วันอาทิตย์, พฤษภาคม 16, 2564

น่าเศร้า ‘เห็บกระโดด’ เกาะสถาบันฯ


เห็บกระโดดปรากฏการณ์เช่นนี้ใช่ว่าไม่เคยเกิดมาก่อน ตลอด ๗ ปีที่คณะครองเมืองของประยุทธ์ จันทร์โอชา กำอำนาจติดต่อกันมา เพราะมีพวกเกาะกินจนอิ่มหมีพีมัน กับพวกหมดหนทางไม่คิดกระโดดไปไหน ที่ทำให้การสืบทอดอำนาจยังเป็นไปได้

เห็บชุดใหม่ที่มี นิติธร ล้ำเหลือ ปรีดา เตียสุวรรณ์ และพิชิต ไชยมงคล เป็นแกนออกมาเรียกร้องให้ประยุทธ์ยอม “เสียสละ ลาออกจากตำแหน่ง” คงไม่สามารถทำให้ประยุทธ์เป๋ไปได้เช่นเคย แต่ก็เปิดแผลของผลพวงแห่งรัฐประหารให้เหวอะหวะมากขึ้น

พิชิต แกนนำคนหนึ่งบอกว่า ๗ ปีรัฐบาลประยุทธ์ “ที่สืบทอดจาก คสช. เป็นการยึดอำนาจเพื่อพวกพ้อง ไม่ปฏิรูปประเทศ มีการออกแบบเพื่อสืบทอดอำนาจ เขียนรัฐธรรมนูญให้ตัวเองได้เปรียบ” ดูท่าจะยืมมาจากความอัดอั้นของฝ่ายประชาธิปไตย

“รัฐบาลตระบัดสัตย์ไม่ปฏิรูปประเทศ ไม่ปฏิรูปปรองดอง พร้อมทั้งมีปัญหาในการแก้ไขโควิด-19” ด้านนิติธรโจมตีในเรื่องบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ ว่าตัดสิทธิเสรีภาพด้านการเลือกตั้ง เนื่องจากมี สว.๒๕๐ คนไว้เป็นฐานหนุนรัฐบาลตลอดกาล

“ตนจึงเรียกร้องทุกฝ่ายให้หันกลับมาดูบ้านเมือง ดูความจริงตรงหน้าว่ารัฐบาลควรอยู่ต่อไปหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่า มาตรา ๒๗๒ สามารถทำได้ โดยการได้รัฐบาลในฝัน” มาตรา ๒๗๒ เป็นช่องทางเลี่ยงไม่รับคะแนนเสียงประชาชน โดยเปิดรับนายกฯ คนนอก

ทั้งคู่อ้างเอาสถาบันฯ มาเป็นอีกสาเหตุเพื่อขับประยุทธ์จากตำแหน่ง “ไม่แสดงท่าทีเมื่อสถาบันถูกอ้างประเด็นการเมือง ถูกกล่าวหาใส่ร้ายโจมตีบนท้องถนนอย่างไม่เคยเกิดขึ้น” เขายังเรียกร้องให้องค์กรอิสระต่างๆ ที่มาจากการแต่งตั้ง ลาออกตามไปด้วยกัน

“วันนี้รัฐบาลอยู่ได้ เพราะอาศัยอยู่บนความแตกแยกของประชาชน ถ้าเลือกความสงบจบลุุงตู่ แต่ลุงตู่ไม่ได้อยู่บนความสงบของพี่น้องประชาชน...และรัฐบาลอยู่ได้โดยปล่อยให้มีการละเมิดสถาบัน...ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไป สถาบันจะสง่างามมากขึ้น” นิติธรย้ำ

การโหนสถาบันเพื่อเปลี่ยนตัว นาย ของ กบ เหล่านั้นตอกย้ำความห่วยแตกของรัฐบาลประยุทธ์ ให้เห็นกันกว้างขวางออกไป ไม่เฉพาะที่พร่ำบ่นก่นด่ากันมาในฝักฝ่ายประชาธิปไตยมาแล้วเนิ่นนาน แม้นจะไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าพวกนี้จะยืนหยัดดังโฆษณา

น่าเศร้าที่พวกโหนเจ้าเหล่านั้น คนแล้วคนเล่าท้ายสุดพิสูจน์ได้ว่าอาศัยสถาบันฯ บังหน้าเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้แก่ตน บางคนร่ำรวยมหาศาลจากการกระทำมิจฉาชีพอยู่เบื้องหลัง ประสิทธิ เจียวก๊ก คนหนึ่งละ

เมื่อกองบัญชาการปราบปราม “พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก.ตั้งคณะทำงาน” คดีหลอกลวง รับเงินร่วมลงทุน “ตกเป็นเหยื่อแล้วนับพันราย มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท”

มีการจับกุมผู้ต้องหา ๔ คน หลบหนีเล็ดลอดอีก ๒ คน หนึ่งในนั้นคือนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อายุ ๔๕ ปี ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ซึ่งถูกเปิดเบื้องหลังว่าดำเนินการไอโอให้กองทัพ “อนุญาตให้กองทัพใช้เซิร์ฟเวอร์ฟรี...เมื่อช่วงปลายปี ๒๕๖๓”

ประสิทธิ์คนนี้เคยมีชื่อเสียงอึกทึกในการเชิดชูโครงการ จิตอาสา ๙๐๔ของรัชกาลที่ ๑๐ และเป็นประธานโครงการ คืนคุณแผ่นดินกับผลักดันโครงการ “เที่ยวเพื่อชาติ” ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการใหญ่โตของสถาบันและรัฐบาล

อีกด้านหนึ่งของการที่กลุ่ม ทนายนกเขา เล่นบทขับไล่ตู่ ขานรับกับการเล่นงานขบวนการต้มตุ๋น หลอกคนเอเงินไปลงทุน โดยทีมตำรวจซึ่งเรียกกันว่าเป็นสาย คอแดง ใกล้ชิดเบื้อยุคลบาท ร.๑๐ นับว่าฉกฉวยห้อยโหนการถวายอำนาจกษัตริย์ล้ำเหนือรัฐธรรมนูญ

โดยมิอาจวางใจได้เช่นกันว่าต่อไปภายหน้า จะกลายเป็นมิจฉาชีพฉกฉวยผลประโยชน์ใส่ตน ภายใต้ร่มโพธิ์สถาบันกษัตริย์

(https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2092581VejokrcE, https://www.matichon.co.th/politics/news_2724228 และ https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10161771174574848)