“ก็ผมได้คุมอะไรมั้ยล่ะ” คำตอบสำเร็จรูปที่ขึ้นคานเป็นคล้าสสิคแล้วนะเฮียป้อม นักข่าวถามในฐานะที่ลุงยังกินเงินเดือนรองนายกฯ เป็นแสน แถมเป็นพี่ใหญ่ คสช.นอกจากคุมพวก ส.ส.ทีมกัดของพรรครัฐบาลแล้ว บารมียังมีอยู่เยอะกับพวกตำรวจ
แม้ว่าจะไปทางตำรวจควบคุมบ่อน ป้องกันค้ายา ขี้หมูราขี้หมาแห้งอะไรงี้ ไม่ยุ่งตำรวจจับเด็กก็เถอะ ในเมื่อถูกฝ่ายค้านจี้ “จี้ให้กองทัพตัดงบฯ จัดซื้ออาวุธปี ๒๕๖๕ เอามาเยียวยาโควิดฯ มีความเป็นไปได้หรือไม่” ถึงไม่ได้คุมกองทัพก็ตอบได้
ไหนๆ กองทัพ (ผ่านโฆษก ทบ.) ยังบอกแล้วเลยว่าเรื่องของพวกกรู “เป็นเรื่องที่กองทัพและรัฐบาลต้องหารือกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย” พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ “แถ-ลง” (ฉกมาจากคำของ ชำนาญ จันทร์เรือง อ้างถึงถ้อยของ รมว.กปปส.)
วงเงินรวมกันกว่า ๖,๑๕๒ ล้านบาท ไม่น้อยเลย ช่วยซื้อวัคซีนราคา ‘หูฉี่’ จากจีนได้หลายโด๊สอยู่ ในเมื่อจะหวังพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานคืนงบประมาณ ‘ขุน’ สถาบันกษัตริย์หลายหมื่นล้านไม่ได้ มีคนติดป้ายแนะแนวไว้ที่ลำปาง ยังโดน ม.๑๑๒
‘ตำรวจนอกเครื่องแบบ’ สไตล์แกสตาโปของเยอรมนี (ดินแดนที่ยุคปัจจุบันกษัตริย์ไทยองค์ปัจจุบันทรงโปรดปรานใช้เป็นที่พำนักกึ่งถาวรอยู่นาน จนกระทั่งทรงมาติดหล่มอยู่ในประเทศไทยขณะนี้) เข้ารื้อค้นบ้านพักนักศึกษา แล้วแจ้งข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ๕ คน
มีบัณฑิตและนักศึกษาหญิงสองคนตกเป็นผู้ต้องหา ร่วมกับนักศึกษาและบัณฑิตอีกสามคน อ้างว่าร่วมกันเป็นผู้ติดป้ายไวนิลขนาดใหญ่บนสะพาน ข้อความ “งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID19” โดยหมายค้นที่ตำรวจต้องกลับไปแก้ไขใหม่ระบุให้ไปรายงานตัว ๒๕ มกรา
เรื่องนี้ ‘รุ้ง’ Panusaya S. @PanusayaS ทวี้ตว่า “จากการแขวนป้ายผ้าข้อความ “งบสถาบันมากกว่าวัคซีนโควิด-19” และในจำนวนคนที่โดน ๑๑๒ มี ๕ คน ซึ่ง ๒ คนในนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำใด ๆ เลย แต่โดนยัดข้อหาให้”
ซึ่ง อานนท์ นำภา อธิบายเพิ่มว่ากรณีนี้เป็นเพียง ป.อาญา ม.๑๑๒ “ถูกใช้ปิดปากไม่ให้พูดถึงสถาบันกษัตริย์อย่างวิปริต ทั้งที่ป้ายไม่ได้หมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นกษัตริย์แต่อย่างใด หากแต่คือความจริงที่สังคมควรจะได้ตรึกตรองว่า...สิ้นเปลือง” เพียงไร
ซ้ำร้ายกำลังเป็นปัญหาว่าประชากรโดยรวมจะไม่อาจได้รับวัคซีนอย่างถ้วนหน้า หรือถ้าได้อาณิสงค์ติดปลายเข็มบ้าง ก็อาจเป็นวัคซีนที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพได้เต็มร้อย ขณะที่วันนี้ อย.เริ่มกระบวนการตรวจรับการขออนุญาตของวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า
วัคซีนนี้เป็นของอังกฤษที่รัฐบาลซึ่งตู่ถือครองออกเงินสนับสนุน ๑,๔๔๙ ล้านบาท เพื่อสั่งจองและให้บริษัทสยามไบโอไซน์ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นผู้จัดแจกและรับเอาเทคโนโลยี่มาจัดตั้งโรงงานผลิตเองต่อไป
ส่วนวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ เช่น ไฟ้เซอร์ และโมเดอร์น่า ซึ่งล้วนประสิทธิภาพ ๙๕ เปอร์เซ็นต์มากกว่าสองยี่ห้อเส้นใหญ่สาย ‘เจ้า’ และ ‘เจ้าสัว’ ก็เลยติดหล่มยังมาไม่ได้ แต่รัฐบาลตู่ก็โคตรใจดี ไม่ห้ามนะถ้าท้องที่ไหนจะเอาวัคซีนฝรั่งก้ได้ แต่ต้องจ่ายเอง ฮา
แล้วยิ่งตอนนี้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับวัคซีนยี่ห้อ ‘ซิโนแว็ค’ ออกอาการพิรุธ ทีวีช่อง TNN16 ของเครือซีพี “กำลังปั่นข่าวลบว่าด้วยวัคซีนฝรั่ง เพื่อจะโปรโมทวัคซีนซิโนแวคของจีนที่ซีพีถือหุ้น ๑๕ %” Thanapol Eawsakul ท้า
ถ้า ‘Made in China’ ดีจริง “เสนอให้ฉีดซิโนแว็คให้กับ ธนินท์ เจียรวนนท์ เป็นคนแรก” เพื่อรับประกันสรรพคุณ นั่นรายยักษ์ ๒ ล้านโด๊สเซสไม่พอ รายย่อยเทศบาลบ้านฉาง เอากับเขาด้วย ซื้อรถฉีดน้ำยาฆ่าโควิดจากจีน ๑ คัน ๖ ล้านบาทมาใช้
นวัตกรรมใหม่นะเนี่ย “ใช้พลังเทอร์โบเจ็ทฉีดละอองฝอยในระยะ ๑๐๐ เมตร ในระยะเวลา ๑ ชั่วโมงถึง ๒๐กิโลเมตร สามารถตอบโจทย์ด้านการยับยั้งการแพร่เชื้อโควิด-๑๙” ได้ ต้องให้รอยเตอร์ ซีเอ็นเอ็น ประโคมแล้วละ ชาวโลกจะได้ตื่นตา
(https://www.one31.net/news/detail/27547M.facebook, https://tlhr2014.com/archives/25254 และ https://www.thairath.co.th/news/politic/2014824)