรรูปโลหกรรมให้กับ บมจ.อัครา รีซอร์สเซสนั้นอยู่ในระยะเวลาเดียวกันกับกระบวนการหารือเพื่อยุติข้อพิพาทนอกคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ระหว่างบริษัท Kingsgate กับรัฐบาลไทย หรือกระบวนการให้การพิจารณาในคณะอนุญาโตตุลาการ 3 ฝ่ายก็พิจารณากันไปส่วนการหารือนอกรอบก็ทำกันไป
จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ผู้เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลไทยกำลังหาทางที่จะยุติข้อพิพาทเนื่องจาก Kingsgate เรียกร้องค่าเสียหายจากการถูกคำสั่ง คสช.ให้ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำคิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง 25,000 ล้านบาท ขณะที่ทางอนุญาโตตุลาการเองก็เลื่อนประกาศคำตัดสินมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
ล่าสุดมีรายงานข่าวเข้ามาว่า บริษัท Kingsgate ได้ออกเอกสารแถลงข่าวในวันที่ 19 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ กพร.ยอม “ต่ออายุ” ใบอนุญาตประกอบโลหกรรมให้กับ บมจ.อัคราฯ
โดย Kingsgate ได้แสดงความยินดีที่รัฐบาลไทยต่ออายุประทานบัตรเดิมของบริษัทจำนวน 4 แปลง การต่ออายุโรงโลหกรรมส่งผลให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี (ที่ถูกคำสั่ง คสช.ระงับการดำเนินการ) สามารถกลับมาเปิดดำเนินการใหม่ หรือ reopen ได้อีกครั้ง โดยบริษัทพร้อมที่จะปรับปรุงโรงงาน จัดหาคน ผู้เชี่ยวชาญในการทำเหมืองต่อไป
“ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ของการทำเหมืองแร่ทองคำชาตรี ทาง Kingsgate รับทราบความร่วมมือและความปรารถนาดีของรัฐบาลไทยที่แสดงผ่านทางการต่อใบอนุญาตประทานบัตรจำนวน 4 แปลงในครั้งนี้” เอกสารของ Kingsgate ระบุไว้อย่างชัดเจน
อัคราฯเริ่มกลับมามีกำไรอีกครั้ง
แหล่งข่าวในวงการเหมืองแร่ตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารแถลงข่าวของบริษัท Kingsgate ฉบับล่าสุดแสดงให้เห็นว่า Kingsgate ตอบรับสัญญาณบวกจากรัฐบาลไทยและแสดงความยินดีที่จะได้กลับมาดำเนินการเปิดเหมืองแร่ทองคำชาตรีที่ถูกปิดไป 5 ปีก่อนให้กลับมาทำเหมืองทองคำต่อในพื้นที่ อ.ทับคล้อ-วังโป่ง
โดยก่อนหน้านี้ในปลายปี 2563 รัฐบาลไทยก็ยอมให้ บมจ.อัคราฯนำ “กากตะกอน” ที่เป็นทองคำจำนวน 4,750 ออนซ์ กับเงิน 34,800 ออนซ์ ซึ่ง บมจ.อัคราฯถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทคิดเป็นมูลค่า 14 ล้านเหรียญออสเตรเลียให้บริษัทไปดำเนินการต่อได้
สำหรับผลประกอบการล่าสุดของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซสรอบเดือนมิถุนายน 2564 ปรากฏว่าบริษัทมีกำไร 307,943,542 บาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (2563) มีผลประกอบการขาดทุน -70,455,130 บาท ในขณะที่ปี 2562 ขาดทุน -258,085,995 บาท, ปี 2561 ขาดทุน -286,513,254 บาท และเดือนมิถุนายน 2560 มีกำไร 977,378,348 บาท
คิงส์เกตรีสตาร์ตเหมืองทอง พลิกขาดทุนทำกำไร 300 ล้าน
30 มกราคม 2565
ประชาชาติธุรกิจ
“คิงส์เกต” แจ้งเหมืองทองคำพร้อมกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังถูกคำสั่ง คสช.หยุดไป 5 ปี ชี้รัฐบาลไทยต่ออายุประทานบัตร 4 แปลง อาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำอีก 44 แปลง พ่วงกับให้เปิดโรงแปรรูปโลหกรรมได้ ถือเป็นการดำเนินการคู่ขนานกับการพิจารณาในอนุญาโตตุลาการ จับตาคำตัดสินสิ้นเดือนมกราคมนี้
ผลจากการใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 72/2559 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในช่วงเวลานั้นเรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ด้วยการระงับการอนุญาตให้สำรวจและทำเหมืองแร่ การต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ และการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมแร่ทองคำ ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 หรือการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ได้สิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวมีผลทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี (Chatree Gold Mine) พื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดพิจิตรกับจังหวัดเพชรบูรณ์ของบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Kingsgate Consolidatedผู้บริหารจัดการเหมืองแร่ทองคำรายใหญ่ ต้อง “ปิดกิจการ” ลงไปเป็นเวลาถึง 5 ปี
และตามมาด้วยข้อขัดแย้งระหว่างบริษัท Kingsgate กับรัฐบาลไทยด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า การระงับสัมปทานเหมืองแร่ทองคำชาตรีของรัฐบาลไทย (คสช.) นั้น เป็นการ “ละเมิด” ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) โดยอ้างเหตุผลเรื่องของปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมโดยที่ยังมีข้อโต้แย้งและไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเกิดจากกระบวนการทำเหมืองแร่ของบริษัทอัคราฯ
และตามมาด้วยการยื่นเรื่องต่อคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2560 เพื่อระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลไทยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 750 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 25,000 ล้านบาท
โดยคณะอนุญาโตตุลาการมีกำหนดการที่จะแจ้งผลคำตัดสินในสิ้นเดือนมกราคมนี้ หลังจากที่ถูกขอให้เลื่อนผลการพิจารณามาหลายครั้ง เนื่องจาก Kingsgate ได้เปิดการเจรจา “คู่ขนาน” กับรัฐบาลไทยเพื่อยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ทยอยต่อประทานบัตร 4 แปลง
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในช่วงระหว่างปี 2563-2564 ภายใต้ พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ (2560) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้กลับมาพิจารณาอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำ ประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ และคำขอต่ออายุประทานบัตรของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ซึ่งถูกคำสั่ง คสช.ที่ 72/2559 ให้ “ระงับ” การดำเนินการทั้งหมดไปตั้งแต่ปี 2560
โดยในเดือนตุลาคม 2563 คณะกรรมการแร่ตาม พ.ร.บ.แร่ 2560 ได้ให้ความเห็นชอบอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษที่ 3/2563-46/2563 ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2568 เพื่อการสำรวจแร่ทองคำจำนวน 44 แปลง (397,696 ไร่) ในพื้นที่ อ.ชนแดน กับ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ (คำขอที่ บมจ.อัคราฯ ยื่นไว้ตั้งแต่ปี 2546 และปี 2548) อาชญาบัตรพิเศษฉบับใหม่นี้ให้มีอายุในการสำรวจไม่เกินแปลงละ 5 ปี
ล่าสุดในเดือนธันวาคม 2564 หรือหลังจากที่ให้อาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ 44 แปลงได้ 1 ปี คณะกรรมการแร่ก็ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ “ต่ออายุ” ประทานบัตรเพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำ และเงินจำนวน 4 แปลง
แบ่งเป็น 1.ประทานบัตรที่ 25528/14714 ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ 2.ประทานบัตรที่ 26910/15365 3.ประทานบัตรที่ 6911/15366 และ 4.ประทานบัตรที่ 26912/15367 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ออกไปอีก 10 ปี โดยประทานบัตรในการทำเหมืองทองจะมีอายุตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2574
นอกจากนี้ กพร.ยังได้ “ต่ออายุ” ใบอนุญาตประกอบโลหกรรมที่ 1/2551 (ใบอนุญาตแปรรูปทองคำ-เงิน) ที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร กับที่ ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ออกไปอีก 5 ปี (19 มกราคม 2565-18 มกราคม 2570)
โดยให้เหตุผลว่า คำขอต่ออายุประทานบัตรทั้งหมดเป็นคำขอที่ บมจ.อัคราฯได้ยื่นไว้ตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ. 2510 และ พ.ร.บ.แร่ 2560 ในพื้นที่ประทานบัตรเดิม และต่อมาได้ยื่นเอกสารประกอบคำขอเพิ่มเติมตามที่ได้กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ (2560) ด้วย
พร้อมเปิดเหมืองทองคำอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่าห้วงเวลาในการพิจารณาอาชญาบัตรพิเศษ การต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ และการต่ออายุโรงแปรรูปโลหกรรมให้กับ บมจ.อัครา รีซอร์สเซสนั้นอยู่ในระยะเวลาเดียวกันกับกระบวนการหารือเพื่อยุติข้อพิพาทนอกคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ระหว่างบริษัท Kingsgate กับรัฐบาลไทย หรือกระบวนการให้การพิจารณาในคณะอนุญาโตตุลาการ 3 ฝ่ายก็พิจารณากันไปส่วนการหารือนอกรอบก็ทำกันไป
จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ผู้เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลไทยกำลังหาทางที่จะยุติข้อพิพาทเนื่องจาก Kingsgate เรียกร้องค่าเสียหายจากการถูกคำสั่ง คสช.ให้ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำคิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง 25,000 ล้านบาท ขณะที่ทางอนุญาโตตุลาการเองก็เลื่อนประกาศคำตัดสินมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
ล่าสุดมีรายงานข่าวเข้ามาว่า บริษัท Kingsgate ได้ออกเอกสารแถลงข่าวในวันที่ 19 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ กพร.ยอม “ต่ออายุ” ใบอนุญาตประกอบโลหกรรมให้กับ บมจ.อัคราฯ
โดย Kingsgate ได้แสดงความยินดีที่รัฐบาลไทยต่ออายุประทานบัตรเดิมของบริษัทจำนวน 4 แปลง การต่ออายุโรงโลหกรรมส่งผลให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี (ที่ถูกคำสั่ง คสช.ระงับการดำเนินการ) สามารถกลับมาเปิดดำเนินการใหม่ หรือ reopen ได้อีกครั้ง โดยบริษัทพร้อมที่จะปรับปรุงโรงงาน จัดหาคน ผู้เชี่ยวชาญในการทำเหมืองต่อไป
“ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ของการทำเหมืองแร่ทองคำชาตรี ทาง Kingsgate รับทราบความร่วมมือและความปรารถนาดีของรัฐบาลไทยที่แสดงผ่านทางการต่อใบอนุญาตประทานบัตรจำนวน 4 แปลงในครั้งนี้” เอกสารของ Kingsgate ระบุไว้อย่างชัดเจน
อัคราฯเริ่มกลับมามีกำไรอีกครั้ง
แหล่งข่าวในวงการเหมืองแร่ตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารแถลงข่าวของบริษัท Kingsgate ฉบับล่าสุดแสดงให้เห็นว่า Kingsgate ตอบรับสัญญาณบวกจากรัฐบาลไทยและแสดงความยินดีที่จะได้กลับมาดำเนินการเปิดเหมืองแร่ทองคำชาตรีที่ถูกปิดไป 5 ปีก่อนให้กลับมาทำเหมืองทองคำต่อในพื้นที่ อ.ทับคล้อ-วังโป่ง
โดยก่อนหน้านี้ในปลายปี 2563 รัฐบาลไทยก็ยอมให้ บมจ.อัคราฯนำ “กากตะกอน” ที่เป็นทองคำจำนวน 4,750 ออนซ์ กับเงิน 34,800 ออนซ์ ซึ่ง บมจ.อัคราฯถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทคิดเป็นมูลค่า 14 ล้านเหรียญออสเตรเลียให้บริษัทไปดำเนินการต่อได้
สำหรับผลประกอบการล่าสุดของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซสรอบเดือนมิถุนายน 2564 ปรากฏว่าบริษัทมีกำไร 307,943,542 บาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (2563) มีผลประกอบการขาดทุน -70,455,130 บาท ในขณะที่ปี 2562 ขาดทุน -258,085,995 บาท, ปี 2561 ขาดทุน -286,513,254 บาท และเดือนมิถุนายน 2560 มีกำไร 977,378,348 บาท