เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak
7h ·
วันนี้มีการไต่สวนฝากขังครั้งที่ 4 ในคดีชุมนุม 2 สิงหาคม 2564
เพนกวินและเพื่อนคัดค้านการฝากขังโดยการแถลงต่อศาล แต่ศาลไม่ได้บันทึกคำแถลงดังกล่าว
“ข้าแต่ศาลที่เคารพ
ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ถูกฝากขังไว้ทั้งที่ยังไม่มีความผิดตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยการฝากขังนั้น มิได้ถูกรองรับโดยเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายแม้แต่ประการเดียว เพราะพนักงานสอบสวนได้อ้างถึงเหตุในการควบคุมตัวว่าเป็นไปเพื่อมิให้ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก
ข้าพเจ้ามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าไม่มีกฎหมายข้อใดให้อำนาจศาลคุมขังบุคคลเพื่อจำกัดมิให้ใช้เสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมอย่างแน่นอน อีกทั้งกระบวนการฝากขังนี้ก็ดำเนินไปโดยมิได้มีการเบิกตัวข้าพเจ้ามาร่วมการพิจารณาในการฝากขังครั้งที่สองและครั้งที่สามที่ผ่านมา เท่ากับเป็นการฝากขังข้าพเจ้าลับหลัง โดยศาลรับฟังเพียงฝ่ายตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ มิได้รับฟังข้าพเจ้าที่เป็นผู้ต้องหาแม้แต่น้อย
นอกจากนี้คำร้องฝากขังครั้งที่ 4 ที่ตำรวจยื่นให้ศาลพิจารณายังอ้างว่าข้าพเจ้าจัดกิจกรรมทางการเมืองนำไปสู่การดำเนินคดีทางอาญาก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองเป็นการกระทำที่ผิดซ้ำซาก ข้าพเจ้าจะต้องเรียนต่อศาลว่าในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนทุกครั้งไม่มีครั้งใดที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายนอกจากตำรวจจะใช้กำลังก่อให้เกิดความรุนแรงแก่ประชาชนก่อนเท่านั้น
อีกทั้งข้อหาทั้งหลายที่พนักงานสอบสวนอ้างถึง เป็นเพียงข้อกล่าวหาซึ่งผู้ใดก็กล่าวหากันได้ ข้าพเจ้ายังไม่เคยต้องคำพิพากษาให้มีความผิดในคดีร้ายแรงใด ศาลจึงต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของข้าพเจ้าที่ว่าบุคคลย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยสรุปแล้วการฝากขังข้าพเจ้าเป็นการฝากขังที่มิชอบ ตั้งอยู่บนเหตุผลที่มิชอบ ทำโดยกระบวนการที่มิชอบ ถ้าหากศาลฝากขังต่อก็ถือเป็นการประพฤติมิชอบ
ข้าพเจ้าจึงขอให้ศาลพิจารณาปล่อยตัวข้าพเจ้า และเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในทันที เพื่อมิให้ท่านผู้ซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมายจะต้องละเมิดกฏหมายเสียเอง
ขอศาลโปรดพิจารณา”
หลังการแถลง ศาลตอบกลับมาว่าไม่สามารถจดบันทึกคำแถลงได้ และขออย่าใช้คำพูดเช่นนี้อีกเพราะศาลย่อมยุติธรรมอยู่แล้ว
เพนกวินเลยตอบกลับว่า “ครับ” “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”
ศาลอนุญาตให้ฝากขังครั้งที่ 4 อีก 12 วัน ถึงวันที่ 25 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นผัดสุดท้ายในคดีนี้
#ปล่อยเพื่อนเรา
...
อานนท์ นำภา
September 13, 2010 ·
*** เปลี่ยน-ผ่าน***
เปลี่ยนความ "กลัว" เป็นความ "กล้า"
เปลี่ยน "อ่อนล้า" เป็น "พลัง"
เปลี่ยน "อ่อนไหว" เป็น "มุ่งหวัง"
เปลี่ยน "สังคม" ให้ "สมบูรณ์"
ระบอบเก่า มาถึงกาล
อวสาน และ เสื่อมสูญ
ผองไพร่ จักเพิ่มพูล
เสรีภาพ ที่แท้จริง
กงล้อ ประวัติศาสตร์
ประชาชาติ ต้องช่วงชิง
ปลดปล่อย จากเหลือบปลิง
สู่ "ประชาธิปไตย"
23.25 น. อ๊อฟฟิต หน้ารามฯ
...
Thanapol Eawsakul
September 11 at 7:25 PM ·
กลไกยุติธรรมทั้งหมดจะหยุดเส้นทางการปฏิรูป ไปสู่เส้นทางการปฏิเสธ
.......
ทำไมผู้พิพากษากล้าตัดสินแบบผิดกฎหมาย ไม่มีหลักการอะไรเลย
ทำไมอัยการกล้าสั่งฟ้อง แบบสร้างเรื่องราวมโนขึ้นมาเอง
ทำไมราชทัณฑ์ถึงสามารละเมิดสิทธิผู้ต้องขัง แบบไม่สน ไม่แคร์
ทำไมตำรวถึงกล้าใช้ความรุนแรงแบบไม่เกรงผลกระทบใด ๆ เพื่อหวังสร้างความกลัวให้แก่ผู้ชุมนุม
เพราะกระบวนการทั้งหมดยังไม่มีใครต้องรับผิดชอบ แต่กลับได้รับการปูนบำเหน็จ
ทั้งนี้เพราะทั้งหมดทำในนามการพิทักษ์สถาบันกษัตริย์
จากบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาวที่ต้องการเพียงปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
กระบวนการอันชั่วช้าเลวทรามทั้งหมด ไม่เพียงแต่จะประสบความล้มเหลวในการหยุดยั้งการปฏิรูปสถาบันเท่านั้น
แต่จะยกระดับไปถึงการปฏิเสธเลย
เพราะไม่มีกลไกยุติธรรมทำอะไรที่จะเป็นหลักยึดได้แล้ว
สู่ "ประชาธิปไตย"
23.25 น. อ๊อฟฟิต หน้ารามฯ
...
Thanapol Eawsakul
September 11 at 7:25 PM ·
กลไกยุติธรรมทั้งหมดจะหยุดเส้นทางการปฏิรูป ไปสู่เส้นทางการปฏิเสธ
.......
ทำไมผู้พิพากษากล้าตัดสินแบบผิดกฎหมาย ไม่มีหลักการอะไรเลย
ทำไมอัยการกล้าสั่งฟ้อง แบบสร้างเรื่องราวมโนขึ้นมาเอง
ทำไมราชทัณฑ์ถึงสามารละเมิดสิทธิผู้ต้องขัง แบบไม่สน ไม่แคร์
ทำไมตำรวถึงกล้าใช้ความรุนแรงแบบไม่เกรงผลกระทบใด ๆ เพื่อหวังสร้างความกลัวให้แก่ผู้ชุมนุม
เพราะกระบวนการทั้งหมดยังไม่มีใครต้องรับผิดชอบ แต่กลับได้รับการปูนบำเหน็จ
ทั้งนี้เพราะทั้งหมดทำในนามการพิทักษ์สถาบันกษัตริย์
จากบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาวที่ต้องการเพียงปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
กระบวนการอันชั่วช้าเลวทรามทั้งหมด ไม่เพียงแต่จะประสบความล้มเหลวในการหยุดยั้งการปฏิรูปสถาบันเท่านั้น
แต่จะยกระดับไปถึงการปฏิเสธเลย
เพราะไม่มีกลไกยุติธรรมทำอะไรที่จะเป็นหลักยึดได้แล้ว