วันจันทร์, พฤษภาคม 17, 2564

ขนาดพิฆเนศเหยียบไว้ยังไม่ไหว น่าสงสัยว่าถ้าพระสยามเทวาธิราช องค์ลงเองจะเอาอยู่ไหม


ขนาดพิฆเนศเหยียบไว้ยังไม่ไหว โควิดระบาดเพิ่มวันนี้พรวดเกือบหมื่น ทั่วไป ๒,๗๘๒ ราย ในเรือนจำอีก ๖,๘๕๓ ยอดคนตายเพราะไม่มีเตียงให้รักษาหรือรักษาไม่หายวันเดียว ๒๕ ราย น่าสงสัยว่าถ้าพระสยามเทวาธิราช องค์ลงเองจะเอาอยู่ไหม

(หมายเหตุ @jin_somroutai ช่อง ๓ รายงาน “พบผู้ติดโควิดในเรือนจำทั้งหมดแล้ว 9,783 คน เฉพาะเชียงใหม่ 3,929 คน . แต่จะยังไม่จบแค่นี้ เพราะมีอย่างน้อย 3 เรือนจำ คือ คลองเปรม/ฉะเชิงเทรา/ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ยังตรวจไม่ครบ100%”)

จากคำถามเชิงชี้แนะของ บก.ลายจุด@nuling “ทำไมเป็นพระพิฆเนศไม่เป็นพระสยามเทวาธิราช” บางคนตอบ “หากไม่ได้ผล (ซึ่งแน่นอน) จะได้ไม่กระทบกระเทือนต่อความเชื่อความศรัทธา ในสิ่ง (ที่คิดว่า)ศักดิ์สิทธิ์ ของโครงสร้างรัฐไทย”

แสดงว่า หมอยงตอนนี้เป็น หมอผีไม่ใช่ หมอยาแล้วละ เป็นส่วนหนึ่งของทีม แพทยบริกรดังที่ @Shin_Ajisai ให้ฉายา ต่อการที่กระทรวงสาธารณสุขพยายามจะวาดภาพศักดาของวัคซีนชนิดเดียว ที่มีให้คนไทยไม่พอฉีดขณะนี้

“เอางานวิจัยมาบอกว่าฉีดซิโนแวคกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ นั้นเป็นการพูดความจริงเพียง 25% 1.ระดับภูมิที่ขึ้นไม่ได้บอกว่าป้องกันโรคได้ 2.ตัวเลข Drop out ของ SinoVac เยอะมากกว่า 50% มีปัญหาในการแปรผลแน่นอน 3.mRNA vaccine ภูมิขึ้นสูงกว่าราว 20 เท่า”

ก็คือเขาบอกว่าคำอธิบายของ สธ.ในการชักนำให้คนไทยให้ความไว้วางใจกับซีโนแว็ค (จนบัดนี้ก็มีอยู่อย่างเดียว ไม่ว่าจะสั่งซื้ออย่างอื่นได้ใหม่อีกเท่าไร มันก็ยังไม่มาอยู่ดี) แต่เมื่อเทียบกับวัคซีน โมเดอร์น่า ซึ่งเอกชนจะนำเข้าในเดือนตุลา แล้วเทียบไม่ติด

เนื่องจากเพจ สธ.ยกยอประสิทธิภาพวัคซีนเจ้าสัวเสียจนกลายเป็นหลอกลวง ‘misleading’ ขนาดบอกความจริงครึ่งเดียวยังแย่แล้วเลย นี่บอกแค่ ๑ ใน ๔ ยิ่ง...ปรีย์เข้าไปใหญ่ @ibehindu แจงให้เห็นว่าสาธารณสุขแค่บอกจำนวนคนที่ฉีดแล้วเท่าไหร่ได้ภูมิคุ้มกัน

ไม่ใช่ '% (จำนวนร้อยละ) ในประสิทธิภาพของวัคซีน' หรือประสิทธิภาพป้องกันติดเชื้อตามหลักสากล อันมีการป้องกันไม่ให้เกิดอาการ และป้องกันไม่ให้อาการที่เกิดหนักมาก เป็นต้น ดังนั้น @sumpunta ถึงสรุปว่า “เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้ว sinovac แย่สุด”

นั่นเป็นปัญหาย่อยในปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลประยุทธ์แก้ไม่ตก (อาจเพราะแก้ไม่เป็นแล้วยังอวดดี) จากที่ ชมรมแพทย์ชนบทต้องออกมากระตุกสำนึก เรื่องงบประมาณปี ๖๕ ที่ออกมา “เห็นแล้วจุกอก” เพราะงบสาธารณสุขลดลงถึง ๑๐.๘%

ย่อมหมายถึงว่าการเตรียมรับวัคซีนที่อ้างว่าสั่งไว้แล้วเยอะแยะตอนปลายปีนี้ อาจกระท่อนกระแท่นอีกตามเคย ไม่ต้องพูดถึงความพร้อมของโรงพยาบาลต่างๆ ด้านเตียงรับคนไข้ เครื่องไม้เครื่องมือ ยิ่งที่เกี่ยวกับโรงพยาบาลสนามยิ่งน่าสมเพท

โรงพยาบาลสนามของ พิมรี่พาย ยังดีกว่าและถูกกว่าหลายเท่า แสดงว่าการบริหารงานด้านสุขภาพสาธารณะไม่ชอบมาพากลอยู่ ขณะที่งบประมาณถูกตัด ยังมีภาพลักษณ์การใช้งบประมาณรั่วไหล เข้าไปทับถม หมอชนบท ถึงบอกว่า “แค่นี้นายกฯ คิดไม่ได้”


ชมรมแพทย์แจงให้เห็นงบประมาณรวมปีหน้าลดจากปีนี้ ๖% เหลือ ๓.๑ ล้านล้านบาท นอกจากสาธารณสุขถูกตัดแล้ว ด้านสังคมสงเคราะห์และสิ่งแวดล้อมถูกตัดมากกว่า ที่ ๑๙.๘% และ ๔๗.๑% ตามลำดับ ขณะเดียวกันงบฯ ด้านความมั่นคงลดเพียง ๔.๙%

“แบบนี้นายกฯ สอบไม่ผ่าน วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองไม่เป็น ไม่แยกแยะจัดลำดับความสำคัญเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เอาแต่ประโยชน์พวกพ้อง จ้องซื้อแต่อาวุธ” ทั้งที่ใครดูก็รู้ว่าภัยของชาติขณะนี้ “คือโควิด ไม่ใช่สงคราม”

แน่นอนว่าโควิดมีส่วนทำให้เศรษฐกิจไทยยิ่งทรุดหนักลงไปอีก จากความหวังริบหรี่เมื่อปีก่อนโควิดมาถล่ม ตอนนั้นรัฐบาลยังฝันหวาน เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวราว ๒.๕ ถึง ๓.๕ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ขี้เหล่สุดๆ อยู่แล้ว มาปีนี้ สภาพัฒน์ฯ เอาดอกไม้จันทร์มาแจก

“คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวร้อยละ ๑..๕ (เท่านั้น) ปรับตัวดีขึ้นอย่างช้า ๆ จากการลดลงร้อยละ ๖.๑ ในปี ๒๕๖๓” เข้าใจใช้คำพูดให้ดูดี “ปรับตัวดีขึ้น” จากที่ตกต่ำถึงก้นบึ้ง ทั้งๆ ตัวเลขปรับลด ซ้ำชาวบ้านไม่แน่ใจเชื่อได้แค่ไหน

ช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมาดัชนีเศรษฐกิจไม่เคยโต มีแต่ปรับลดไม่หยุดหย่อน ฤๅ พระพิฆเนศเหยียบพลาด โดนผู้คนจนกระอักในความเป็นอยู่ มากกว่าสยบโควิด

(https://thaipublica.org/2021/05/nesdc-press-gdp-q1-2564/ และ https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2684081)