วันพุธ, มกราคม 20, 2564

ดราม่าร้อน #วัคซีนพระราชทาน ผลาญภาษี-ทวงบุญคุณ ไม่มีข้อเท็จจริงมาหักล้างธนาธร


เบนจา อะปัญ สมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชูป้ายแสดงความคิดเห็นประเด็น วัค”ซีน” COVID-19 ที่ถูกผูกขาดไว้โดย “เจ้า”
ภาพจาก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

ดารุณี กฤตบุญญาลัย - Darunee Kritboonyalai
3h ·

วันที่ 19 มกราคม 2564(2021)
งามหน้า..
*หนักแผ่นดิน!! วัคซีนทรราช ปล้นชาติ-ผูกขาดชีวิตคน โกงกระฉ่อนประเทศ 1.8 หมื่นล้านบาท***
.
ดราม่าร้อน รัฐบาลโจรปล้นชาติ รีดหัวคิววัคซีนโควิด 70% ซื้อแพงสุดในโลก ส่งไอ้โม่งฮั้วประมูลเอื้อเอกชนรายเดียวผูกขาดวัคซีนไทย ซิวขุมทรัพย์ 18,000 ล้านบาท ขุดแฉ SiamBioScience ไร้ผลงาน-ผลาญภาษี ส่อโกงไม่เปิดประมูล ฉีดคนตายใครรับผิดชอบ เชิญสลิ่มฉีดก่อนเลย!!
.
#วัคซีนพระราชทาน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขุดแฉ รัฐบาลโจรรีดหัวคิววัคซีนโควิด AstraZeneca 26 ล้านโดสต์ เฉลี่ยเข็มละ 150-160 บาท ส่อแพงสุดในชาติอาเซียนสูงกว่าเพื่อนบ้าน 50% ขณะที่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโด และฟิลิปปินส์ ซื้อวัคซีนดังกล่าวในราคา 90-100 บาท ส่อเปิดช่องเอื้อขบวนการกินหัวคิว-โกงเงินทอน ทั้งยังล็อกสเป็กผูกขาดให้บริษัทในไทยรายเดียว เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายทั้งใน-นอกประเทศ โดยใช้ภาษีคนไทยไปลงทุนกับบริษัทที่ไม่มีประสบการณ์ด้านวัคซีน และอาจลงท้ายด้วยการทวงบุญคุณราษฎรเหมือนที่ผ่านๆมา
.
Siam Bio Science สยามไบโอไซเอนซ์ ถูกสังคมครหาว่าฮั้วประมูลพัฒนาวัคซีนโควิด โดยใช้ภาษีคนไทยไปทำวิจัยสูงถึง 1,449 ล้านบาท กำลังผลิต 200 ล้านโดส โดยเน้นส่งออกทำกำไรที่ 174 ล้านโส แต่คนไทยได้ใช่แค่ 13% ของกำลังผลิตหรือแค่ 26 ล้านโดส หวังฮุบชิ้นปลามันคาดการณ์มูลค่าตลาด 18,000 ล้านบาท ผ่านการผูกขาดและใช้กฎหมาย อย.กีดกันคู่แข่งรายอื่น ทำให้คนไทยไม่มีทางเลือกวัคซีนอื่น คำถามคือวัคซีนจะปลอดภัยหรือไม่ เพราะขนาด ญี่ปุ่น-สิงคโปร์ มีบริษัทยาระดับโลก ยังไม่กล้าผลิตวัคซีนใช้เอง เพราะมันเป็นการลงทุนที่ไม่ยั่งยืน-มีความเสี่ยงสูง ภายในปี 2565-2566 วัคซีนโควิดจะล้นตลาด การทำ marketing ธุรกิจประเภทนี้จึงเป็นแค่การทำกำไรระยะสั้นเพียงเท่านั้นแบบ Short-Term Investment ที่ผลตอบแทนต่ำ ไม่คุ้มกับความเสี่ยงอีกด้วย
.
ขณะที่ ‘วัคซีนจีน’ พบการรีดหัวคิด 70% เอื้อวัคซีนเซิ่นเจิ้น Sinovac ส่อซื้อแพงสุดในโลก ใช้งบสูงกว่า บราซิล อินโดนีเซีย ยูเครน เป็นต้น ราคาพุ่งโดสละ 600 บาท แต่ประสิทธิภาพต่ำต้อย 50.4% สูงเทียบชั้นราคาวัคซีนดีสุดในโลก (Pfizer) ซึ่งประสิทธิภาพ 90-95% พุ่งเป้าสาเหตุล้มดีล Pfizer 13 ล้านโดสต์ เพราะเงินทอนไม่ลงตัว จนเป็นเหตุให้ รัฐบาลไทยซื้อวัคซีน Sinovac ในราคา 600 บาท/โดส ขณะที่สหภาพยุโรปซื้อวัคซีน Pfizer ในราคา 436 บาท/โดส
.
“ขอถามประยุทธ์ว่าถ้ามีการดีลวัคซีนที่ได้มาจาก บริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีในหลวงรัชกาลที่10 เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรง หากเกิดว่าวัคซีนมีปัญหา ผลิตวัคซีนช้า หรือประชาชนใช้แล้วเกิดการแพ้ หรือมีประสิทธิภาพต่ำ จะรับผิดชอบไหวมั้ยแล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ สถานะผู้เล่นทางเศรษฐกิจกับสถานะของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยไปด้วยกันไม่ได้" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าว
.
การเลือกพึ่งพาวัคซีนจาก แอสตร้าเซนเนก้า-ไบโอไซเอนซ์ ยังเป็นการสร้างความชอบธรรมทางการเมืองของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยการแสดงให้เห็นถึง "ความจงรักภักดี" ซึ่งล้วนสะท้อนภาพของสังคมกะลาแลนด์ ที่เทิดทูนระบอบอำนาจนิยม แบบไม่ต้องสนคุณค่าชีวิตของมนุษย์ หรือการระดมจับนักศึกษาแต่ปล่อยเจ้าพ่อบ่อนลอยนวล เรียกได้ว่าเข้าตำรา ‘ชิบหายไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้’
.
รัฐบาลประยุทธ์ เป็นไปอย่างล่าช้าและไม่สามารถครอบคลุมประชากรอย่างเหมาะสมและทันท่วงที เพื่อให้ประชากรที่มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นมากพอในประชากร หรือ ภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ทั้งยังเลือกการผูกขาดแบบ "แทงม้าตัวเดียว" ไม่เปิดทางเลือกอื่นจากบริษัทอื่น ๆ เสี่ยงทำให้คนไทยตายด้วยความซาบซึ้งหรือไม่
.
[[[ ผลาญภาษี-ทวงบุญคุณ ]]]
.
บริษัทในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์กำลังเจอเสียงด่าดังระงมไปทั้งประเทศ โดยเฉพาะอภิสิทธิ์พิเศษ (Privilege) ทางการลงทุนที่อาจขัดต่อกฎหมายการแข่งขันเชิงธุรกิจ ยกตัวอย่างเคส ‘ดอยคำ’ " ที่ได้งบฯจากรัฐปีละ 600 กว่าล้านบาทสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ โดยหนึ่งในกิจกรรมที่ใช้งบประมาณที่ว่านี้ คือการแปรรูปและพัฒนาสินค้าเกษตร ก่อนจะถูกนำไปผลิตและจำหน่าย รวมถึงกินรวบกินกำไร ภายใต้แบรนด์ "ดอยคำ"
.
งบประมาณจากเงินภาษี -> อุดหนุนมูลนิธิโครงการหลวง -> ม.โครงการหลวงใช้งบฯ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ก่อนจะให้ #ดอยคำ ซึ่งมีฐานะเป็น "บริษัทเอกชน" (และถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานทรัพย์สิน) ผลิตและจำหน่าย สรุปคือ ดอยคำ เป็นบริษัทเอกชนที่ใช้เงินภาษีประชาชนเป็นทุนแต่พอขายสินค้าแล้ว เงินตกเป็นของผู้ถือหุ้นในบริษัท เคสนี้คล้ายกับ Siam Bio Science ที่รับงบประมาณจากรัฐมานาน แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคุ้มค่าหรือไม่ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจว่ามีความพร้อมแค่ไหนทั้งด้านศักยภาพและผลประกอบการ จากข้อมูลที่สยามไบโอไซเอนซ์รายงานต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ผลประกอบการปี 2556 - 2562 ขาดทุนอย่างต่อเนื่องหลายสิบล้านบาท แม้ว่าจะมีรายได้รวมที่เข้ามาเพิ่มขึ้นในแต่ละปีก็ตาม
.
สอดคล้องกับข้อครหาของสำนักงานทรัพย์สินที่ใช้สิทธิพิเศษทางการลงทุนและอำนาจความเป็นรัฐ ในการเอื้อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ผ่านการกำหนดเชิงนโยบายที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับรัฐ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ และได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องเสียภาษี ในหลากหลายเซคเตอร์ธุรกิจทั้ง ภาคก่อสร้าง ภาคการผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคเฮลธ์แคร์เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีข้อครหาเรื่องการดำนเนธุรกิจแบบขัดต่อพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประเด็นการโอนที่ดินแลกหุ้นสมัยวิกฤติต้มยำกุ้ง ขณะที่การโอนสำนักงานทรัพย์สินกลับไปเป็นสมบัติส่วนพระองค์ถูกสังคมตั้งคำถามถึงการกระทำที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่

https://www.facebook.com/DaruneeOfficial/posts/3787987867932940
...

ความเห็นส่วนหนึ่ง

ไวดี สรุปสาเหตุได้แล้วยังสลิ่ม ว่าการยกทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ให้เป็นชื่อท่านแต่เพียงผู้เดียวจะเกิดผลเช่นไร นี่แหละสิ่งที่เป็นคำตอบของการร้องถามของเด็กๆมัน ว่าทำแบบนี้แล้วถ้าเกิดมีปัญหาร้องเรียนจะเอาผิดได้มั้ย คำตอบวันนี้ชัดแล้วว่าไม่ได้ มึงหมิ่นๆๆๆ
...
ทุกครั้งที่ไล่จับคนออกมาพูดมันเหมือนยอมรับกรายๆว่าเค้าจี้จุดถูกเค้าถามก็แค่ออกมาตอบไม่ใช่ไปไล่จับเขาแล้วบอกว่าเขาบิดเบือน ปชช.แค่ต้องการคำอธิบายที่มันจริงๆไม่ใช่เถไปเรื่อย
...
ชีวิตกูไอ้สัส กูก็อยากรู้มั้ยว่ามึงจะเอาอะไรมาฉีดใส่กู ไอ้วัคซีนจีนก็ทีนึงแล้วรีบเงี่ยนจะสั่งเขามา โชคยังดีต่างชาติเขาออกมาเปิดโปงความเหี้ยจะให้คนไทยเป็นหนูทดลองวัคซีนจีน แม่เย็ดแล้วจะผิดอะไรถ้าคราวนี้พวกกูจะสงสัยจะตั้งคำถาม มึงมันเหี้ยประชาชนถึงต้องถามไง ไอ้เหี้ยตู่ไปตายซะ
...
ไม่มีข้อเท็จจริงมาหักล้างเขา แต่มีข้อหาที่พร้อมยัดให้เสมอ ตลกจริงๆ