ดูประยุทธ์จะเป็น ‘ตำนาน’ อย่างพระมหาไพรวัลย์ว่า “แหลกหมดละ ประเทศชาติ” หรือทักษิณโค่นประยุทธ์ (ผ่านทางธรรมนัส) ไม่สำเร็จ ดัง ธนาพล อิ๋วสกุล เย้า ทั้งที่อภิปรายไม่ไว้วางใจสี่วันมันหยด เปิดโปง เปิดแผล เปิดบริสุทธิ์รัฐบาลประยุทธ์เยอะแยะ
แม้จะคะแนนไม่ไว้วางใจสู้ขี้หมูไหลไว้วางใจไม่ได้ อีกแล้ว แต่ก็มีข้อสังเกตุคะแนนยี้นายกฯ และรัฐมนตรีครานี้มากกว่าคราวก่อนๆ อยู่เยอะ ฝ่ายค้านจริงๆ ไม่งูเห่า ไม่เต่าเลี้ยง แน่นปึก อยู่ในเกณฑ์ใกล้สองร้อย ขาดนิดเกินหน่อย ตลอดทั้ง ๖ รัฐมนตรี
ประยุทธ์ได้ไว้วางใจ ๒๖๔ รองบ๊วย เฉือนไปแต้มเดียว รมว.แรงงาน สุชาติ ชมกลิ่น ที่ยอมรับว่าไม่สามารถปรับค่าแรงขั้นต่ำได้ตามที่หาเสียงไว้ แต่อ้างว่าเป็นความผิดของโควิด-๑๙ สองรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยได้คะแนนในระดับต้น ๒๖๙ เท่ากัน
เพราะการเลี้ยงงูเห่าได้ผล อย่างน้อย ๖ เสียงจากสังกัดก้าวไกล และดูเหมือนจะมีอีก ๖ ตัวจากพรรคเพื่อไทย อันนี้ยังไม่แน่ใจแต่ซัดไว้ก่อน เพราะเขาคัดรายชื่อออกมา พวก พท.ทีงดออกเสียง นั่งซื่อบื้อไม่ยอมเสียบบัตรโหวตญัตติไม่ไว้วางใจ
หนึ่งในนั้นคือ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ คนที่ออกมาโวยวายหลังเสร็จอภิปรายว่าตนถูกทางพรรคกีดกันไม่ให้อภิปราย วันนี้พรรคไม่เหมือนเดิม ถูกนายทุนครอบงำ ผู้บริหารใช้อำนาจกดหัว ส.ส. ก่อนเปิดอภิปรายเรียกตนไปตรวจสอบเนื้อหาประเด็นที่จะอภิปราย
เขาเล่าประเด็นที่ไม่ได้อภิปรายว่าเตรียมจะพูดถึง การเอื้อประโยชน์จากสัมปทานแก่บรรดาเจ้าสัว รวมทั้งธุรกิจสีเทาภายใต้การควบคุมของทหาร และเรื่องคฤหาสน์หรูสองหลังมูลค่ากว่า ๕๐๐ ล้าน ที่ประยุทธ์ได้รับจากเจ้าสัว จ. แถมผรุสคำให้ร้าย
“มันน่าเจ็บปวดมาก แว่วว่าตอนนี้พรรคที่เป็นประชาธิปไตยจะผสมพันธุ์กับเผด็จการ หลังอภิปรายครั้งนี้นี่แหละครับ ความเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตยมันหายหมดเลย” ปรากฏว่าในชั้นนี้ข้อกล่าวหาชักไม่ขึ้น เมื่อหลายคนยังไม่ลืมครั้งที่แล้ว
ศรัณย์วุฒิอภิปรายยืดเยื้อยาวมากเสียจนหมดโควต้าของฝ่ายค้าน ทำให้รังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกลซึ่งเตรียมข้อมูลเพียบอย่างดีเรื่องมูลนิธิป่ารอยต่อ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่สามารถลุกขึ้นอภิปรายเป็นรายต่อไปได้ ต้องเก็บมาอภิปรายนอกสภา
คราวนี้พรรคเพื่อไทยรีบแถลงทันใดว่าจะทำการตรวจสอบเรื่องการ (ไม่) โหวตของ ส.ส.ทั้งหก ตามที่วางนโยบายไว้แล้วก่อนการเปิดอภิปรายว่า ถ้า ส.ส.คนใดไม่โหวตในญัตติที่พรรคสนับสนุนหรือโหวตสวนมติพรรค จะถูกลงโทษทางวินัยถึงขั้นให้ออกจากพรรค
อนุทิน ชาญวีรกูล และศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายขุดคุ้ยหนักกว่าใคร อนุทินนั้นอยู่ใจกลางของวังวนความไม่ชอบมาพากล ประดุจดัง ‘The eyes of a hurricane.’ พอๆ กับประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี จากความล้มเหลวไม่เป็นท่าแก้ปัญหาโควิด
ถึงขนาดที่กลุ่ม ‘หมอไม่ทน’ รวบรวมรายชื่อประชาชนกว่า ๒ แสน ๗ หมื่นคน รณรงค์เรียกร้องให้ ส.ส.โหวตไม่ไว้วางใจอนุทิน “เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความบกพร่อง...ในวันที่มีผู้เสียชีวิตสะสมเกินหมื่นราย ผู้ติดเชื้อสะสมเกินหนึ่งล้านราย”
นอกจากนั้นยังมีแคมเปญลงมติไม่ไว้วางใจประยุทธ์นอกสภา จัดโดยพรรคเพื่อไทยคู่ขนานไปกับการอภิปรายในสภา ปรากฏว่าทางฝ่ายรัฐบาลจัดแคมเปญมาชนกับฝ่ายค้าน “ลงมติประชาชน สนับสนุนลุงตู่” มีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายสองคนประกบ
พบว่าขณะที่การรณรงค์ของพรรคเพื่อไทยมีคนเข้าไปร่วมลงชื่อไล่ประยุทธ์ (ตัวเลขเมื่อ ๓ กันยา) กว่าล้านครึ่ง การรณรงค์สวนของฝ่ายสนับสนุนประยุทธ์แม้จะมาทีหลัง กลับเสียงพุ่งกระฉูดเกินกว่าสามล้าน (เมื่อตอนหกโมงเย็น และเว็บดับเมื่อตีสองครึ่ง)
เป็นที่น่าทึ่งมากของผู้สังเกตุการณ์ทั่วไป ท้ายสุดพบว่าจำนวนคะแนนเสียงนับได้หลายเขต มากกว่าจำนวนประชากรแท้จริง เช่น “อุดรธานีมีประชากร ๑.๖ ล้านคน แต่มีคะแนนเสียงหนุนประยุทธ์ถึง ๑.๘ ล้านราย ที่สมุทรสงครามก็เช่นกัน
จังหวัดเล็กๆ แห่งนี้มีประชากรจริงเพียง ๑๙๓,๓๐๕ คน ไฉนมีการลงเสีงสนับสนุนประยุทธ์ล้นถึง ๔.๘ ล้านราย ถ้าเป็นการเลือกตั้งสมัยโบราณคะแนนเกินเหล่านี้เรียกว่า บัตรผี-ไพ่ไฟ สมัยนี้โหวตทางอีเล็คโทรนิครวดเร็วกว่าใจนึก คะแนนเสียงออกลูกหลานเกินต้องการ
ผลงานของฝ่ายค้านในการอภิปรายครั้งนี้อีกอย่าง คือนอกจากชี้ให้เห็นความฉ้อฉลของรัฐมนตรีหลายคนแล้ว ยังเปิดกะโหลกให้ชมสมองบูดปัญญาฝ่อของรัฐมนตรีบางคน อย่างศักดิ์สยามซึ่งโดยเปิดโปงภาพและพฤติกรรมมั่วผับ ส่วนหนึ่งของคลัสเตอร์ทองหล่อ
เขากลับโต้แย้งอย่างเด็กอนุบาลว่าไปรับประทานอาหารตามปกติของครอบครัวทั่วไป “เครื่องดื่มที่ดื่มก็เป็นนมเย็น ถ้ากินนมเย็นแล้วถือว่าเสเพล ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร” แต่ข่าวที่ออกมาตอนนั้นจากปากคำของหัวหน้าเชียร์เด็ก บอกอีกอย่าง
ว่าศักดิ์สยามร่ำสุรามั่วนารี จึงเป็นไปได้ว่าคำอ้าง “กินนมเย็น” นั่นอาจระบุถึงนมที่อยู่ในห้องแอร์ ย่อมเย็นเป็นธรรมดา
(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2841352276157646, https://prachatai.com/journal/2021/09/94797 และ https://www.facebook.com/waymagazine/posts/10157983107216456)