พอขึ้นปีงัวก็มีตำนานให้ต้องบันทึก (เก็บไว้เผื่อศาลอาญาระหว่างประเทศต้องการ) ว่ารูปเป็ดเหลืองใส่แว่นนี่ผิดอาญามาตรา ๑๑๒ ซึ่งโทษจำคุกแต่ละกรรม ๓-๑๕ ปี เหตุจากพวกคณะราษฎรพิมพ์ปฏิทินเป็ดออกขาย นัยว่าเป็นรุ่นพิเศษ ‘พระราชทาน’
ภายใน “รวมทุกคำสอนของเรา” เทพเจ้าเป็ดเหลืองนั่นแหละ โดยจำเพาะที่ตำรวจ สน.หนองแขมอ้าง “ข้อความในปฏิทินนั้นมีเนื้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์” ทนายของผู้ต้องหาจึงทักท้วงว่าแจ้งข้อหาอย่างนี้กำกวม
ทนายขอให้ระบุข้อความที่เข้าองค์ประกอบความผิดดังกล่าวให้จะแจ้งหน่อยสิ ตำรวจเลยชี้สามภาพในปฏิทิน หนึ่ง เป็นภาพที่มีข้อความ “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” ว่าอันนี้เป็นพระราชดำรัสของ ร.๑๐ (สงวนสิทธิห้ามใครอื่นที่ไหนใช้ มั้ง)
สอง คำว่า “ปฏิทินพระราชทาน” ก็ใช้ไม่ได้ ไม่ว่าเจ้าเจี้ยวไหนๆ ได้เฉพาะเจ้านี้เจ้าเดียว ส่วนข้อสาม ภาพเป็ดเหลืองใส่แว่นหน้าเหมือน ร.๙ และมีเม็ดเหงื่อหยดปลายจมูก พร้อมข้อความ “เหงื่อเราจะเทไปให้ต้นไม้ของพ่อยังงดงาม” ก็ไม่เห็นหมิ่นหรือก้าวร้าวตรงไหน
รวมความว่าอะไรที่ละม้ายคล้าย ‘ร.’ ละก็ ‘ห้าม’ มันศักดิ์สิทธิ์ปานนั้น คงจำกันได้ ส.ศิวรักษ์ เคยโดน ม.๑๑๒ เหมือนกัน ถูกข้อหาดูหมิ่นพระนเรศวรฯ นี่สงสัยประเทศไทยต้องเลิกเรียนประวัติศาสตร์ เดี๋ยวเจอคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกันระนาว
คดีที่ตำรวจหนองแขมบุกจับกุมแอ็ดมินเพจคณะราษฎร ค้นบ้าน ยึดโทรศัพท์มือถือ ยึดปฏิทินรูปเป็ดและเหรียญที่ระลึก นั้นจัดการโดยละม่อม ต่างกับการใช้กำลังหน่วยผ้าพันคอสีฟ้า จู่โจมหักหาญ ใช้กำลังดัน ต่อยถีบชุลมุนเชียวละ เพราะ ‘ม็อบย่างกุ้ง’ ขัดขืน
ถึงอย่างนั้นเห็นราษฎรโซเชียลทวี้ตกันขรม รัฐบาลประยุทธ์นี่เก่งแต่จับประชาชนขายกุ้ง แต่ไม่มีปัญญาจับบ่อน (ที่แพร่โควิดรอบนี้) ได้สักราย มีแต่ย้ายผู้กำกับการไปแล้วสองคนจากระยองและชลบุรี เขาว่าเจ้าของบ่อนเหล่านั้นขาใหญ่ ‘เส้นป้อม’
‘โตโต้’ ปิยรัฐ จงเทพ แกนนำขายกุ้งช่วยเกษตรกรฟาร์มกุ้งนครปฐม ที่ถูกจับกุมจากสนามหลวงพร้อมด้วยเพื่อนๆ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ‘วีโว่’ รวม ๑๖ คน เขียนจดหมายออกมาจาก ตชด.ภาค ๑ สถานที่ควบคุมตัว ต้อนรับปีใหม่ “จากในกรงขัง
ขอให้พลังในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยจงอยู่กับทุกท่าน เป้าหมายของปีนี้มีสั้นๆ เพียงข้อเดียวเท่านั้น คือการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้กลับมาอยู่ในร่องในรอย...จับมือกันไว้ให้แน่น ปี ๒๕๖๔ นี้ สู้กันสนุกแน่นอนครับ” แม้นว่าทั้ง ๑๖ คนยังถูกห้ามประกัน
ระหว่างการจับกุมที่สนามหลวง นอกจากผลักดันกันจนฝ่าเท้าตำรวจนายหนึ่งไปเข้าหน้าน้องผู้หญิงคนหนึ่งเข้าแล้ว ยังมีการยึดของกลางคือกุ้ง ๓-๔ ตันที่เกษตรกรนครปฐมขนมาส่งให้ทีมวีโว่จัดการขาย เห็นว่าเงิน ๘ แสนที่วีโว่รวบรวมไว้จ่ายค่ากุ้งก็ถูกยึดไปด้วย
แม้ทีมงานย้ายไปตั้งโต๊ะขายหน้าอนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลา แยกคอกวัว แล้วตำรวจก็ยังตามไปรังควาญ จน ส.ส.ก้าวไกล วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ตั้งข้อสังเกตุตำรวจ “กรุ้มกริ่มพินอบพิเทาดีจังเลย” ตอนไปจับบ่อนระยองน่ะ กับประชาชน “ใส่แม่ไม้มวยไทยแบบเต็มๆ”
ที่คอกวัวตอนท้าย ยามดึกมี มือร้าย ไปขว้างระเบิดใส่เต๊นกิจกรรมขายกุ้งและเค้าท์ดาวน์ “มีผู้บาดเจ็บ ๓ ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็ก ๖ ขวบ” แต่กับที่ ซีพี ไปตั้งเตีนขายกุ้งต้มใส่ถุง ๕๐๐ กรัม ๒๐๐ บาท อ๊ะราบรื่น เช่นกันกับงานเค้าท์ดาวน์ที่ ‘ไอค่อนสยาม’
มีคนเอาภาพมาเผย บอกคนแน่นเชียว “รู้สึกจะแน่นกว่า Big Mountain นะครับ” งานคอนเสิร์ตที่ไร่บนเขาใหญ่นั้นถูกผู้ว่าโคราชบุกปิด อ้างว่าเสี่ยงโควิดไง เพียงแต่ว่าบนเวทีคอนเสิร์ตศิลปินบางกลุ่มออกแนว ‘ติสต์’ แรง แต่งชุด ‘บิณฑ์’ แบกศพตราสังข์ร่วมแสดง
เป็นอันว่าปี ๒๕๖๔ นี้ม็อบต่อต้านรัฐ ‘เผด็จการศักดินา’ กลับมาแน่ จากผลแห่งการกระทำชั่วร้ายและข่มเหงของตำรวจ จวบกับความประพฤติของรัฐบาลที่หยามเหยียดประชากรบางกลุ่มบางฝ่าย ขณะที่ยกหางเจ้าสัว และระย่อหงอต่ออิทธิพลมิจฉาชีพ
ชนิดที่ Atukkit Sawangsuk ตบะแตก บริภาษณ์ “มึงคิดว่าจะเผด็จศึก? ในขณะที่พวกมึงทำประเทศฉิบหายด้วยโควิดแล้วฉวยโอกาสห้ามม็อบ ประชาชนอาจไม่มีทางเผด็จศึก แต่ก็พร้อมจะทำให้พวกมึงฉิบหายล่มจมไปด้วยกัน”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_2508303, TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน @TLHR2014 และ https://www.facebook.com/ThammasatUFTD/posts/200712695070192?notif_id=1609444240738588)