วันพุธ, กันยายน 16, 2563

ถึงจุดนี้แล้ว ‘ช่วงชิงสนามหลวง’ “พื้นที่สัญลักษณ์ของประชาชนกลับคืนมา” คือเป้าหมาย


ไม่สำคัญแล้วละ ธรรมศาสตร์จะปิดประตูไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้า อย่างที่แก้วสรรเรียกร้อง หรือจะเปลี่ยนใจกลับไปเป็นสำนักที่รักประชาชนอย่างควร ในเมื่อถึงจุดนี้แล้ว ช่วงชิงสนามหลวงพื้นที่สัญลักษณ์ของประชาชนกลับคืนมา” คือเป้าหมาย

โรงครัวพร้อม ห้องน้ำเคลื่อนที่พร้อม สองวันกับหนึ่งคืน ดูสิว่าจะใช้ “แก๊สน้ำตา ใช้โล่กระบอง กระสุนยาง” อย่างที่ตำรวจผู้น้อยรายหนึ่งแจ้งต่อ ซีเอสไอแอลเอให้มันรู้ไป หรือว่าจะใช้ พรบ.โบราณสถานเอาผิด จำคุก ๑๐ ปี ปรับ ๑ ล้าน ยังได้

ในเมื่อท่าทีจำนวนผู้ที่เตรียมร่วมชุมนุมจากทั่วประเทศ ๕ หมื่นไม่หนี อาจถึงแสน รัฐบาลประยุทธ์ ณ คสช. จะเอาค่าปรับกว่า ๕ หมื่นล้านไปปะคลังแก้อาการ ถังแตกจากที่ พี่ป้อม บอกว่ารู้แล้ว “จังหวัดไหนมาบ้าง จำนวนเราพอรับมือได้” ก็เถอะ


ขออนุญาตใช้ข้อความของ Atukkit Sawangsuk คอมเม้นต์ละกัน “ยึดสนามหลวง อย่างมากก็แค่เหยียบหญ้า กลับโทษหนักกว่ายึดทำเนียบ ๑๙๓ วัน ขัดขวางการบริหารประเทศของรัฐบาล ก็ให้เห็นกันว่า กฎหมาย ที่แท้แล้วคือเศษกระดาษสกปรก ที่เป็นเครื่องมือของเผด็จการ”

การเอาแผงเหล็กไปกั้น ติดป้าย สำนักพระราชวัง“เป็นพื้นที่หวงห้ามแบบแตะต้องไม่ได้...ห้ามประชาชนเดินผ่าน กั้นรั้วกระทั่งชาวบ้านไม่มีทางเดิน ไม่มีที่รอรถเมล์” มันเกินไป ไม่เห็นแก่ประชาชนหรือไร ทีตั้ง ผบ.ทบ. กับ ผบ.เรือนจำ เป็นรองราชเลขาฯ กินเงินเดือนมากกว่าเดิม ทำได้

คำสั่งสำนักพระราชวัง ๑๒ กันยา โปรดเกล้าฯ“โอนข้าราชการทหาร และข้าราชการพลเรือนสามัญมาบรรจุเป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายพลเรือน” (สอง รัชตะ) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ และ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ ไปเป็น “รองเลขาธิการพระราชวังระดับ ๑๑”

คนแรกจาก ผบ.ทบ. เงินเดือนเดิม ๑ แสน ๗ หมื่น ๕ พัน พออยู่สำนักราชวังได้ ๒ แสน ๓ หมื่น ๖ พัน อีกคนเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์อยู่เดือนนี้ได้แสนห้า เดือนหน้าอยู่วัง ระดับ ๑๑เหมือนกันได้ ๒ แสน ๔ พัน มากกว่าเดิมเยอะ แต่น้อยกว่าคนแรกนิดหน่อย

ถึงจะมี คอนเน็คชั่นชัดเจนอย่างที่ Pavin Chachavalpongpun ว่า “ณรัชต์เป็นผัวมาดามแป้ง ที่อยู่กับประชาธิปัตย์ และเป็นคนสนิทของสิริวัณณวรี...รวมถึงผู้นำเข้ากระเป๋า Hermès ด้วย” (เรื่องกระเป๋านี่ปวินว่า “เมื่อก้อยยังติดคุก แล้วสั่งกระเป๋า Hermès จากในคุก ก็มีณรัชต์เป็นคนจ่าย”)


ไพร่ฟ้าหน้าใสที่ต้องการหมุดเก่าคณะราษฎร ทั้งน้อยใจและเศร้าใจ อะไรกันร่ำรวยอูฟูแล้วยังได้กินเงินเดือนจากงบประมาณรัฐ ซึ่งเก็บจากภาษีอากรที่ประชาชนจ่าย ทั้งๆ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ คนนี้เป็นผู้บริหารใหญ่ สุวรรณชาดตลาด อัพสเกลอยู่แล้ว

อย่างนี้ต้องย้อนไปที่ข้ออ้างของ แก้วสรร อติโพธิ์ ที่ไปยื่นหนังสือกับมืออธิการบดี มธ.แล้วบอกว่า “บ้านเมืองเวลานี้มีสองพวก พวกหนึ่งคือพวกใช้สิทธิ์ใช้อำนาจตามอำเภอใจทุกสี กับอีกพวกหนึ่งอยากใช้สิทธิ์โดยสงบ” นั่นคนไหนพวกไหนกันแน่

พวกนักเรียนนักศึกษาที่จัดม็อบกันมาเกือบรายวันตลอดสองสามเดือนนี่ล้วนพิสูจน์แล้วว่า สันติและมีวุฒิภาวะมากกว่า เผด็จการม็อบ กปปส.ที่แก้วสรรเป็นส่วนหนึ่งในนั้น หลายเท่านัก พวกเยาวชนรุ่นนี้นี่ละที่จะสร้าง ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงขึ้นได้

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2544223759203834CP-R และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/2757145587869157CP-y-R)


ปัจฉิมเหตุ :อีกเส้นทางในการปฏิวิติการเมืองไทยไปสู่ประชาธิปไตยแท้จริง อย่างสันติและด้วยระเบียบกฎหมาย กระบวนการ รื้อ-สร้าง-ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จากการรณรงค์ของ ไอลอว์ได้รายชื่อเกิน ๗ หมื่นรายแล้ว

วันนี้ (๑๖ กันยา) “เครือข่ายจะบุกสภา 'เริ่มก้าวแรก' ยื่นหนังสือแจ้งประธานรัฐสภา ขอยื่นริเริ่มเสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนยื่นจริงวันที่ ๒๒ ก.ย. เพื่อให้รัฐสภาพิจารณาร่างของประชาชนพร้อมร่าง ส.ส.-รัฐบาล” นี่ไง ความรับผิดชอบที่ ประยุทธ์ จันอะไรนะ ถามหา