การอุ้ม ‘ธรรมนัส’ ของรัฐไทยภายใต้คณะสืบทอดอำนาจ และ ตลก.รัฐธรรมนูญใบสั่ง คสช. ทำให้รัฐบาล ‘ประยุทธ์’ สั่นคลอนอย่างไม่เคยเป็นมาตลอด ๗ ปี ขณะที่ความไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาโควิดระบาด ยิ่งจมปลักหนักเข้าไปใหญ่
ไม่ว่าจะสั่งจองซื้อวัคซีนเพิ่มเป็น ๑๕๐ ล้านโด๊สเซส รวมทั้งยี่ห้อไฟ้เซอร์ซึ่งรับปากว่าจะส่งให้ได้ ๑๐-๒๐ ล้านโด๊สเซสภายในใกล้สิ้นปี ก็ไม่มีความหมายในความเป็นจริงเท่าไรนัก เนื่องจากหากอัตราการติดเชื้อเพิ่มไม่หยุดไปอีกสักเดือนก็จบกัน
จำนวนเพิ่มผู้ติดเชื้อวานนี้ ๒,๐๐๔ ราย ตายอีก ๒๗ คน วันนี้ผู้ติดเชื้อใหม่ ๒,๔๑๙ ราย ตาย ๑๙ คน ตัวเลขอยู่ระดับนี้มาสองอาทิตย์ได้แล้ว มีคลัสเตอร์ที่โน่นที่นี่แพร่เชื้อเป็นร้อยถึงหลายร้อย ไม่เว้นแต่ละวัน แม้นว่าจะยืดเวลาคำสั่งล็อคดาวน์ไปอีก ๑ อาทิตย์ ก็ยังลูกผีลูกคน
อย่างคลัสเตอร์คลองเตย “รัฐบาลเร่งฉีด Sinovac ให้...แต่ได้บอกกับพวกเขาไหมว่าวัคซีนตัวนี้ไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ เพราะประสิทธิภาพต่ำ มันทำได้แค่ไม่ให้คุณป่วยหนักหรือตาย” Puangthong Pawakapan ติงให้สื่อมวลชนช่วยกันกระทุ้ง
“ถ้ารัฐบาลฟายไม่บอก...เพราะกลัวถูกด่าว่าโง่ซื้อมาทำไม คนที่ฉีดแล้วก็จะคิดว่าตัวเองปลอดเชื้อแล้ว ไม่ระวังคนอื่น แล้วจะหยุดการระบาดได้ยังไง” เธอดูตัวเลขการฉีดวัคซีน “แล้วกลุ้ม จนถึงวันที่ ๓ พค. อัตราการฉีดในจังหวัดเกือบทั้งประเทศ ยังเป็นศูนย์%”
กับคดีธรรมนัส เมื่อศาลยืนกราน ‘จริยธรรมไม่สำคัญเท่ากฎหมาย’ คนทั่วไปรับไม่ได้เพราะเห็นชัดๆ ว่าศาลวินิจฉัยอย่างตะแบงมาร ดั่งว่าพิพากษาตามประกาสิตสวรรค์ (หรือนรกกันแน่) นี่ก็ ปปช.องค์กรอิสระ (จากประชาชน) ทำท่าจะเอาอย่างบ้าง
โฆษก ปปช.นิวัติไชย เกษมมงคล แย้มพราย “ว่าก่อนหน้านี้ก็มีร้องกันมาแล้ว เรื่องรัฐมนตรี #มันคือแป้ง เคยถูกตัดสินจำคุกที่ออสเตรเลีย” แต่ “เป็นพฤติการณ์กระทำผิดก่อนหน้ามารับตำแหน่งทางการเมือง จะไม่เข้าข่ายการทำผิดจริยธรรม”
ก็เลยไปลงเอยที่ว่า ถ้างั้นใครล่ะดันทุรังแต่งตั้งธรรมนัสเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จริยธรรมเป็นคุณค่าไม่ขึ้นกับกาลเวลา ไม่ว่าจะขาดตกบกพร่องตอนไหนของชีวิตทำให้มัวหมองทั้งนั้น มันทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้ไม่เหมาะสม
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้เคยดังทางการเมืองเมื่อครั้งเป็นวุฒิสมาชิก แนะให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า ลาออกจากตำแหน่งซะ “จะดีกับทุกฝ่าย...ดีกับตัวเองไม่ต้องถูกด่าถูกว่า ถูกเสียดสีเดือดร้อน...ดีกับรัฐบาลไม่ต้องถูกกดดัน ถูกดูถูกดูแคลน”
แล้วยัง “ดีกับศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการ เพราะจะลดการวิพากษ์วิจารณ์ ลดความร้อนแรงของการแสดงความไม่เห็นด้วย และบั่นทอนความน่าเชื่อถือของสถาบันศาล” ประการสำคัญ “ช่วยประเทศชาติที่มีปัญหาหนักหน่วงอย่างมากในขณะนี้”
เจิมศักดิ์ไม่วายกระทบรัฐบาล “ทั้งปัญหาการปกครองประเทศ ‘ในแบบแผนเก่า’ อยู่ไปก็หมดความน่าเชื่อถือ และทำให้ให้รัฐบาลหมดความน่าเชื่อถือ ประเทศชาติถูกลดระดับความน่าเชื่อถือ” มีอย่างที่ไหน “รัฐมนตรีที่เคยต้องคดีค้ายาเสพติดสามารถดำรงตำแหน่งได้”
Suppakit Chalermlarp@suppakit ค่อนแคะ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้พูดว่า “แต่รัฐมนตรีคนไหนที่นินทาผม ผมปรับออกนะครับ ผมไม่ไว้วางใจ” ที่ไหนได้รัฐบาลประยุทธ์เองต่างหาก ที่กำลังถูกพรรคร่วมรัฐบาล ‘ไม่ไว้วางใจ’ มีเสียงเรียกร้องให้ถอนตัวกันแล้ว
“อันวาร์ สาและ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ “ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ เสนอขอให้พรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ” โดยอ้างคำวิจารณ์ของ สุณัย ผาสุก
ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์ วอทช์ เอ่ยถึงคำวินิจฉัยคดีธรรมนัสว่า “จะทําให้บรรดาอาชญากรทั้งหลายที่ถูกพิพากษาคดีในศาลประเทศอื่น สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ในประเทศไทยอย่างไร้กังวล อาชญากรรมที่คนเหล่านี้ก่อไว้ในต่างแดนไม่มีความหมาย”
ส.ส.ปัตตานีชี้ว่า “เมื่อฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านนายกฯ ลาออกซึ่งท่านคงไม่ออก ท่านก็คงอยู่อย่างนี้ ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิมเพราะพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นพรรคเดิม...พรรคประชาธิปัตย์ควรใช้โอกาสนี้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติ
ด้วยการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย” น่ายินดีที่พรรคนี้ยังสามารถพูดถึงประชาธิปไตย อย่างน้อยๆ ในบริบทที่ไม่บิดเบือนอำพรางหลักการอันแท้จริง
(https://www.matichon.co.th/politics/news_2711460, https://www.matichon.co.th/politics/news_2712951 และ https://www.facebook.com/workpointTODAY/posts/1595507997485139)